ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ.อเบอร์ดีน รีบออกโรง เรียกความมั่นใจนักลงทุน หลังจากตลาดเกิดใหม่ปีที่ผ่านมาเงินลงทุนวูบหายไป 4 หมื่นล้านเหรียญฯจากความไม่มั่นใจ ระบุ ปีนี้ลำบากจากผลกระทบของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอ เผยพอร์ตกองทุน ABGEM ล่าสุดเข้าลงทุนหุ้นแบงก์ไทยพาณิชย์
นายอดิเทพ วรรณพฤกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด กล่าวว่า โดยในปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ตลาดหุ้นประเทศเกิดใหม่ปรับตัวลดลง โดยมีประเทศอินโดนิเซียเท่านั้นที่ปรับขึ้น โดยรวมในปีนี้ตลาดหุ้นของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ในปีนี้ ยังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงจึงยังเป็นปีที่ลำบากเพราะในปีที่ผ่านมาเงินลงทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ 4 หมื่นล้านเหรียญฯ โดยมีความกังวลจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาน้ำมันและราคาอาหารที่ปรับตัวขึ้น ในตลาดเกิดใหม่รวมถึงการส่งออกที่ลดลง
ทั้งนี้สินทรัพย์ในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ยังน่าสนใจ เพราะไม่มีปัญหาในเรื่องหนี้สินเหมือนกับประเทศในในตะวันตกที่มีเรื่องหนี้สินที่มาก แต่ตลาดเกิดใหม่มีเพียงความคาดหวังที่ว่าตลาดน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีขณะที่สภาพคล่องน้อยกว่าตลาดสหรัฐฯและยุโรปดังนั้น เมื่อเกิดความไม่มั่นใจนักลงทุนจึงดึงเงินลงทุนออกไปมากกว่า และคาดว่าในปีนี้กลุ่มประเทศเกิดใหม่จะมีการเติบโตประมาณ 4% ส่วนประเทศที่พัฒนาแล้วจะเติบโตประมาณ 1%
"อัตราเงินเฟ้อในกลุ่มประเทศเกิดใหม่จะปรับตัวลดลงในช่วงครึ่งปีแรกนี้ และส่งผลให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ขณะเดียวกันบริษัทต่างๆยังมีความสารถในการทำกำไรและมีหนี้ลดลง และราคาหุ้นในช่วงนี้ก็ยังไม่แพงจึงมีแนวโน้มที่ดี ซึ่งดัชนีหุ้นจะปรับสูงขึ้นได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความมั่นใจของนักลงทุน" นายอดิเทพ กล่าว
นายอดิเทพ ยังกล่าวว่า ในพอร์ตการลงทุนของกองทุนเปิด อเบอร์ดีน โกลบอล อีเมอร์จิ้ง โกรท ฟันด์ (ABGEM) ล่าสุดในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ผลตอบแทนอยู่ที่ 9% และในปีนี้ได้เพิ่มการลงทุนในกลุ่มธนาคารมากขึ้น โดยล่าสุดได้ถือหุ้นธนาคารไทยพาณิชย์เพิ่มขึ้น
สำหรับ ผลการดำเนินงานของกองทุนในปีที่ผ่านมา ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา ย้อนหลัง 6 เดือนปรับตัวลดลงไป 7.32% และย้อนหลัง 1 ปีปรับลดลงไป 7.15%
ด้านตลาดหุ้นไทย นายอดิเทพ ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยตอนนี้ราคาไม่ได้ไม่ได้ต่ำแล้ว รวมถึงราคาหุ้นในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ด้วยเช่นกัน เพราะมีผลการดำเนินงานที่ดีโดยบริษัทจดทะเบียนในไทยมีการเติบโตได้ประมาณ 20% ในปีที่ผ่านมามีกำไรเพิ่มขึ้นและผลจากการเมืองที่นิ่ง นอกจากนี้ยังมองว่าตลาดหุ้นไทยยังมีเงินลงทุนไหลเข้ามาต่อเนื่องจากการที่บริษัทมีการเติบโตได้ดี ดังนั้นในครึ่งปีแรกจะมีการรีบาวน์ขึ้นมาแรงในเรื่องของการลงทุนและการบริโภค จากปัญหาน้ำท่วมในปลายปีที่ผ่านมา รวมถึงเรื่องการลงทุนจากภาครัฐในเรื่องสาธารณูปโภค
