โดยวรวรรณ ธาราภูมิ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.บัวหลวง
และนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน
David Karas ที่ปรึกษาการลงทุนในแคนาดาที่ได้รับ License CFA ถูกลูกค้าชื่อ George French อายุ 58 ปี เกษียณแล้ว ฟ้องร้องด้วยข้อหาให้คำแนะนำการลงทุนที่ไม่เหมาะสม เพราะไปแนะนำให้ลูกค้ากู้ยืมเงินมาซื้อกองทุนรวม จนลูกค้าขาดทุนไปถึง $1.5 million (45 ล้านบาท) ทั้งนี้ บริษัทที่เขาสังกัดคือ Investia Financial Services Inc. ในโตรอนโต คานาดา ก็ถูกฟ้องด้วย โดย George French ระบุว่าเขาตกเป็นเหยื่อของกลยุทธ์การลงทุนที่ออกแบบมาเพื่อให้ที่ปรึกษาการลงทุนร่ำรวยด้วยเงินของลูกค้า
David Karas นับเป็นผู้มีชื่อเสียงในวงการกองทุนรวมมาก เคยได้รับรางวัลผู้ทำยอดขายกองทุนรวมสูงสุดจากบริษัทที่เขาสังกัดในช่วงปี 1989-2009 ปัจจุบันนี้เขาไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้ขายกองทุนรวมแล้ว แต่ยังมีทะเบียนให้ขายประกันได้ และที่ทำงานแห่งใหม่ของเขาชื่อ Investors Source Wealth Management Inc ก็ทำกิจการให้คำแนะนำวางแผนการลงทุนกับการบริหารภาษีด้วย
ทนายความของลูกค้าที่ฟ้องร้อง David Karas ยืนยันว่ามีลูกค้าของ David Karas อีกประมาณ 20 รายได้ติดต่อมาที่ทนายความเพื่อให้ทำคดีฟ้องร้อง Karas เช่นเดียวกัน และระบุว่ามีลูกค้าทั้งหมดประมาณ 150 รายที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกับ George French ลูกความของเขา
ก่อนหน้าที่ George French จะได้รับคำแนะนำการลงทุนจาก David Karas ในปี 2000 เขามีเงินสะสมเพื่อเกษียณ $380,000 (11.4 ล้านบาท) อยู่ในบัญชีเงินฝากธนาคาร เขาไม่เคยสมรส และไม่ต้องเลี้ยงดูใคร จำนวนเงินนี้จึงน่าจะเพียงพอที่จะใช้จ่ายในวัยเกษียณตามลำพังได้
George French เล่าว่า David Karas แนะนำให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อมาซื้อกองทุนรวมที่บริษัทของ Karas บริหาร โดยนำกองทุนรวมในส่วนที่ลูกค้ากู้เงินมาลงทุนไปเป็นหลักประกันการกู้ของลูกค้า และกู้มากเท่าไร ทั้งบริษัทและ Karas ก็จะยิ่งได้ค่าตอบแทนมากขึ้นเท่านั้น และในปี 2006 Karas ได้เปิดบริษัทเองชื่อ Financial Victory Associates โดยมีเป้าหมายจะให้บริการแนะนำลูกค้าว่าเมื่อไหร่ถึงควรจะซื้อและขายกองทุนรวม โดย Karas แจ้งลูกค้าว่าลูกค้าสามารถลดโอกาสที่จะขาดทุนจากการลงทุนได้หากสมัครใช้บริการนี้ แต่ Karas ก็ไม่ได้แจ้งลูกค้าว่าการมีค่าธรรมเนียมอีก 0.75% สำหรับการใช้บริการนี้จะยิ่งทำให้ลูกค้ายากที่จะได้กำไรจากการลงทุนในกองทุนรวมโดยการกู้เงินมาลงทุน
นอกจากนี้ Karas ยังแนะนำและขายประกันให้ลูกค้าโดยไม่ได้พิจารณาว่าเหมาะสมหรือไม่อีกด้วย George French บอกว่าเขาหลงเชื่อในคำแนะนำของ Karas ซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตและประกันสุขภาพระยะยาวโดยต้องจ่ายค่าพรีเมี่ยมสูงถึง $22,000 (660,000 บาท) ต่อปี
George French เชื่อคำแนะนำของ Karas จึงได้กู้เงินกว่า 1 ล้านเหรียญ (กว่า 30 ล้านบาท) มาซื้อกองทุนรวม โดยพอร์ตโฟลิโอการลงทุนในกองทุนรวมที่เขาได้รับคำแนะนำให้ซื้อนั้นประกอบไปด้วยกองทุนหุ้น 92% กับกองทุนตราสารหนี้ 8% เขาจึงไม่มีการออมในเงินสดเลย และเมื่อตลาดหุ้นถล่มทลายในปี 2008 George French ก็พบกับปัญหาหนักหนาสาหัสในยามเกษียณ
การกู้เงินมาลงทุน เหมาะสมกับเราหรือเปล่า ?
