คอลัมน์ Fund Innovation
By.... Mr.Honey
การลงทุนที่ตอบจุดประสงค์การลงทุนคือเป้าหมายสำคัญของทุกคน เหนืออื่นใด ผู้ลงทุนควรมองตนเองว่าเหมาะกับการลงทุนในรูปแบบไหน ปัจจุบันมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่มี “นวัตกรรมทางการลงทุน” มีวัตถุประสงค์คือสร้างผลตอบแทนที่ดีและลดความเสี่ยง แต่ผู้ลงทุนจะรู้ได้อย่างไรว่านวัตกรรมหรือรูปแบบการลงทุนนั้นจะตอบสนองความต้องการของตนเองได้ ดังนั้น วันนี้คอลัมน์ Fund Innovation ขอเปิดเผยนวัตกรรมการลงทุนที่น่าสนใจ จากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด มาให้ผู้อ่านได้ พิจารณากันว่าเหมาะกับตนเองมากน้อยเท่าไร
สำหรับ บลจ.ทหารไทยนั้น เป็น บลจ.ที่เน้นการลงทุนที่ใช้กลยุทธ์ในแบบ Passive Fund เป็นการสร้างผลตอบแทนของกองทุนไปตามดัชนีตลาด พร้อมๆ ไปกับเน้นการสร้างผลตอบแทนในระยะยาวและกระจายความเสี่ยง โดยที่มีกองทุนให้เลือกหลากหลายตามช่วงจังหวะของการลงทุน
ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด บอกถึงนวัตกรรมการลงทุนของ บลจ.ทหารไทยว่า เราเชื่อว่า หน้าที่ที่สำคัญของ บลจ.คือการสร้างทางเลือก และพยายามทำให้รู้ว่าลูกค้าเราจะเลือกอย่างไร นวัตกกรรมที่ผ่านมาในช่วง 2-3 ปีหลังนี้เป็นผู้นำการลงทุนในแบบ Passive Fund ทั้งกองทุน SET50 และ JUMBO 25 ที่เพิ่งได้รับรางวัล “JUMBO 25 RMF” ไป และได้นำเสนอกองทุน ทหารไทย ธนพลัส ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนระยะสั้น (Short Term Fix Income )
“เราเชื่อว่ามีช่องว่างที่อยู่ในช่วงของตลาด คือเงินที่ไม่ได้ต้องการสภาพคล่องในขนาดทุกวัน แต่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า บนความผันผวนที่อาจจะมากกว่านิดหน่อยถ้าหากดูเป็นรายวัน ดังนั้น จากช่องว่างที่มองเห็นนี้จึงนำเสนอกองทุนอย่าง โกลบอลบอนด์ ฟันด์ ออกไป ที่เชื่อว่าเป็นการก้าวที่สำคัญไปทั่วโลก โดยที่กองทุนไม่ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่เป็นการเปิดโอกาสควบคู่ไปกับความผันผวนจากการลงทุนในต่างประเทศ นี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา”
ส่วนในปีนี้ก็กำลังก้าวไปสู่อีกเส้นหนึ่ง นั่นคือ เราพบว่ามีนักลงทุนแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ไม่อยากเสี่ยงจะอยู่ในเงินฝากและกองทุนตราสารตลาดเงิน และตราสารหนี้ระยะสั้น ส่วนอีกกลุ่มจะไปลงทุนในกองทุน LTF-RMF แต่คนที่จะมาลงทุนในกองทุนรวมยังน้อย ดังนั้นจึงมองว่ายังขาด**บันได**อีกขั้น ในการพานักลงทุนให้ก้าวไปสู่การลงทุนในหุ้นทุน
“เราจึงใส่บันไดให้ถึง 3 ขั้น นั่นคือที่มาของการออกกองทุน 3 กองทุน ชื่อว่า จัดทัพลงทุนระยะสั้น (TMB Asset Allocation Short Term Fund) จัดทัพลงทุนระยะกลาง (TMB Asset Allocation Medium Term Fund) และจัดทัพลงทุนระยะยาว (TMB Asset Allocation Long Term Fund) ซึ่งเน้นไปที่การจัดทัพลงทุนตามระยะเวลา”
เราเชื่อว่า การตัดสินใจที่สำคัญที่สุดคือ Aseet allocation ซึ่งการตัดสินใจนี้มีผลไปถึง 90% ของผลตอบแทนที่จะได้รับ และการตัดสินใจนั้นขึ้นอยู่กับ 2 เรื่อง คือ สภาวะตลาด และ ฐานะของบุคคล โดยที่มีหลากหลายสถานะ ทั้งอายุ ฐานะ ความรู้ ระยะเวลาการลงทุน กระแสเงินที่เข้ามา เป็นต้น ดังนั้น การแนะนำที่สมบูรณ์แบบจะต้องเข้าไปดูความเหมาะสมของลูกค้า
“ความเหมาะสมนั้นก็คือ ระยะเวลาในการลงทุน เพราะบนความผันผวนของหุ้นทุน เราได้เห็นความผันผวนในทุกๆ นาที หากเราขยายการลงทุนให้ยาวนานขึ้น จะเป็นการกระจายความเสี่ยง ทำให้เกิดการครอบคลุมระยะเวลาที่ดีและด้อยของตลาดหุ้น อีกทั้งจะเห็นได้ว่า ในระยะเวลา 5 ปีความเสี่ยงจะน้อยลง ระยะเวลาในการลงทุนจึงเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับนักลงทุน”
ดังนั้นจึงเอาแนวทางนี้นำเสนอให้นักลงทุนที่อยากลงทุนระยะสั้นได้ลงทุนในระยะเวลา 2-3 ปี ในระยะกลาง 3-5 ปี และในระยะยาวคือ 5 ปีขึ้นไป โดยที่สัดส่วนหุ้นทุนในระยะสั้นประมาณ 15% ระยะกลางประมาณ 30% ระยะยาวประมาณ 60%
นอกเหนือจากกองทุนที่เพิ่งออกมาใหม่นี้ ยังมีกองทุนอื่นที่ถือเป็นจุดแข็งของ บลจ.ทหารไทยอีก นั่นคือ กองทุน SET50 และ JUMBO 25 ที่เป็นที่รู้จักกัน โดยกองทุน JUMBO 25 เป็นการลงทุนที่อยู่บนฐานของความใหญ่ในการลงทุน โดยเลือกหุ้น 25 ตัวที่ดีที่สุดมาจาก SET50 ที่มีความสามารถในการทำกำไร และจ่ายปันผลได้ รวมทั้งมีการระวังความเสี่ยงจากการกระจุก โดยที่กำหนดไว้ว่าในแต่ละอุตสาหกรรมจะลงทุนไม่เกิน 3 ตัว และมีการคัดเลือกหุ้นใหม่ๆ 6 เดือนจึงสามารถให้ผลตอบแทนที่สูงแก่ผู้ลงทุน
ทั้งหมดนี้คือนวัตกรรมและแนวคิดทางการลงทุนของกองทุนรวมที่ บลจ.ทหารไทย ได้สร้างขึ้น เพื่อตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องมีความต้องการลงทุนในแบบที่เหมาะกับตนเองและสร้างผลตอบแทนที่ดี ซึ่งการลงทุนนั้นไม่ควรเป็นเพียงแค่เพื่อให้ประหยัดภาษี แต่ควรเป็นการก้าวข้ามไปถึงการลงทุนที่สร้างความมั่งคั่งด้วยระยะเวลาที่เหมาะสม ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญ