ASTV ผู้จัดการรายวัน - หุ้นไทยร่วง 18 จุด นักลงทุนผิดหวังเยอรมนีไม่มีแผนแก้หนี้ยุโรปให้เด็ดขาด อีกทั้งภาวะภัยน้ำท่วมกดดันจนเกิดแรงเทขาย โบรกฯประเมินทิศทางดัชนีวันนี้เป็นไปตามภูมิภาคหรือแค่ประคองตัว แนวรับ 938 จุด และแนวต้าน 982 จุด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (18ต.ค.) ปรับตัวอยู่ในแดนลบ โดยปิดที่ระดับ 952.75 จุด ลดลง 18.88 จุด หรือ -1.94% มูลค่าการซื้อขาย 23,122.27 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุด 952.75 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 938.44 จุด โดยเป็นการปรับตัวลงแรงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากถูกขายทำกำไรระยะสั้นหลังผิดหวังที่รัฐมนตรีเยอรมนีระบุว่าจะยังไม่มีแผนเด็ดขาดแก้ปัญหาหนี้ยุโรปในการประชุมซัมมิท 23 ต.ค.นี้ ประกอบกับตลาดฯถูกกดดันจากปัจจัยลบเรื่องภาวะน้ำท่วมในประเทศด้วย โดยสถาบันซื้อสุทธิ 184.27 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 125.09 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 238.00 ล้านบาท
หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 101 หลักทรัพย์ ลดลง 405 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 89 หลักทรัพย์ โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,955.36 ล้านบาท ปิดที่ 34.00 บาท ลดลง 1.25 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,799.94 ล้านบาท ปิดที่ 293.00 บาท ลดลง 7.00 บาท SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,546.96 ล้านบาท ปิดที่ 300.00 บาท ลดลง 6.00 บาท KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,136.57 ล้านบาท ปิดที่ 117.00 บาท ลดลง 3.50 บาท และCPF มูลค่าการซื้อขาย 1,107.30 ล้านบาท ปิดที่ 29.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
ส่วนความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค พบว่า ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียร่วง 88.50 จุด ปิดที่ 4,186.90 จุด, ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปรับตัวลง 101.64 จุด หรือ 1.36% ปิดที่ 7,359.48 จุด ,ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลง 137.69 จุด หรือ 1.55% แตะที่ 8,741.91 จุด , ดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิตตลาดหุ้นจีน ร่วง 56.92 จุด หรือ 2.33% ปิดที่ 2,383.49 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นร่วงลง 286.56 จุด หรือ 2.73% ปิดที่ 10,226.93 จุด และดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกงดิ่ง 797.53 จุด หรือ 4.23% ปิดที่ 18,076.46 จุด
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงแรงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ มองว่าเป็นการขายทำกำไรระยะสั้น หลังความคาดหวังที่จะได้เห็นการแก้ไขปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรปลดลงเมื่อรมว.คลังเยอรมนีระบุว่าจะยังไม่มีแผนการแก้ปัญหาที่เบ็ดเสร็จออกมาในการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรปวันที่ 23 ต.ค.ประกอบกับมีปัจจัยลบจากสถานการณ์น้ำท่วมที่จะกระทบกับการบริโภคในประเทศพอสมควร
ทำให้ แนวโน้มการลงทุนในวันนี้(19 ต.ค.)คาดว่า ตลาดฯคงเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ หากตลาดต่างประเทศอย่างสหรัฐฯและยุโรปคืนนี้(18ต.ค.)ไม่แย่มาก ก็เชื่อว่าดัชนีฯน่าจะประคองตัวอยู่ในกรอบแนวรับ 938 จุด และแนวต้าน 982 จุด
ขณะที่ นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟินันเซียไซรัส กล่าวว่า ช่วงท้ายตลาดดัชนีดีดตัวกลับขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากลงไปค่อนข้างลึกในช่วงต้นภาคบ่าย เนื่องมีแรงเก็งกำไรงบไตรมาส 3/54 ของบริษัทจดทะเบียนเข้ามา ซึ่งตลาดคาดว่าผลประกอบการหลายบริษัทจะมีการเติบโตที่ดี ส่วนประเด็นเรื่องยุโรปทำให้นักลงทุนเกิดความตกใจในช่วงสั้น ๆ เท่านั้น
