ฝ่ายวิจัยบลจ.กรุงไทย ลุ้นเงินกองทุนประหยัดภาษีทั้ง LTF และ RMF ไหลเข้าตลาดหุ้น หลังต่างชาติเริ่มชะลอการลงทุนในช่วงที่เหลือของปี ประเมินดัชนีฯเดือนนี้อยู่ในกรอบ 925-990จุด พร้อมแนะจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและปัจจัยลบจากยุโรปและอเมริกา
รายงานข่าวจากฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยแนวโน้มการลงทุนตราสารทุนในเดือนพฤศจิกายนว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะอยู่ในกรอบการแกว่งตัวระหว่าง 925-990 จุด หลังจากลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 843.69 จุดและรีบาวน์ขึ้นมาเยื่อนเหนือ 900 จุดได้ในเดือนที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีพบว่านักลงทุนต่างชาติจะมีการชะลอการลงทุน แต่จะได้เม็ดเงินจากกองทุน LTF และ RMF เข้ามาสนับสนุน ส่วนการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 3/2554 นั้นคาดว่าจะไม่ส่งผลบวกต่อการลงทุนเท่าใดนัก
ทั้งนี้เนื่องจากหลายบริษัทจดทะเบียนได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมทำให้ต้องมีการปรับลดประมาณการกำไรลง อย่างไรก็ตามความน่าสนใจในกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีหลังภาวะน้ำท่วมจบลงคือ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มอาหาร กลุ่มเกษตร และกลุ่มโรงพยาบาล เป็นต้น ซึ่งมีการบวกขึ้นมาก่อนหน้าแล้ว และหุ้นในกลุ่มที่ฟื้นตัวได้เร็วจากผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมรุนแรงและราคาหุ้นลดลงมาค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับราคาที่เหมาะสมในระยะยาวที่เป็นกลุ่มน่าจับตามองหากสามารถแก้ไขปัญหาได้เร็วและรัฐบาลอัดฉีดเม็ดเงินเข้ามาฟื้นฟู
นอกจากนี้ควรติดตามมาตรการภาษีและค่าจ้างขั่นต่ำว่ารัฐบาลจะสรุปเช่นไร เพราะจะส่งผลถึงประมาณการกำไรในปีหน้า รวมทั้งปัจจัยภายนอกที่ยังคงต้องติดตามถึงรายละเอียดของการแก้ไขปัญหาหนี้ในยุโรปซึ่งเป็นประเด็นหลักที่จะส่งผลให้ดัชนีฯมีความผันผวนอยู่ต่อไป และติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศที่สำคัญอย่างสหรัฐฯและจีนต่อ
"กลยุทธทำกำไรเมื่อราคาหุ้นขึ้นไปและรอจังหวะปรับลดลงมาแรงแล้วเข้าสะสม โดยการปรับลดประมาณการทางเศรษฐกิจ รวมถึงกำไรของบจ.และเป้าเหมายของดัชนีตลาดหุ้นในปีหน้าลง ปัญหากลุ่มประเทศยุโรปนั้น ทำให้ต้องระมัดระวังการลงทุนต่อไป"
สำหรับแนวโน้มตลาดตราสารหนี้ในเดือนนี้นั้น คาดว่าความกังวลต่อหนี้สาธารณะยุโรปที่กลับมาปะทุใหม่รวมทั้งการที่ตลาดยังคาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. อาจลดดอกเบี้ยนโยบายลงเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากวิฤกติน้ำท่วมนี้ ซึ่งตามกำหนดการแล้ว กนง.จะมีการประชุมอีกครั้งในช่วงปลายเดือนในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2554 ทำให้เส้นอัตราผลตอบแทนยังมีลักษณะลาดลงอยู่ โดยรวมทั้งเดือนนี้ยังน่าจะเห็นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับลดลงอีกเล็กน้อย
ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาทนั้นน่าจะผันผวนไปในทิศทางเดียวกันกับภูมิภาค แต่ก็มีปัจจัยเฉพาะตัวจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งน่าจะกระทบการส่งออกทำความต้องการเงินบาทจากผู้ส่งออกลดลง อีกทั้งในช่วงการฟื้นฟู การนำเข้าวัตถุดิบและเครื่องจัการที่จะต้องเร่งตัวขึ้นน่าจะทำให้มีแรงขายบาทออกมาด้วยเช่นกัน
ฝ่ายวิจัยบลจ.กรุงไทย ระบุต่อว่า ในส่วนของทองคำยังคงได้รับประโยชน์จากวิกฤติหนี้สาธารณะในยุโรปที่เกิดขึ้น การที่นายกรัฐมนตรีกรีซประกาศจะให้มีการลงประชามติกรณีการขอรับความช่วยเหลือจากอียู สร้างความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ทำให้ความน่าสนใจในการลงทุนทองคำมีมากขึ้น
นอกจากนั้นความต้องการทองคำตามเทศกาลในช่วงปีใหม่และต่อเนื่องถึงเทศกาลตรุษจีนในต้นปีหน้าจากอินเดียและจีนอาจจะเริ่มเข้ามามีบทบาทผลักดันราคาทองคำได้ตั้งแต่ปลายเดือนเป็นต้นไป แต่น่าจะชัดเจนขึ้นในช่วงเดือนหน้า อีกทั้งหลักจากที่ราคาทองคำมีความผันผวนอย่างมาในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. ที่ผ่านมาทำให้การปรับเพิ่มขึ้นของราคาทองคำอาจเผชิญกับแรงขายทำกำไรได้เป็นระยะๆ