บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ดึง "ไววิทย์ อุทัยเฉลิม" นั้ง CEO บลจ.กิมเอ็ง ตั้งเป้า AUM ปี 55 ไว้ที่ 10,000 ล้านบาท เร่งออกกองทุนหุ้น กองทุนFIF และกองทุนตราสารหนี้เต็มสูบ คาดAUM ที่ตั้งไว้ไม่ไกลเกินเอื้อม มั่นใจแบนด์บริษัทแม่ขยายช่องทางการขายได้
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า หลังจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ได้ดำเนินกิจการเข้าสู่ปีที่ 2 ในเดือนเมษายนี้ นับจากวันที่ได้รับใบอนุญาติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2554 ที่ผ่านมา บริษัทได้แต่งตั้งนาย ไววิทย์ อุทัยเฉลิม มาดำรงค์ตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ บลจ.กิมเอ็ง (ประเทศไทย)
นายไววิทย์ อุทัยเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า แผนการบริหารในปี 2555 คาดว่าจะเป็นปีที่การแข่งขันธุรกิจกองทุนรวมจะเข้มข้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยบริษัทมีแผนเพิ่มกองทุนให้ครอบคลุมทุกตลาดให้มากที่สุด หลังจากประสบความสำเร็จจากกองทุนเปิดกิมเอ็งบริหารเงิน (KECASH) โดยได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าหลักทรัพย์ของเมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประเทศไทย
อย่างไรก็ตามเราตั้งเป้าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ หรือ AUM ในช่วงครึ่งปีแรกรวม 5,000 ล้านบาท และคาดว่าทั้งปีจะมียอด AUM ไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท
สำหรับกองทุนแรกที่จะเปิดขายไอพีโอในปีนี้คือกองทุนหุ้น ในเดือนมกราคมนี้ ส่วนกองทุนต่างประเทศ หรือ FIF คาดว่าจะเปิดขายไอพีโอในเดือนเมษายน โดยกองทุนFIF จะเน้นป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนและปกป้องเงินลงทุน ทั้งนี้ด้วยความเชียวชาญและประสบการณ์เรื่องหลักทรัพย์และแรงสนับสนุนทั้งด้านข้อมูลและช่องทางจากเมย์แบงก์ กิมเอ็ง จะช่วยเสริมการออกกองทุนให้กับบลจ.อีกด้วย
นอกจากนี้เราจะออกกองทุนตราสารหนี้ไตรมาสละ 1 กองทุน ส่วนกองทุนอสังหาริมทรัพย์เราก็ให้ความสนใจเช่นกันเนื่องจากเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างน่าสนใจ โดยคาดว่าจะสามารถส่งกองทุนอสังหาฯเข้าสู่ตลาดทุนได้ประมาณ 4 กองทุน ซึ่งจะเน้นลงทุนในโรงแรมในจังหวัดท่องเที่ยว เช่น เกาะสมุย พัทยา ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่เกิดในกรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ได้รับความนิยมจากท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติอย่างต่อเนื่อง
นายไววิทย์ กล่าวต่อว่า สำหรับธุรกิจไพรเวทฟันด์ หรือ กองทุนส่วนบุคคล นั้นเรากำลังดำเนินงานขอ license กับทางกระทรวงการคลังอยู่คาดว่าจะได้รับการอนุมัติเร็วๆนี้ ซึ่งเราได้เสริมบุคลากรในส่วนของกองทุนส่วนบุคคลเพื่อออกมารองรับความต้องการเนื่องจากในเดือนสิงหาคม การคุ้มครองเงินฝากจะลดเหลือเพียง 1 ล้านบาทโดยเรามองว่าธรุกิจกองทุนส่วนบุคคลจะเติบโตจากส่วนนี้ได้
อย่างไรก็ตามเราเราตั้งเป้าผลตอบแทนของกองทุนหุ้น 3 ปีติดอันดับ 1 ใน 5 และ 5 ปีติดอันดับ 1 ใน 3 ส่วนกองทุนอสังหาริมทรัพย์เราตั้งเป้าไว้ ว่าภายใน 5 ปี สินทรัพย์ในส่วนกองทุนอสังหาฯต้องเป็นที่ 1
"เราเชื่อว่าเป้า AUM ที่วางไว้ประมาณ 10,000 ล้านบาทในปีนี้น่าจะไม่ยาก เนื่องจากเเผนการออกกองทุนในปีนี้ค่อนข้างหลากหลาย รวมถึงความเชียวชาญของเมย์แบงก์ ช่องทางการขายผ่ายเมย์แบงก์กิมเอ็ง แม้จะไม่มีแบงก์เป็นช่องทางการขายแต่บริษัทแม่ของเรามีฐานลูกค้ามาก นอกจากนี้ยังมีช่องทางการขายผ่านอินเตอร์เน็ต รวมถึงช่องทางการขายอิสระ ขณะเดียวกันเราก็มองหาช่องทางการทำกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานอีกด้วย" นายไววิทย์ กล่าว
ทางด้านนางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจหลักทรัพย์รายย่อย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เรามองว่าธุรกิจกองทุนรวมจะช่วยผลัดดันให้การบริการด้านการลงทุนแก่ลูกค้าหลักทรัพย์ของบริษัทเป็นไปอย่างครบวงจร นอกจากนี้ยังได้เสริมบุคคลากรทางด้าน private wealth ซึ่งเรามองว่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ให้บริษัทและบลจ.มีโอกาสเติบโตจากบริการ private wealth ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายไววิทย อุทัยเฉลิม เคยดำรงค์ตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด ต่อมาย้ายมาเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.บีที และย้ายไปเป็นรองกรรมการผู้จัดการ บริษัทเพลินจิต แคปปิตอล จำกัด โดยตำแหน่งสุดท้ายก่อนที่จะเข้ามาดำรงค์ตำแหน่งซีอีโอที่บลจ.กิมเอ็ง คือกรรมการผู้จัดการ บลจ.ซีมีโก้ จำกัด
