บลจ.กรุงไทย แนะทยอยเก็บกองทุนประหยัดภาษีทั้ง กองทุนLTF-RMF คาดสินเดือนตุลาคมดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นต่อ พร้อมส่งโปรโมชั่นซื้อกองทุน LTF คู่ ตั๋วแลกเงินธนาคารกรุงไทย อายุ 4 เดือน เอาใจนักลงทุน
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บลจ. กรุงไทย ร่วมกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จัดโครงการ KTB - B/E Together ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2554 โดยลูกค้าที่ลงทุนในกองทุน LTF คู่กับตั๋วแลกเงินธนาคารกรุงไทย อายุ 4 เดือน ในวงเงินที่เท่ากัน ตั้งแต่ 50,000 บาท ขึ้นไป จะได้รับดอกเบี้ยจากตั๋วแลกเงินสูงถึง 4.1% ต่อปี และจ่ายดอกเบี้ยเมื่อครบกำหนด นอกจากนี้ ยังได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน รับสิทธิในการลดหย่อนภาษี และ ลงทุนทุกๆ 1ล้านบาท รับเงินคืนอีก 12,000 บาท
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลานี้นับว่า เป็นโอกาสที่ดี สำหรับการลงทุนในกองทุนประเภท LTF เนื่องจากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ได้ปรับขึ้นสูงสุดในรอบปีอยู่ที่ 1,144.11 จุด ในวันที่ 1 สิงหาคม 2554 มาอยู่ที่ 862.65 จุด เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2554 ลงลด 281.46 จุด หรือประมาณ 32.62 %
ทั้งนี้คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของเดือน ต.ค. หลังจากมีความชัดเจนในเรื่องการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะให้กับกรีซ และมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากหลายๆ ประเทศเพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจชะลอตัว นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกในประเทศ ได้แก่ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะช่วยให้อุปสงค์ในประเทศในปี 2554 -2555 เพิ่มขึ้นรองรับความเสี่ยงจากการชะลอตัวของการส่งออก
นอกจากนี้ในปัจจุบันดัชนีฯอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย โดยซื้อขายที่ค่า PER ของผลการดำเนินงานปี 2554 -2555 ที่ประมาณ 10 และ 9 เท่า ขณะเดียวกันอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล สำหรับปี 2554-55 คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 4.6-5.0% ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนประเภทอื่นๆ
ขณะเดียวกันปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยยังมีความแข็งแกร่งโดยสิ้นปี 2553 บริษัทจดทะเบียนของไทยที่ไม่รวมสถาบันการเงินมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่งเพราะมี D/E Ratio ไม่เกิน 1 เท่า และผลการดำเนินงานยังมีการเติบโตในระดับที่ดีเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ โดยฝ่ายวิจัยของ KTAM คาดว่าบริษัทจดทะเบียนจะมีกำไรสุทธิเติบโต 12% ในปี 2555 ทั้งนี้ยังไม่รวมผลจากนโยบายการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลของรัฐบาล ที่คาดว่าจะทำให้ผลการดำเนินงานมีการเติบโตมากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บลจ. กรุงไทย ร่วมกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จัดโครงการ KTB - B/E Together ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2554 โดยลูกค้าที่ลงทุนในกองทุน LTF คู่กับตั๋วแลกเงินธนาคารกรุงไทย อายุ 4 เดือน ในวงเงินที่เท่ากัน ตั้งแต่ 50,000 บาท ขึ้นไป จะได้รับดอกเบี้ยจากตั๋วแลกเงินสูงถึง 4.1% ต่อปี และจ่ายดอกเบี้ยเมื่อครบกำหนด นอกจากนี้ ยังได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน รับสิทธิในการลดหย่อนภาษี และ ลงทุนทุกๆ 1ล้านบาท รับเงินคืนอีก 12,000 บาท
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลานี้นับว่า เป็นโอกาสที่ดี สำหรับการลงทุนในกองทุนประเภท LTF เนื่องจากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ได้ปรับขึ้นสูงสุดในรอบปีอยู่ที่ 1,144.11 จุด ในวันที่ 1 สิงหาคม 2554 มาอยู่ที่ 862.65 จุด เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2554 ลงลด 281.46 จุด หรือประมาณ 32.62 %
ทั้งนี้คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของเดือน ต.ค. หลังจากมีความชัดเจนในเรื่องการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะให้กับกรีซ และมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากหลายๆ ประเทศเพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจชะลอตัว นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกในประเทศ ได้แก่ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะช่วยให้อุปสงค์ในประเทศในปี 2554 -2555 เพิ่มขึ้นรองรับความเสี่ยงจากการชะลอตัวของการส่งออก
นอกจากนี้ในปัจจุบันดัชนีฯอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย โดยซื้อขายที่ค่า PER ของผลการดำเนินงานปี 2554 -2555 ที่ประมาณ 10 และ 9 เท่า ขณะเดียวกันอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล สำหรับปี 2554-55 คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 4.6-5.0% ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนประเภทอื่นๆ
ขณะเดียวกันปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยยังมีความแข็งแกร่งโดยสิ้นปี 2553 บริษัทจดทะเบียนของไทยที่ไม่รวมสถาบันการเงินมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่งเพราะมี D/E Ratio ไม่เกิน 1 เท่า และผลการดำเนินงานยังมีการเติบโตในระดับที่ดีเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ โดยฝ่ายวิจัยของ KTAM คาดว่าบริษัทจดทะเบียนจะมีกำไรสุทธิเติบโต 12% ในปี 2555 ทั้งนี้ยังไม่รวมผลจากนโยบายการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลของรัฐบาล ที่คาดว่าจะทำให้ผลการดำเนินงานมีการเติบโตมากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้