บลจ.ทหารไทย เปิดแผนกลยุทธ์ปีมังกรทอง รุกธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพผ่านระบบ Fundlink M Choice online ตั้งเป้าเติบโต 20% เจาะกลุ่มลูกค้า บล. และ บลจ. ตามกลยุทธ์ลงทุนแบบ Passive Investment พร้อมการผสานกลยุทธ์การตลาดควบคู่การให้ความรู้ทางการลงทุน
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยแผนกลยุทธ์การบริหารงานในรอบปี 2555 ว่า ภาพรวมในการบริหารงานของบริษัทคือการให้ความสำคัญต่อผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นอันดับแรก (Customer Centric) ทั้งในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุน ควบคู่ไปกับการรักษาผลตอบแทนให้อยู่ในระดับที่ดีควบคู่ไปกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ รวมทั้งการเร่งสร้างความผูกพันกับลูกค้าเก่าและขยายฐานลูกค้าใหม่ผ่านทางการขยายฐานกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและการใช้นโยบายการผสานกลยุทธ์ทางการตลาดควบคู่ไปกับให้ความรู้ทางการลงทุน
โดยในปี 2555 บริษัทได้ตั้งเป้ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหาร(AUM)ไว้ที่ 140,000 ล้านบาท จากสิ้นปี 2554 ที่ 130,000 ล้านบาท โตขึ้น 7.69% หรือปรับตัวขึ้นไปอยุาอันดับที่ 5 อีกครั้ง จากปัจจุบันที่อยู่ในอันดับที่ 6 ของอุตสาหกรรมกองทุนรวม
สำหรับกลยุทธ์ในการบริหารงานในปี 2555 เพื่อให้บริษัทสามารถยืนหยัดในการเป็น “คู่ชีวิตการลงทุน”และมุ่งพาผู้ลงทุนให้ได้รับผลสำเร็จทางการลงทุนนั้นกลยุทธ์ด้านแรก คือการรุกตลาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยที่ผ่านมาเราได้ใช้แนวทางของ Employee’s Choice เป็นแนวทางหลักและมีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีเพื่อรองรับ โดยได้จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ TMBAM M Choice ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ซึ่งเป็นกองทุนที่มีลักษณะเป็น Master Pooled Fund ที่มอบอิสระให้แก่สมาชิกกองทุนในการเลือกนโยบายการลงทุนที่หลากหลายกว่า 10 นโยบาย ซึ่งสมาชิกสามารถกำหนดแผนการลงทุนโดยผสมผสานนโยบายต่างๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการของตนเองอย่างแท้จริงภายใต้แผนการลงทุนที่คณะกรรมการกองทุนกำหนด ซึ่งคุณลักษณะดังกล่าวทำให้กองทุนมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ณ สิ้นปี 2554 มีขนาดกองทุนเพิ่มขึ้นเป็น 2,600 ล้านบาท และมีบริษัทชั้นนำเข้าร่วมกว่า 150 ราย
สำหรับการพัฒนาระบบเพื่อรองรับการทำธุรกรรมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพผ่านนั้น บริษัทได้พัฒนาระบบที่เรียกว่า “Fundlink M Choice online” ผ่านทางอินเตอร์เน็ตตลอด 24 ชั่วโมง บนเว็บไซต์ของบริษัท ที่ www.tmbam.com ถือเป็นการพัฒนาระบบธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ตสำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่สมบูรณ์แบบเป็นรายแรกในอุตสาหกรรม ระบบดังกล่าวอำนวยความสะดวกให้สมาชิกแต่ละบุคคลมีอิสระในการเลือกลงทุน และสามารถบริหารจัดการเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและปรับเปลี่ยนแผนการลงทุนได้ด้วยตนเองได้ตลอด 24 ชม.
ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2554 กองทุนสำรองเลี้ยงชีพภายใต้การบริหารของบริษัท จึงมีขนาดกองทุนเติบโตทะลุหมื่นล้านได้สำเร็จ โดยเพิ่มขึ้นเป็น 10,014 ล้านบาท และคาดว่าในรอบปี 2555 นี้จะสามารถเติบโตไปในอัตราไม่ต่ำกว่า 15-20 % ต่อปีได้อีก
ด้านนายไพศาล ครุฑดำรงชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บลจ. ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้ตั้งการเติบโตในส่วนของธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไว้ที่ 20% โดยในปีนี้จะเน้นหาลูกค้าในกลุ่มลูกจ้างที่มีความรู้ความเข้าในการลงทุน เช่น กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ขณะเดียวกันในปีนี้มีลูกค้าใหม่เข้ามาทุกๆ เป็นลักษณะตามกันมาแบบปากต่อปากและเลือกใช้บริการ แบบ Fundlink M Choice online เพราะลูกค้าสามารถเปลี่ยนการลงทุนได้ทุกวันโดยผ่านระบบอินเตอร์เน็ท ซึ่งปัจจุบันนโยบายการลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของ บลจ.ทหารไทย มีทั้งหมด 10 นโยบาย
ส่วนกลยุทธ์ด้านที่ 2 คือการมุ่งสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ลงทุนภายใต้ค่าธรรมเนียมที่เป็นธรรมสมเหตุสมผล ควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุน โดยยึดมั่นต่อการเป็นผู้นำด้านการบริหารกองทุนเชิงรับ (Passive Investment) โดยมีนโยบายการลงทุนที่เข้าใจง่าย ชัดเจน ค่าธรรมเนียมสมเหตุสมผลและคงไว้ซึ่งผลตอบแทนที่ดี โดยในรอบปี 54 ที่ผ่านมา กองทุนประเภทหุ้น เช่น กองทุนเปิดทหารไทย Jumbo25 สร้างผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 6.65% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET50 ที่ปรับตัวอยู่ที่ 3.74% หรือกองทุนเปิดทหารไทย SET50 ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีที่ 3.63% ในขณะที่เกณฑ์มาตรฐานเปรียบเทียบติดลบที่ 0.25% ขณะเดียวกัน กองทุนของสินค้าโภคภัณฑ์อย่างกองทุนพลังงาน คือ กองทุนเปิดทหารไทย ออยล์ ฟันด์ ก็สามารถสร้างผลตอบแทนระดับผู้นำในอุตสาหกรรมที่ 7.40% เป็นต้น
ขณะที่กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ สิงคโปร์ ณ สิ้นปี 54 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการของบริษัท (AUM) เติบโตขึ้นถึง 2,528 ล้านบาท และให้ผลตอบแทนย้อนหลังนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนได้ไม่ถึง 1 ปีได้ถึง 26.30% สำหรับกองทุนทองคำอีกหนึ่งกองคือ กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ ซึ่งจัดตั้งเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.48 มี AUM ณ สิ้นปี 54 อยู่ที่ 1,592 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดลงทุนในกองทุนทองคำของบริษัทมีมูลค่ารวมกันถึง 4,120 ล้านบาท
สำหรับผลิตภัณฑ์กองทุนใหม่ในปีนี้ บริษัทมีนโยบายประเดิมปี 2555 ด้วยการออกกองทุน Fixed Income แบบ Rollover อายุประมาณ 6 เดือนและ 1 ปี โดยกำหนดออกขาย IPO ระหว่างวันที่ 1-7 กุมภาพันธ์ 2555 นี้ เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะสั้น โดยเพิ่มการสร้างโอกาสของผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์และไม่ต้องเสียภาษีจากการขายหน่วยลงทุน
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย (Promotion) อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ส่งโปรโมชั่น “Pro 2 You” ลงตลาดเพื่อเอาใจผู้ลงทุนที่ชื่นชอบการลงทุนในกองทุนทองคำและกองทุนพันธบัตรทั่วโลก โดยผู้ที่ลงทุนในคู่หูกองทุนเปิดทหารไทย TMB Gold Fund หรือ TMB Gold Singapore Fund และคู่หูกองทุนเปิดทหารไทย TMB Global Bond Fund หรือ TMB Global Bond Dividend Fund กองทุนใดก็ได้ระหว่างวันที่ 2 ก.พ.- 2 เม.ย.55 ทุกๆ 100,000 บาท รับเงินลงทุนพิเศษในกองทุนเปิดทหารไทยธนบดี 200 บาท
ขณะที่กลยุทธ์ด้านที่ 3 การสานต่อแนวคิดกลยุทธ์การตลาดผสานความรู้ทางการลงทุน (Educational Marketing) ซึ่งมองว่าการเติมเต็มความรู้ความเข้าใจด้านการลงทุนจะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้ถือหน่วยลงทุนของบริษัทสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการวางแผนการเงินการลงทุนส่วนบุคคลได้อย่างเป็นรูปธรรม และกลยุทธ์ด้านที่ 4 คือ มุ่งสร้างความผูกพันกับผู้ลงทุนที่เคียงคู่กับของบริษัทมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจและรู้สึกอุ่นใจที่ไว้วางใจให้บริษัทเป็นผู้บริหารเงินลงทุน และขยายฐานผู้ลงทุนใหม่ผ่านทางการทำงานร่วมกับธนาคารทหารไทยและพันธมิตรธุรกิจ
"ในปีนี้ บริษัทเตรียมจัดกิจกรรมต่างๆ ให้กับลูกค้าโดยมุ่งครอบคลุมหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มลูกค้า High Net worth, กลุ่มลูกค้าที่ลงทุนกับบริษัทมานานตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป หรือกลุ่มลูกค้าทั่วไป เป็นต้น" นายสมจินต์ กล่าว