xs
xsm
sm
md
lg

เร่งเครื่องดันAUMแตะ6แสนล้าน ไทยพาณิชย์หวังแอลทีเอฟ-อาร์เอ็มเอฟหนุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ.ไทยพาณิชย์ เร่งเครื่องลุยปลายปี หวังดันสินทรัพย์แตะ 6 แสนล้าน เชื่อช่วงที่เหลือของปี เงินไหลจาก โดยเฉพาะ "แอลทีเอฟ-อาร์เอ็มเอฟ"

นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหาร (เอยูเอ็ม) ของบริษัทจะโตตามเป้า ซึ่งในขณะนี้ บริษัทมีสินทรัพย์รวมแล้วประมาณ 5.65 แสนล้านบาท จากทั้ง 3 ธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วยกองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคลและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยคาดว่าในช่วงที่เหลือของปี บริษัทจะสามารถระดมเงินได้ใก้ลเคียงกับเป้าหมายที่ 6.3 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในส่วนของกองทุนรวม ปัจจุบันบริษัทมีสินทรัพย์รวมประมาณ 4.68 แสนล้านบาท กองทุนส่วนบุคคล 33,645 ล้านบาท และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 63,604 ล้านบาท

นางโชติกากล่าวว่า ในส่วนของเป้าหมายนักลงทุนสถาบัน เราสามารถระดมทุนได้ตามเป้าแล้ว เหลือเพียงส่วนของรายย่อยเท่านั้น โดยในช่วงที่เหลือของปีเชื่อว่าจะมีเงินลงทุนไหลเข้ามาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากกองทุนประหยัดภาษี อย่างกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ) ซึ่งทั้งสองกองทุนจะมีเงินลงทุนไหลเข้ามาในช่วงปลายปีอยู่แล้ว

นอกจากนี้ ยังพบว่าขณะนี้เงินลงทุนได้ไหลเข้ามาลงทุนในกองทุนตลาดเงิน (มันนี่มาร์เก็ต) มากขึ้น จากทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลง รวมถึงกองทุนทองคำที่นักลงทุนจับจังหวะราคาทองในตลาดโลกปรับตัวลดลงเข้ามาลงทุนเพิ่มด้วย

อย่างไรก็ตาม เร็วนี้บริษัทมีแผนออกกองทุนใหม่อีก 1 กองทุน นั่นคือ กองทุนอาร์เอ็มเอฟ ซึ่งมีนโยบายลงทุนต่างประเทศเช่นเดียวกับกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอล เวลท์ (SCB Global Wealth Open End Fund : SCBGLOW) มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท ที่อยู่ระหว่างการเสนอขายหน่วยลงทุนในช่วงไอพีโอ 8 -21 ธันวาคมนี้ โดยกองทุนดังกล่าว มีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม ต่างประเทศ ในช่วงเริ่มต้นจำนวน 8 กองทุนซึ่งบริหารโดย บลจ.ชั้น นำระดับโลกที่ผ่านการคัดเลือกจากบริษัทเมอร์เซอร์แล้ว ซึ่งแต่ละกองทุนมีนโยบายการลงทุนในตราสารที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ประกอบด้วย ตราสารหนี้โลก ซึ่งจะลงทุนในพันธบัตรของรัฐบาลและเอกชนทั่วโลกส่วนใหญ่เป็น พันธบัตรของประเทศที่พัฒนาแล้วประเทศยุโรปและเอเชีย, ตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ ลงทุนในพันธบัตรของรัฐบาลและ เอกชนของประเทศที่กำลังพัฒนา

นอกจากนี้ ยังลงทุนในตราสารทุนโลก ซึ่งจะลงทุนในหุ้นทั่วโลก ส่วนใหญ่เป็นหุ้นของประเทศที่พัฒนาแล้วในโซนประเทศอเมริกาและยุโรป , ตราสารทุนตลาดเกิดใหม่ ลงทุนในหุ้นของประเทศกำลังพัฒนา และดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งลงทุนในดัชนีซึ่งประกอบไปด้วยสินทรัพย์ เช่น น้ำมันดิบ ทอง ก๊าซธรรมชาติ ข้าวโพด ถั่วเหลือง กาแฟ โกโก้ ทองแดง อลูนิเมียม เงิน ข้าวสาลี น้ำตาล เป็นต้น

นางโชติกากล่าวเพิ่มเติมว่า รูปแบบการลงทุนหลังจากนี้ เราจะเน้นเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้ามากขึ้น จากเดิมที่ให้นักลงทุนจัดสรรเงินลงทุนเองในกองทุนแต่ละประเภท ก็จะเพิ่มกองทุนผสมที่เน้นการกระจายความเสี่ยงให้นักลงทุนเลือกลงทุนได้ในกองเดียวอย่างเช่นกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอล เวลท์ ซึ่งกองทุนดังกล่าวถือเป็นกองทุนแรกในประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น