แม้จะมีผู้แนะนำการลงทุนหรือผู้ขายกองทุนในปัจจุบันพยายามแนะนำให้ลูกค้ากู้ยืมในรูปแบบต่างๆ เพื่อนำเงินไปซื้อกองทุนรวม แต่ที่จริงแล้วจะไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าการกู้ยืมเงินมาลงทุนในกองทุนรวมจะทำให้เราได้กำไร
ได้ยินกับหูว่าผู้ขายบางคนแนะนำลูกค้าว่าการใช้เครดิตการ์ดซื้อกองทุนจะได้แต้มสะสม ได้รางวัลต่างๆ มากมาย โดยอัตราดอกเบี้ยจากเครดิตการ์ดจะคิดต่ำกว่าปกติหรือไม่คิดดอกเบี้ยระยะหนึ่ง และอัตราดอกเบี้ยนั้นคุ้มกับอัตราภาษีเงินได้ที่ลูกค้าจะได้รับยกเว้น เพราะนำไปซื้อกองทุนอย่าง RMF และ LTF แต่เขาไม่ได้บอกลูกค้ามีความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดขาดทุนได้โดยเฉพาะในช่วงสั้นๆ หากลงทุนในกองทุนรวมนั้น นอกจากนี้ ยังเคยได้รับโทรศัพท์บ่อยๆ จากบางธนาคารต่างประเทศ ที่พนักงานขายเรียกร้องให้ใช้วงเงินจากบัตรเครดิตไปซื้อกองทุน โดยบอกว่าหุ้นขึ้นแล้วได้กำไรคุ้มดอกเบี้ยแน่นอน
การขายกองทุนรวมต้องไม่เป็นแบบนี้ เราต้องยึดมั่นในจริยธรรมของการแนะนำลูกค้า ไม่ไปเน้นที่ต้องทำให้ได้เป้าโดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสมของการให้คำแนะนำ
สิ่งที่ บลจ. บัวหลวง จะแนะนำก็คืออย่าตกเป็นเหยื่อของการขยายตลาดบนความเสียหายของลูกค้าซึ่งคนขายไปแนะนำให้ลูกค้ากู้มาซื้อกองทุน เอาของรางวัลมาล่อใจ ลูกค้าใช้เครดิตการ์ดซื้อกองทุนรวม RMF และ LTF ได้ แต่เมื่อถึงเวลาที่บัตรเครดิตเรียกเก็บเงิน คุณจะต้องจ่ายชำระทั้งหมดเต็มจำนวน มิฉะนั้น คุณอาจเป็นเหมือน George French
บลจ.ที่มีแบงค์หนุน ได้ประโยชน์กว่าลูกค้า แบงค์แม่ก็ได้ประโยชน์ แล้วทำไม บลจ.บัวหลวง ถึงออกมาค้านวิธีการขายแบบนี้ล่ะเพราะเราต้องการเป็นมิตรแท้ตลอดเส้นทางลงทุนของทุกคน ไม่ได้ห่วงหรอกว่ารายได้จะไม่ดี มันดีมากค่ะ ยิ่งสายป่านยาวๆ ยิ่งทำได้มาก แล้วแบงค์ใหญ่ต่างๆ สายป่านพวกเราเหล่านี้จะสั้นละหรือ
ไม่เลย หากเราทุ่มตลาดกัน เราทำได้อยู่แล้ว แต่คนที่รับกรรมคือลูกค้า เข้าใจยังคะ