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (18ต.ค.) ปรับตัวอยู่ในแดนลบ โดยปิดที่ระดับ 952.75 จุด ลดลง 18.88 จุด หรือ -1.94% มูลค่าการซื้อขาย 23,122.27 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุด 952.75 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 938.44 จุด โดยเป็นการปรับตัวลงแรงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากถูกขายทำกำไรระยะสั้นหลังผิดหวังที่รัฐมนตรีเยอรมนีระบุว่าจะยังไม่มีแผนเด็ดขาดแก้ปัญหาหนี้ยุโรปในการประชุมซัมมิท 23 ต.ค.นี้ ประกอบกับตลาดฯถูกกดดันจากปัจจัยลบเรื่องภาวะน้ำท่วมในประเทศด้วย โดยสถาบันซื้อสุทธิ 184.27 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 125.09 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 238.00 ล้านบาท
หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 101 หลักทรัพย์ ลดลง 405 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 89 หลักทรัพย์ โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,955.36 ล้านบาท ปิดที่ 34.00 บาท ลดลง 1.25 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,799.94 ล้านบาท ปิดที่ 293.00 บาท ลดลง 7.00 บาท SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,546.96 ล้านบาท ปิดที่ 300.00 บาท ลดลง 6.00 บาท KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,136.57 ล้านบาท ปิดที่ 117.00 บาท ลดลง 3.50 บาท และCPF มูลค่าการซื้อขาย 1,107.30 ล้านบาท ปิดที่ 29.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
ส่วนความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค พบว่า ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียร่วง 88.50 จุด ปิดที่ 4,186.90 จุด, ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปรับตัวลง 101.64 จุด หรือ 1.36% ปิดที่ 7,359.48 จุด ,ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลง 137.69 จุด หรือ 1.55% แตะที่ 8,741.91 จุด , ดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิตตลาดหุ้นจีน ร่วง 56.92 จุด หรือ 2.33% ปิดที่ 2,383.49 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นร่วงลง 286.56 จุด หรือ 2.73% ปิดที่ 10,226.93 จุด และดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกงดิ่ง 797.53 จุด หรือ 4.23% ปิดที่ 18,076.46 จุด
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงแรงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ มองว่าเป็นการขายทำกำไรระยะสั้น หลังความคาดหวังที่จะได้เห็นการแก้ไขปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรปลดลงเมื่อรมว.คลังเยอรมนีระบุว่าจะยังไม่มีแผนการแก้ปัญหาที่เบ็ดเสร็จออกมาในการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรปวันที่ 23 ต.ค.ประกอบกับมีปัจจัยลบจากสถานการณ์น้ำท่วมที่จะกระทบกับการบริโภคในประเทศพอสมควร
ทำให้ แนวโน้มการลงทุนในวันนี้(19 ต.ค.)คาดว่า ตลาดฯคงเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ หากตลาดต่างประเทศอย่างสหรัฐฯและยุโรปคืนนี้(18ต.ค.)ไม่แย่มาก ก็เชื่อว่าดัชนีฯน่าจะประคองตัวอยู่ในกรอบแนวรับ 938 จุด และแนวต้าน 982 จุด
ขณะที่ นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟินันเซียไซรัส กล่าวว่า ช่วงท้ายตลาดดัชนีดีดตัวกลับขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากลงไปค่อนข้างลึกในช่วงต้นภาคบ่าย เนื่องมีแรงเก็งกำไรงบไตรมาส 3/54 ของบริษัทจดทะเบียนเข้ามา ซึ่งตลาดคาดว่าผลประกอบการหลายบริษัทจะมีการเติบโตที่ดี ส่วนประเด็นเรื่องยุโรปทำให้นักลงทุนเกิดความตกใจในช่วงสั้น ๆ เท่านั้น