xs
xsm
sm
md
lg

ประกันภัยอ่วมน้ำท่วมถ้วนหน้า "BKI-เมืองไทยฯ"กำไรลดฮวบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธุรกิจประกัยภัยอ่วมพิษน้ำท่วมถ้วนหน้า "กรุงเทพประกันภัย" แจง ปี 54 กำไรสุทธิ 52 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนถึง 95.8% แต่ยังจ่ายเงินปันผลผู้ถือหุ้นงวดสุดท้ายในอัตราหุ้นละ 3.75 บาท ในขณะที่ “เมืองไทยประกันภัย” เผยกำไรสุทธิ 57.01 ล้านบาท ลดลง 85.5% เหตุขาดทุนจากการรับประกันภัย 30.51 ล้านบาท

นายชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการและประธานคณะที่ปรึกษา บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2554 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2554 มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 11,104.9 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2553 ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.2 มีผลขาดทุนสุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานแล้ว 1,099.1 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 255.6 รายได้สุทธิจากการลงทุน 1,592.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 58.7 กำไรก่อนหักภาษีเงินได้ 442.6 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 73.4 และเมื่อหักภาษีเงินได้แล้ว บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 52.0 ล้านบาท ลดลงจากปี 2553 ร้อยละ 95.8 มีกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 0.68 บาท

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ซึ่งได้ประชุมเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2555 มีมติจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นงวดสุดท้ายในอัตราหุ้นละ 3.75 บาท รวมทั้งปี 2554 จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 12 บาท

ด้านนางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2554 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีผลประกอบการกำไรสุทธิเพียง 57.01 ล้านบาท ซึ่งลดลงอย่างมากจากปีที่ผ่านมา โดยมีกำไรสุทธิลดลง 336.5 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 85.5 บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 5,745.6 ล้านบาทเติบโตเพิ่มขึ้น 820.75 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 16.7 เมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้ มาจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของเบี้ยประกันภัยประเภทรถยนต์ภาคสมัครใจและประกันภัยประเภทอุบัติเหตุส่วนบุคคล บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยที่ถือเป็นรายได้ของปี 2554 เพิ่มขึ้น 552.9 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 16.1% นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้และผลกำไรจากการลงทุนในหลักทรัพย์รวม 333.5 ล้านบาทซึ่งปรับตัวดีขึ้นปีที่แล้วคิดเป็นร้อยละ 22.4
ด้านค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากจากปีก่อนจำนวน 748.6 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 20.2 โดยมีสาเหตุสำคัญจากค่าใช้จ่ายสินไหมทดแทนจากเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นโดยบริษัทฯรับผลขาดทุนจากการรับประกันภัยสุทธิจากการเอาประกันภัยต่อเป็นจำนวน 556 ล้านบาท หากในภาวะปกติที่ไม่รวมเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ กำไรจากการรับประกันภัยในปี 2554 จะสูงกว่า 400 ล้านบาทถือได้ว่าสูงสุดตั้งแต่บริษัทควบกิจการในปี 2551 แม้ว่าโดยภาพรวมบริษัทฯจะมีขาดทุนจากการรับประกันภัยแต่ยังมีรายได้และกำไรจากการลงทุนที่สูงกว่างวดเดียวกันของปี 2553 จำนวน 22.42 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.2

นางนวลพรรณกล่าวว่า สำหรับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้บันทึกค่าใช้จ่ายไว้แล้วในงบการเงินจากข้อมูลความเสียหายที่ได้รับแจ้งจากผู้เอาประกันประกอบกับการประมาณการอย่างดีที่สุดจากฝ่ายสินไหมและนักคณิตศาสตร์ประกันภัยของบริษัทฯ เพื่อสำรองค่าสินไหมทดแทนที่เกิดขึ้นให้เหมาะสม

อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีความไม่แน่นอนบางส่วนสืบเนื่องจากการอาศัยประมาณการสำรองต่าง ๆ ทั้งที่เป็นสำรองสินไหมทดแทนและส่วนที่เรียกคืนจากการเอาประกันภัยต่อมีการใช้ข้อสมมติฐานจากฝ่ายบริหาร การวิเคราะห์โดยนักคณิตศาสตร์ รายงานการแจ้งความเสียหายจากบริษัทประกันภัยอื่นที่เอาประกันกับบริษัทฯ ตลอดจนผลที่ได้จากการสำรวจภัยของผู้ประเมินอิสระ ดังนั้น ค่าสินไหมทดแทนที่เกิดขึ้นจริงอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปเมื่อมีการจ่ายจริง

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าความเสียหายทั้งหมดจะชัดเจนภายในไตรมาสสองหรือสามของปี 2555 โดยบริษัทฯ ได้มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนทันทีหลังจากตกลงความเสียหายแล้วเสร็จเพื่อเป็นการช่วยเหลือและผ่อนคลายภาระทางการเงินของผู้เอาประกันและเพื่อสนับสนุนนโยบายการทำจ่ายสินไหมที่รวดเร็วของทางคปภ.
กำลังโหลดความคิดเห็น