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า หลังจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ได้ดำเนินกิจการเข้าสู่ปีที่ 2 ในเดือนเมษายนี้ นับจากวันที่ได้รับใบอนุญาติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2554 ที่ผ่านมา บริษัทได้แต่งตั้งนาย ไววิทย์ อุทัยเฉลิม มาดำรงค์ตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ บลจ.กิมเอ็ง (ประเทศไทย)
นายไววิทย์ อุทัยเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า แผนการบริหารในปี 2555 คาดว่าจะเป็นปีที่การแข่งขันธุรกิจกองทุนรวมจะเข้มข้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยบริษัทมีแผนเพิ่มกองทุนให้ครอบคลุมทุกตลาดให้มากที่สุด หลังจากประสบความสำเร็จจากกองทุนเปิดกิมเอ็งบริหารเงิน (KECASH) โดยได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าหลักทรัพย์ของเมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประเทศไทย
อย่างไรก็ตามเราตั้งเป้าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ หรือ AUM ในช่วงครึ่งปีแรกรวม 5,000 ล้านบาท และคาดว่าทั้งปีจะมียอด AUM ไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท
สำหรับกองทุนแรกที่จะเปิดขายไอพีโอในปีนี้คือกองทุนหุ้น ในเดือนมกราคมนี้ ส่วนกองทุนต่างประเทศ หรือ FIF คาดว่าจะเปิดขายไอพีโอในเดือนเมษายน โดยกองทุนFIF จะเน้นป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนและปกป้องเงินลงทุน ทั้งนี้ด้วยความเชียวชาญและประสบการณ์เรื่องหลักทรัพย์และแรงสนับสนุนทั้งด้านข้อมูลและช่องทางจากเมย์แบงก์ กิมเอ็ง จะช่วยเสริมการออกกองทุนให้กับบลจ.อีกด้วย
นอกจากนี้เราจะออกกองทุนตราสารหนี้ไตรมาสละ 1 กองทุน ส่วนกองทุนอสังหาริมทรัพย์เราก็ให้ความสนใจเช่นกันเนื่องจากเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างน่าสนใจ โดยคาดว่าจะสามารถส่งกองทุนอสังหาฯเข้าสู่ตลาดทุนได้ประมาณ 4 กองทุน ซึ่งจะเน้นลงทุนในโรงแรมในจังหวัดท่องเที่ยว เช่น เกาะสมุย พัทยา ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่เกิดในกรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ได้รับความนิยมจากท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติอย่างต่อเนื่อง
นายไววิทย์ กล่าวต่อว่า สำหรับธุรกิจไพรเวทฟันด์ หรือ กองทุนส่วนบุคคล นั้นเรากำลังดำเนินงานขอ license กับทางกระทรวงการคลังอยู่คาดว่าจะได้รับการอนุมัติเร็วๆนี้ ซึ่งเราได้เสริมบุคลากรในส่วนของกองทุนส่วนบุคคลเพื่อออกมารองรับความต้องการเนื่องจากในเดือนสิงหาคม การคุ้มครองเงินฝากจะลดเหลือเพียง 1 ล้านบาทโดยเรามองว่าธรุกิจกองทุนส่วนบุคคลจะเติบโตจากส่วนนี้ได้
อย่างไรก็ตามเราเราตั้งเป้าผลตอบแทนของกองทุนหุ้น 3 ปีติดอันดับ 1 ใน 5 และ 5 ปีติดอันดับ 1 ใน 3 ส่วนกองทุนอสังหาริมทรัพย์เราตั้งเป้าไว้ ว่าภายใน 5 ปี สินทรัพย์ในส่วนกองทุนอสังหาฯต้องเป็นที่ 1
"เราเชื่อว่าเป้า AUM ที่วางไว้ประมาณ 10,000 ล้านบาทในปีนี้น่าจะไม่ยาก เนื่องจากเเผนการออกกองทุนในปีนี้ค่อนข้างหลากหลาย รวมถึงความเชียวชาญของเมย์แบงก์ ช่องทางการขายผ่ายเมย์แบงก์กิมเอ็ง แม้จะไม่มีแบงก์เป็นช่องทางการขายแต่บริษัทแม่ของเรามีฐานลูกค้ามาก นอกจากนี้ยังมีช่องทางการขายผ่านอินเตอร์เน็ต รวมถึงช่องทางการขายอิสระ ขณะเดียวกันเราก็มองหาช่องทางการทำกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานอีกด้วย" นายไววิทย์ กล่าว
ทางด้านนางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจหลักทรัพย์รายย่อย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เรามองว่าธุรกิจกองทุนรวมจะช่วยผลัดดันให้การบริการด้านการลงทุนแก่ลูกค้าหลักทรัพย์ของบริษัทเป็นไปอย่างครบวงจร นอกจากนี้ยังได้เสริมบุคคลากรทางด้าน private wealth ซึ่งเรามองว่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ให้บริษัทและบลจ.มีโอกาสเติบโตจากบริการ private wealth ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายไววิทย อุทัยเฉลิม เคยดำรงค์ตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด ต่อมาย้ายมาเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.บีที และย้ายไปเป็นรองกรรมการผู้จัดการ บริษัทเพลินจิต แคปปิตอล จำกัด โดยตำแหน่งสุดท้ายก่อนที่จะเข้ามาดำรงค์ตำแหน่งซีอีโอที่บลจ.กิมเอ็ง คือกรรมการผู้จัดการ บลจ.ซีมีโก้ จำกัด
