xs
xsm
sm
md
lg

BKIชี้ธุรกิจประกันปีหน้าดี แต่เบี้ยน้ำท่วมขึ้นแน่20-50%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-กรุงเทพประกันภัยคาดธุรกิจประกันภัยปีหน้าโตตามเศรษฐกิจ แต่เบี้ยประกันน้ำท่วมขึ้นแน่เฉลี่ย 20-50% ด้าน"ชัย

โสภณพนิช"ยันจ่ายปันผลครบ 12 บาท แม้ไตรมาส 4 รายได้จากการประกันภัยขาดทุน พร้อมเคาะยอดสินไหมน้ำท่วม 2.2 หมื่นล้าน แต่จ่ายเองแค่ 800 ล้านบาท มั่นใจไม่กระทบฐานะบริษัท

นายชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด(มหาชน)เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในส่วนของรายได้การประกันภัยในไตรมาส 4 ของปีนี้ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม แต่เชื่อว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลรวมได้ถึง 12 บาทต่อหุ้น โดยจะนำมีกำไรสะสมที่ยังไม่จัดสรรยกมาเพื่อทำการจ่ายปันผลอยู่ประมาณ 2 พันล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้รายได้จาการรับประกันภัยจะขาดทุน แต่ในด้านการลงทุนบริษัทมีกำไรจากการลงทุนเพื่มขึ้น 6-7 ร้อยล้านบาท ซึ่งมาจากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เป็นส่วนใหญ่

"เรามีการลงทุนในหุ้นประมาณ 3 พันล้านบาท แต่ตอนนี้มูลค่มันอยู่ที่ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งตอนแรกเราตั้งใจจะขายทำกำไรช่วงต้นปี แต่เมื่อมีเหตุการณ์น้ำท่วมเราจึงทยอยขายออกไป ซึ่งคาดว่าน่าจะเริ่มเข้าลงทุนใหม่ได้ในปีหน้า"นายชัยกล่าว

นายชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนกำไรจากการรับประกันภัยปีหน้าคงจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากมีประสบการณ์จากการรับประกันภัยน้ำท่วมทำให้เกิดความระมัดระวังในการรับงานมากขึ้น รวมถึงอัตราเบี้ยที่ประกันที่จะปรับขึ้นในปีหน้า โดยบริษัทโดยตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยปี 2555 เติบโต 12,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 และยังคงเน้นการขยายตลาดลูกค้ารายย่อย และจะขยายตลาดสู่ภูมิภาคให้มากขึ้นเพื่อกระจายภัย สำหรับงานที่มีทุนประกันภัยสูง จะต้องมีการประเมินความเสี่ยงภัยก่อนที่จะรับงาน รวมทั้ง ต้องมีรีอินชัวเรอร์รองรับด้วย

ด้าน นายพนัส ธีรวณิชย์กุล ผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพประกันภัย กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจประกันภัยปีหน้าคงจะมีการขยายตัวจากอานิสงส์ของเศรษฐกิจไทยที่น่าจะไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาคเอเชีย ถึงแม้ทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริการยังคงประสบปัญหา ซึ่งผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของไทยน่าจะเติบโตได้ที่ระดับ 4.8%-5%

"ตัวเลขเศรษฐกิจของเราน่าจะดีทั้งในด้านส่งออก และการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่แบงก์ รวมถึงภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ที่น่าจะมีรถยนต์ใหม่ออกสู่ตลาดอีกประมาณ 9.2 แสนคัน ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจแบบนี้น่าจะส่งผลบวกต่อธุรกิจประกันภัยโดยรวม"นายพนัสกล่าว

อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าอัตราเบี้ยประกันภัยคงจะต้องมีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องการประกันภัยน้ำท่วม และคาดว่าเฉลี่ยแล้วน่าจะปรับขึ้นประมาณ 20-50% แต่จะขึ้นอยู่กับพื้นที่ความเสี่ยง ประเภทอุตสาหกรรม และการบริหารจัดการ ที่จะต้องพิจารณาประกอบกัน ซึ่งบริษัทจะมีรายชื่อลูกค้า ที่จะต้องส่งทีมลงไปสำรวจก่อนทำการปรับขึ้นเบี้ยประกันทั้งนี้ การปรับขึ้นเบี้ยประกันคงจะทำเฉพาะกับรายใหญ่เท่านั้น แต่ในส่วของรายย่อยที่เป็นสินเชื่อบ้านคงจะให้ความคุ้มครองตามสัญญาเดิมที่เป็นสัญญาระยะยาว ส่วนลูกค้าใหม่ที่จะมีการเซ็นสัญญาจะต้องรอประเมินอัตราเบี้ยประกันใหม่ก่อน แต่เชื่อว่าคงไม่มีการปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาในส่วนของราย่อยยังคงมีกำไรจากการรับประกันภัยอยู่ และเป็นนโยบายของบริษัทที่จะต้องให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้ารายย่อยด้วย

ยันน้ำท่วมไม่กระทบฐานะ

สำหรับตัวเลขการจ่ายสินไหมจากเหตุการณ์น้ำท่วม บมจ.กรุงเทพประกันภัย รายงานว่า ขณะนี้ บริษัทฯ ได้มีการประเมินตัวเลขภาพรวมในเบื้องต้น โดยมีกรมธรรม์ประกันภัยที่ได้รับความเสียหายจากภัยน้ำท่วมดังกล่าว รวมประมาณ 7,500 กรมธรรม์ ค่าสินไหมทดแทนรวมประมาณ 22,000 ล้านบาท
แบ่งเป็นภาคอุตสาหกรรมที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ และนอกนิคมอุตสาหกรรมอีกบางส่วน ซึ่งส่วนใหญ่ได้ทำประกันภัยทรัพย์สิน ประกันภัยความเสี่ยงภัยทุกชนิด (Industrial All Risk Insurance) หรือ IAR ประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก ค่าสินไหมทดแทนรวมประมาณ 20,000 ล้านบาท และลูกค้ารายย่อยที่ทำประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1 ได้รับความเสียหาย 2,500 คัน ค่าสินไหมทดแทนประมาณ 400 ล้านบาท ประกันอัคคีภัย 4,000 ราย ค่าสินไหมฯ ประมาณ 2,000 ล้านบาท และประกันภัยเบ็ดเตล็ด 350 ราย ค่าสินไหมฯ ประมาณ 800 ล้านบาท

ทั้งนี้ จากการประเมินค่าสินไหมทดแทนโดยรวมทั้งหมด ไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินของบริษัทฯ มากนัก เนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการกระจายความเสี่ยงภัย โดยทำประกันภัยต่อกับต่างประเทศที่มีฐานะการเงินที่มั่นคง ซึ่งในส่วนที่บริษัทฯ รับผิดชอบไว้เองอยู่ที่ประมาณ 800 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มการรับประกันภัยในปี 2555 บริษัทฯ ยังคงรับประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองภัยน้ำท่วมในวงเงินความคุ้มครองที่มี Limit ไม่เต็มทุนประกันภัย โดยทั้งตลาดประกันวินาศภัยจะมีการปรับค่าเบี้ยประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองถึงภัยธรรมชาติเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนตามความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากในอดีตที่ผ่านมา แต่เพิ่มขึ้นในอัตราเท่าไรคงต้องรอข้อสรุปอีกครั้ง ทั้งนี้ ผู้เอาประกันภัยเองอาจจะต้องมีส่วนรับผิดชอบค่าเสียหาย (Deductible) ด้วย ซึ่งขณะนี้ บริษัทฯ ได้เร่งหาบริษัทรีอินชัวเรอร์ที่มีความสามารถ เพื่อรองรับงานให้ได้มากที่สุด ซึ่งคงต้องมีการเจรจาเพื่อให้เกิด win win ทั้ง 2 ฝ่าย
สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปีหน้า บริษัทฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น