นักวิเคราะห์กองทุนรวม แนะนักลงทุนเก็บกองทุน LTF ด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ หลังปัญหาน้ำท่วมยังกดดันตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นถึงระยะยาว ขณะที่ปัญหาหนี้ยุโรปก็ยังเป็นปัจจัยลบกดดันตลาดอีกด้วย พร้อมชูกองทุน KFLTFDIV น่าลงทุน
นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังได้แผนกู้วิกฤตหนี้ยุโรปที่ชัดเจน ยุโรปกลับต้องเผชิญกับบททดสอบอย่างรวดเร็วเมื่อ กรีซมีแผนการทำประชามติมาตรการช่วยเหลือของสหภาพยุโรป ซึ่งจะทำให้มีโอกาสจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายขึ้นไปอีก ส่งผลให้ความผันผวนก็เกิดขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว แต่สุดท้ายรัฐบาลกรีซสามารถหาข้อสรุปได้โดยไม่ต้องทำประชามติ ซึ่งจะส่งผลดีกับการลงทุนในสัปดาห์นี้ และแผนกู้วิกฤตหนี้ยุโรปสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังบ่งชี้ว่ามีโอกาสน้อยลงที่เศรษฐกิจจะกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง
โดยเฉพาะอัตราการว่างงานที่ปรับตัวลดลงเหลือ 9.0% แนวโน้มการลงทุนระยะสั้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเราจึงคงคำแนะนำระยะสั้น “เก็งกำไร” แต่คงต้องย้ำถึงความระมัดระวังในการลงทุนภายใต้ภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูง กองทุนที่แนะนำในสัปดาห์นี้ยังคงเป็น Index Funds ที่แนะนำต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนได้แก่ ASP-SP500 ของ บลจ. Asset Plus โดย S&P 500 มีแนวต้านที่ 1,300 - 1,360 จุด ขณะที่กองทุน ASP-HSI ของ บลจ. Asset Plus แนวต้านสำหรับการเก็งกำไร 21,000 - 21,500 และกองทุนน้ำมัน K-OIL และ ASP-OIL แนวต้าน 100 US$/bbl.ส่วนการลงทุนระยะยาวแนะนำให้ “Wait and see” ต่อไป เรายังคงต้องระวังปัญหาหนี้ยุโรปที่จะเป็นปัจจัยสร้างความผันผวนให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยง
ขณะที่ตลาดหุ้นไทย SET แม้ว่าจะได้ปัจจัยภายนอกหนุนดัชนี แต่สถานการณ์น้ำท่วมยังไม่น่าไว้ใจ การลงทุน LTF จึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเรายังคงเน้นให้ลงทุนเมื่อ SET ปรับลดลงก่อน โดยกองทุนที่เราแนะนำยังคงเป็น KFLTFDIV ของ บลจ. กรุงศรี ตามเดิม สำหรับนักลงทุนที่ได้สับเปลี่ยน LTF ไปยัง Defensive LTF อย่าง KSDLTF (K-Strategic Defensive LTF) ตามที่ได้แนะนำไปก่อนหน้า เรายังแนะนำเหมือนเดิม คือไม่เห็นการเปลี่ยนแนวโน้มของ SET เป็นขาขึ้นที่ชัดเจน ให้ถือกองทุน KSDLTF ต่อไป
อย่างไรก็ตามในสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากแผนกู้วิกฤตหนี้ยุโรโซน มีความคืบหน้ามากขึ้นส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกกลับมามีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ในสัปดาห์ที่แล้วสถานการณ์กลับมาเลวร้ายลงอีกครั้งเมื่อกรีซต้องการทำประชามติต่อมาตรการช่วยเหลือจากทางสหภาพยุโรป การตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีกรีซครั้งนี้ทำให้สถานการณ์กลับมาเลวร้ายยิ่งขึ้น กดดันดัชนีทั่วโลกปรับตัวลดลง
โดยเฉพาะทางฝั่งยุโรปและต่อมาสถานการณ์ล่าสุดในช่วงปลายสัปดาห์กรีซได้ยกเลิกการทำประชามติจึงลดความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในตลาดเงิน ตลาดทุนยุโรปลงได้ อย่างไรก็ตามเรายังคงต้องจับตาดูพัฒนาการการแก้ปัญหาหนี้ยุโรปอย่างใกล้ชิดต่อไป ซึ่งสถานการณ์ในยุโรปยังส่งผลต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างชัดเจน
สำหรับทางฝั่งสหรัฐเอง ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐยังบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งขึ้น โอกาสที่จะเกิดภาวะถดถอยมีน้อยลง ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 80,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงเหลือ 9.0% ในเดือน ต.ค. 54 จาก 9.1% แต่ตลาดหุ้นสหรัฐได้รับผลกระทบจากทางฝั่งยุโรป
ส่วนส่วนสถานการณ์น้ำท่วมของไทยยังเป็นปัจจัยเสี่ยงกดดันตลาด ต้องเฝ้าระวังติดตามอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามแม้ว่าสถานการณ์ทางฝั่งยุโรปจะน่าเป็นห่วง แต่การคาดการณ์ว่ารัฐบาลจีนจะเริ่มผ่อนคลาดนโยบายการเงิน ถือเป็นข่าวดีสำหรับตลาดหุ้นจีน