บลจ.กสิกรไทยแจงEUถูกหั่นเครดิต ไม่กระทบกองบอนด์ต่างประเทศ เหตุไม่มีการลงทุนในพันธบัตรของประเทศที่เกี่ยวข้อง ระบุหุ้น-ทองคำระยะสั้นผันผวนน้อย ส่วนน้ำมันราคายังทรงตัวต่อ พร้อมแนะจับตากลุ่มยูโรต่อเนื่อง หลังเห็นสัญญาณแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
นายประเสริฐ ขนบธรรมชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่าจากการที่ S&P สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของ 9 ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปลงเมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา ในส่วนของกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศของบริษัท ไม่ได้รับผลกระทบจากข่าวดังกล่าว เนื่องจากกองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการ หรือ Term Fund เป็นกองทุนที่มีกำหนดอายุการจ่ายคืนเงินต้นและผลตอบแทนที่แน่นอนไว้อยู่แล้ว
นอกจากนี้ บริษัทยังไม่มีกองทุนใดที่ถือพันธบัตรของประเทศที่ถูกปรับลดอันดับโดยตรง มีเพียงตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารในประเทศฝรั่งเศสซึ่งเราถืออยู่เพียงเล็กน้อย ขณะเดียวกันการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่มีคู่สัญญาเป็นธนาคารฝรั่งเศสก็มีสัดส่วนเพียง 10% ซึ่งเมื่อพิจารณาสถานะทางการเงินของธนาคารในฝรั่งเศสแล้ว เราเชื่อมั่นว่าสถาบันการเงินในฝรั่งเศสยังคงมีสถานะทางการเงินที่ดี มีสภาพคล่องมากเพียงพอต่อการชำระหนี้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ส่วนพันธบัตรของประเทศโปรตุเกส ซึ่งขณะนี้อันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าระดับที่จะเข้าไปลงทุนได้นั้นบริษัทไม่มีการลงทุนอยู่เลย ผู้ลงทุนที่กังวลใจว่าโอกาสรับผลตอบแทนของกองทุนอาจจะลดลงเพราะผลกระทบจากเหตุดังกล่าว จึงสามารถคลายความกังวลลงได้
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า การปรับลดอันดับความน่าเชื่อของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปครั้งนี้ อาจก่อความกังวลต่อเนื่องไปถึงผลกระทบที่อาจลุกลามไปยังภูมิภาคอื่นๆ เหมือนเมื่อครั้งสหรัฐฯ ถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงเมื่อเดือนสิงหาคม 2554 ความกังวลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนขายหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยงออกมา ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ผลกระทบในระยะสั้นที่ปรากฏต่อตลาดไม่ได้รุนแรงมากอย่างที่นักวิเคราะห์หลายฝ่ายประเมินไว้ในเบื้องต้น
ทั้งนี้ ในแง่ของผลกระทบระยะสั้นต่อตลาดหุ้นที่ปรากฎไปเมื่อช่วงคืนวันศุกร์ต่อเนื่องถึงวันจันทร์ที่ผ่านมานั้น บริษัทมองว่า ไม่ได้สร้างผันผวนอย่างรุนแรงอย่างที่หลายฝ่ายกังวล ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ S&P ได้ประกาศเตือนล่วงหน้าไว้ตั้งแต่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาและตลาดได้มีการรับรู้ข่าวนี้ไปบ้างแล้ว
นอกจากนี้ ราคาหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันจันทร์ก็ปรับตัวดีขึ้นรับข่าวดีที่ฝรั่งเศสสามารถออกพันธบัตรด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงแม้จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือได้ แต่ผลกระทบในระยะยาวต่อตลาดหุ้นทั่วโลก เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติอาจจะมีการดึงเม็ดเงินกลับประเทศของตนจนกว่า EU จะมีแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้ยุโรปที่ชัดเจนออกมาอีกครั้ง
สำหรับกองทุนหุ้นต่างประเทศของบริษัทที่อาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว คือ กองทุนเปิดเค โกลบอลอิควิตี้ (K-GLOBE) ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นต่างประเทศทั่วโลก แต่อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันกองทุนนี้มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกลุ่ม EU และอังกฤษอยู่เพียง 12% และยังคงให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้แบบ underweight โดยให้น้ำหนักต่ำกว่าดัชนี MSCI World All Country Index ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานของกองทุนอยู่ถึง 13% อย่างต่อเนื่อง และผู้จัดการกองทุนยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อพิจารณาปรับเปลี่ยนน้ำหนักในการลงทุนตามความเหมาะสมต่อไป
ส่วนผลกระทบต่อราคาทองคำและน้ำมัน เชื่อว่าช่วงนี้ทองคำยังได้รับอานิสงส์จากเทศกาลตรุษจีน โดยใปริมาณการซื้อขายที่มีค่อนข้างมากในตลาดทองคำของจีน ยังทำให้สามารถประคองราคาอยู่ได้ ประกอบกับการที่ตลาดหุ้นในสหรัฐฯ ปิดทำการในวันจันทร์ที่ 16 มกราคม 2555 จึงน่าจะเป็นปัจจัยร่วมที่ทำให้ความผันผวนที่เกิดขึ้นไม่รุนแรงนักในช่วงสั้น สำหรับราคาน้ำมัน แม้จะได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากความต้องการน้ำมันในยุโรปที่มีแนวโน้มลดลง แต่เชื่อว่าสถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเปอร์เซียที่อิหร่านขู่ปิดช่องแคบฮอร์มุชที่ใช้ขนส่งน้ำมันเพื่อแสดงท่าทีต่อต้านกลุ่มประเทศตะวันตกที่คว่ำบาตร จะยังคงเป็นปัจจัยที่ช่วยพยุงราคาน้ำมันไม่ให้ปรับตัวลดลงรุนแรงนัก
“การปรับลดอันดับเครดิต 9 ประเทศในกลุ่ม EU และ EFSF ครั้งนี้ แม้จะสั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนพอสมควร แต่หากมองอีกแง่หนึ่ง นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่กดดันให้กลุ่ม EU จริงจังกับการแก้ไขปัญหาหนี้ยุโรปมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา มีเพียงการประกาศมาตรการออกมา แต่ก็ยังไม่ได้มีการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมสักเท่าใดนัก ซึ่งยังคงต้องจับตากันต่อไป” นายประเสริฐกล่าว