xs
xsm
sm
md
lg

ชี้โอกาสเหมาะลุยบอนด์6เดือนหวั่นศก.โลก-น้ำท่วมกดดอกเบี้ยลด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-2บลจ.ลุยออกกองระยะสั้น 6 เดือน "ไทยพาณิชย์"ชูผลตอบแทน 3.50% ต่อปี ระบุแน้วโน้มกนง.คงดอกเบี้ยอีกระยะ แต่หวั่นน้ำท่วม-เศรษฐกิจโลกอาจกดดันปรับลดดอกเบี้ยได้ ด้าน"บัวหลวง"ส่ง บัวหลวงตราสารหนี้ชนิดระบุวันครบกำหนด 33/11 ชูผลตอบแทน 3.4% ต่อปี

นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ตราสารหนี้ระยะสั้นมีแนวโน้มทรงตัวและมีโอกาสปรับตัวลง เนื่องจากความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และปัญหาหนี้ในกลุ่มประเทศยุโรป ประกอบกับปัญหาน้ำท่วมภายในประเทศไทยที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทำให้คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 3.50% ไปจนถึงอีก
 6 เดือนข้างหน้า ดังนั้นผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุไม่เกิน 6 เดือนจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก

อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์น้ำท่วมส่งผลกระทบรุนแรงในวงกว้าง และเศรษฐกิจโลกชะลอตัวไปมากกว่าที่คาดการณ์ไว้จนส่งผลให้ กนง. จำเป็นต้องตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อัตราผลตอบแทนของการลงทุนในตราสารหนี้อายุไม่เกิน 6 เดือนอาจสามารถปรับตัวลงได้อีก

ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเปิดขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ 6M40 (SCB Fixed Income Fund 6M40 ) ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการล็อคผลตอบแทนระยะสั้นเพื่อป้องกันความผันผวนและสามารถรับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำถึงปานกลาง โดยจะทำการเปิดขายตั้งแต่วันนี้ถึง 21 ตุลาคมนี้

สำหรับกองทุนดังกล่าวจะลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศระยะสั้นเพียง 6 เดือน และคาดว่าจะมีผลตอบแทนประมาณ 3.50% ต่อปี

ส่วนโยบายลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ไทย 51.50% เงินฝากธนาคาร Union National Bank (UNB) 24.50% มีอันดับความน่าเชื่อถือ F1 (Fitch)   ตั๋วแลกเงินธนาคาร Industrial and Commercial Bank of China (ICBC) สาขากรุงเทพ สัดส่วน 20% อันดับความน่าเชื่อถือ A-1(S&P) และ Euro Medium Term Note (EMTN) ธนาคาร Industrial and Commercial Bank of China (ICBC) สาขาซิดนีย์ สัดส่วน 4% อันดับความน่าเชื่อถือ A-1(S&P) ซึ่งอัตราผลตอบแทนของกองทุนดังกล่าวได้ทำการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging)เรียบร้อยแล้ว

ด้าน รายงานข่าวจากบลจ.บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทกำลังเปิดขายกองทุนรวมบัวหลวงตราสารหนี้ชนิดระบุวันครบกำหนด 33/11 หรือ(B-FIXTERM33/11) ซึ่งมีอายุประมาณ 6 เดือน ให้ผล ตอบแทนประมาณการที่ 3.4% ต่อปี โดยเริ่มไอพีโอแล้วตั้งแต่วันนี้ ถึง 25 ตุลาคม 2554

ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศและตราสารหนี้ต่างประเทศ โดยเลือกการลงทุนในตราสารหนี้ของกิจการที่มีความมั่นคงและมีศักยภาพในการให้ผลตอบแทนที่ดี อย่างไรก็ตามเงินลงทุนที่จะนำมาลงทุนกองทันนี้ควรเป็นเงินส่วนที่สามารถได้ตามอายุกองทุน

สำหรับกองทุน B-FIXTERM28/11 จะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐประมาณ 32% เงินฝาก และตราสารสารสถาบันการเงินในประเทศอีก 19% เงินฝาก และตราสารหนี้สารหนี้ที่เป็นการลงทุนในธนาคารแห่งประเทศจีน 24% ตราสารภาคเอกชน 24% และเงินฝากอีก 1%

โดยกองทุนรวมบัวหลวงตราสารหนี้ชนิดระบุวันครบกำหนด 33/11 จะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ และต่างประเทศ โดยส่วนที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศ กองทุนจะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและรัฐวิสาหกิจไทย เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือตราสารหนี้ที่กระทรวงการคลัง กองทุน ฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน หรือรัฐวิสาหกิจเป็นผู้ออก ผู้รับรอง เป็นต้น

ขณะที่การลงทุนในต่างประเทศ ตราสารหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศ โดยจะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน รวมถึงภาคเอกชน ที่เสนอขายในต่างประเทศ ซึ่งได้รับการจัดอันดับ ณ วันที่ลงทุน ในระดับ INVESTMENT GRADE

นอกจากนี้แล้วกองทุนจะวัดผลการดำเนินงานโดยเฉลี่ยอัตราผลตอบแทนจากอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรทีมีอายุคงที่ ZERO RATE RETURN หรือ ZRR อายุ 6 เดือน ณ วันที่ลงทุน ในสัดส่วน 30% รวมถึงผลตอบแทนของพันธบัตรที่มีอายุคงที่ ZRR อายุ 6 เดือน ณ วันที่ลงทุน บวกด้วยส่วนต่างของตราสารหนี้ภาคเอกชนเทียบ กับพันธบัตรอันดับเครดิต BBB ในสัดส่วนประมาณ 45% และอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่างธนาคารสำหรับระยะเวลา 1 ปี สกุลเงินสหรัฐฯ ปรับด้วยต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน บวกด้วยค่าเฉลี่ยของ CREDIT SPREAD ของตราสารที่มีการจัดอันดับเครดิตในระดับ A อายุ 1 ปี ในช่วงระยะเวลาที่คำนวณผลตอบแทน ณ วันที่ลงทุน ในสัดส่วนประมาณ 25%
กำลังโหลดความคิดเห็น