มาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เผยเงินต่างชาติไหลเข้าแถบเอเชียเพียบ หลังเจอปัญหายุโรป - อเมริกา สัปดาห์ที่ผ่านยอดซื้อขายตราสารหนี้รวมกว่า 388,203 ล้านบาท แยกต่างชาติชื้ออยู่ที่ 40,216 ล้านบาท ขณะที่หุ้นกู้เดือนมกราคมที่ผ่านมา ออกแล้วกว่า 29,000 ล้านบาท
นายนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์ กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย หรือ Thai BMA เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตลาดตราสารหนี้มีเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในภูมิภาคเอเชียเป็นจำนวนมากรวมทั้งไทยด้วย เนื่องจากว่ายังคงมีปัญหายุโรป และอเมริกาที่ทำให้นักลงทุนมองโอกาสในแถบเอเชียว่า มีความแข็งแกร่งอยู่
ทั้งนี้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดตราสารหนี้มีปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้มีมูลค่ารวม 388,203 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 77,641 ล้านบาท ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้วจะพบว่ากว่า 82% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 319,097 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย ไม่เกิน 6 เดือน ในขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 58,737 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 7,618 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15% และ 2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
ขณะเดียวกัน นักลงทุนต่างชาติมียอด ซื้อสุทธิสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 40,216 ล้านบาทในตลาดตราสารหนี้ โดยที่มูลค่าการซื้อขายส่วนใหญ่ของนักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงเน้นไปในตราสารระยะสั้น ที่มีอายุคงเหลือน้อยกว่า 1 ปีเป็นหลัก จึงไม่ได้ส่งผลต่อภาพรวมของการซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดมากเท่าใดนัก และสำหรับนักลงทุนรายย่อย ที่ถึงแม้จะมีสัดส่วนของการซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดค่อนข้างน้อย แต่ในสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงมียอดซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่องประมาณ 509 ล้านบาท
นอกจากนี้แล้วในส่วนของหุ้นกู้ภาคเอกชนจะมีความคึกคักมากยิ่งขึ้น เนื่องจากว่าช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาได้ออกหุ้นกู้ไปแล้วกว่า 29,000 ล้านบาทไปแล้ว ขณะที่สมาคมตลาดตราสารหนี้คาดการณ์ไว้ว่าในปีนี้ยอดออกหุ้นกู้ใหม่น่าจะอยู่ที่ประมาณ 250,000 ล้านบาท ซึ่งหุ้นกู้ที่ออกมาใหม่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสถาบันการเงินและพลังงาน
"คาดว่าในปีนี้แบงก์พาณิชย์เองน่าจะออกหุ้นกู้ตลอดทั้งปีไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท โดยแบงก์ที่ยังไม่ได้ออกมาขณะนี้ยังคงรอดูจังหวะที่เหมาะสมเพื่อออกเพิ่มเติม ขณะเดียวกันสาเหตุที่ยังไม่มีแบงก์ออกหุ้นกู้มากนักเนื่องจากว่า ผลตอบแทนของพันธบัตรค่อนข้างแบนราบ ผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุสั้นและยาวไม่ต่างกันมาก เช่น พันธบัตรอายุ 1 เดือนประมาณ 3.0% พันธบัตรอายุ 10 ปี ประมาณ 3.35% เป็นต้น"
