เอเอฟพี -ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) แดนมังกร ลดลงมาอยู่ที่ 48.1 จุดในเดือนมี.ค. จาก 49.6 จุดในเดือนก.พ. ตกต่ำสุดในรอบ 4 เดือน จากผลสำรวจเบื้องต้นของเอชเอสบีซี ธนาคารยักษ์ใหญ่สัญชาติอังกฤษ
กิจกรรมภาคการผลิต ที่ลดความคึกคักดังกล่าวเป็นผลมาจากการส่งออก ที่ชะลอลงอย่างมาก โดยดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จุด หมายถึง ภาคการผลิตหดตัวลง
ข้อมูลของเอชเอสบีซีนี้จะเพิ่มแรงกดดันให้ผู้กำหนดนโยบายของจีนตัดสินใจผ่อนคลายนโยบายทางการเงินมากขึ้น โดยนับเป็นข่าวในแง่ลบล่าสุดเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน หลังจากจีนประสบการขาดดุลการค้าจำนวนมากในเดือนก.พ. ที่ผ่านมา และรัฐบาลปักกิ่งตัดสินใจปรับลดการตั้งเป้าหมายเศรษฐกิจขยายตัวเป็นร้อยละ 7.5 จากร้อยละ 9.2 ในปีที่แล้ว และร้อยละ 10.4 ในปี 2553
การเปิดเผยดัชนี PMI นี้ยังเกิดขึ้น หลังจากเมื่อไม่กี่วันก่อน บีเอชพี บิลลิตัน บริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ของออสเตรเลียเพิ่งออกมาระบุว่า การสั่งซื้อสินแร่เหล็ก ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการผลิตสินค้าของจีนกำลังลดลง
นักวิเคราะห์ของบีโอซี อินเตอร์เนชั่นแนลในนครเซี่ยงไฮ้ระบุว่า นักลงทุนมองภาพรวมเศรษฐกิจจีนในแง่ร้ายมาก่อนแล้ว และข้อมูลที่เปิดเผยนี้จึงยิ่งเพิ่มความวิตกกังวลมากขึ้น
ฉู่ หงปิน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอชเอสบีซีประจำจีนระบุในแถลงการณ์ว่า แรงกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตจะชะลอลงต่อไปอีก เนื่องจากคำสั่งซื้อสินค้าส่งออกงวดใหม่ ที่ชะงักงัน และความต้องบริโภคภายในประเทศ ที่ลดลง นอกจากนั้น ภาคการผลิต ที่ตกต่ำยังทำให้บริษัทผู้ประกอบการพากันลดการจ้างงาน ทำให้อัตราการจ้างงานในเดือนมี.ค ลดต่ำสุดในรอบ 3 ปีอีกด้วย
ทั้งนี้ เอชเอสบีซีจะมีการปรับทบทวนข้อมูลดัชนี PMI ประจำเดือนมี.ค. ครั้งสุดท้าย และจะนำมาเปิดเผยในโอกาสต่อไป