"อย่างไรก็ตามยังคงมีความเสี่ยงจากปัญหาหนี้ในยุโรป ความเสี่ยงจากสถาบันการเงินที่มีปัญหาที่หนี้ที่สูง ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขณะนี้น่าจะพ้นวิกฤตแล้ว แต่ยังต้องใช้เวลากว่าจะกลับมาได้ " นายอดิเทพ กล่าว
นายอดิเทพ วรรณพฤกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด กล่าวว่า โดยในปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ตลาดหุ้นประเทศเกิดใหม่ปรับตัวลดลง โดยมีประเทศอินโดนิเซียเท่านั้นที่ปรับขึ้น โดยรวมในปีนี้ตลาดหุ้นของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ในปีนี้ ยังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงจึงยังเป็นปีที่ลำบากเพราะในปีที่ผ่านมาเงินลงทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ 4 หมื่นล้านเหรียญฯ โดยมีความกังวลจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาน้ำมันและราคาอาหารที่ปรับตัวขึ้น ในตลาดเกิดใหม่รวมถึงการส่งออกที่ลดลง
ทั้งนี้สินทรัพย์ในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ยังน่าสนใจ เพราะไม่มีปัญหาในเรื่องหนี้สินเหมือนกับประเทศในในตะวันตกที่มีเรื่องหนี้สินที่มาก แต่ตลาดเกิดใหม่มีเพียงความคาดหวังที่ว่าตลาดน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีขณะที่สภาพคล่องน้อยกว่าตลาดสหรัฐฯและยุโรปดังนั้น เมื่อเกิดความไม่มั่นใจนักลงทุนจึงดึงเงินลงทุนออกไปมากกว่า และคาดว่าในปีนี้กลุ่มประเทศเกิดใหม่จะมีการเติบโตประมาณ 4% ส่วนประเทศที่พัฒนาแล้วจะเติบโตประมาณ 1%
"อัตราเงินเฟ้อในกลุ่มประเทศเกิดใหม่จะปรับตัวลดลงในช่วงครึ่งปีแรกนี้ และส่งผลให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ขณะเดียวกันบริษัทต่างๆยังมีความสารถในการทำกำไรและมีหนี้ลดลง และราคาหุ้นในช่วงนี้ก็ยังไม่แพงจึงมีแนวโน้มที่ดี ซึ่งดัชนีหุ้นจะปรับสูงขึ้นได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความมั่นใจของนักลงทุน" นายอดิเทพ กล่าว
นายอดิเทพ ยังกล่าวว่า ในพอร์ตการลงทุนของกองทุนเปิด อเบอร์ดีน โกลบอล อีเมอร์จิ้ง โกรท ฟันด์ (ABGEM) ล่าสุดในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ผลตอบแทนอยู่ที่ 9% และในปีนี้ได้เพิ่มการลงทุนในกลุ่มธนาคารมากขึ้น โดยล่าสุดได้ถือหุ้นธนาคารไทยพาณิชย์เพิ่มขึ้น
สำหรับ ผลการดำเนินงานของกองทุนในปีที่ผ่านมา ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา ย้อนหลัง 6 เดือนปรับตัวลดลงไป 7.32% และย้อนหลัง 1 ปีปรับลดลงไป 7.15%
ด้านตลาดหุ้นไทย นายอดิเทพ ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยตอนนี้ราคาไม่ได้ไม่ได้ต่ำแล้ว รวมถึงราคาหุ้นในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ด้วยเช่นกัน เพราะมีผลการดำเนินงานที่ดีโดยบริษัทจดทะเบียนในไทยมีการเติบโตได้ประมาณ 20% ในปีที่ผ่านมามีกำไรเพิ่มขึ้นและผลจากการเมืองที่นิ่ง นอกจากนี้ยังมองว่าตลาดหุ้นไทยยังมีเงินลงทุนไหลเข้ามาต่อเนื่องจากการที่บริษัทมีการเติบโตได้ดี ดังนั้นในครึ่งปีแรกจะมีการรีบาวน์ขึ้นมาแรงในเรื่องของการลงทุนและการบริโภค จากปัญหาน้ำท่วมในปลายปีที่ผ่านมา รวมถึงเรื่องการลงทุนจากภาครัฐในเรื่องสาธารณูปโภค
"อย่างไรก็ตามยังคงมีความเสี่ยงจากปัญหาหนี้ในยุโรป ความเสี่ยงจากสถาบันการเงินที่มีปัญหาที่หนี้ที่สูง ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขณะนี้น่าจะพ้นวิกฤตแล้ว แต่ยังต้องใช้เวลากว่าจะกลับมาได้ " นายอดิเทพ กล่าว
