นักวิเคราะห์กองทุนรวมแนะนักลงทุน" Wait and see" ชะลอการลงทุนใหม่หันไปถือเงินสดหรือลงทุนในมันนี่มาร์เก็ตแทน รอสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชัดเจนก่อนเข้าลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง คาดวิกฤติหนี้ยุโรปยังเลวร้าย ขณะที่มาตรการ Operation Twist ใช้ไม่ได้ผลนักลงทุนยังแห่ขายสินทรัพย์เสี่ยง
นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มีความเป็นไปได้มากที่กรีซจะผิดนัดชำระหนี้ โดยทางยุโรปได้มุ่งเป้าไปยังการป้องกันสถานการณ์ไม่ให้รุกรามเป็นปัญหาที่ใหญ่เกินกว่าจะแก้ไขได้ ซึ่งความวิตกกังวลดังกล่าวทำให้นักลงทุนต่างขายสินทรัพย์เสี่ยง และหันไปหาดอลล่าร์สหรัฐ โดยมีแผน Operation Twist (กดดอกเบี้ยระยะยาวให้ต่ำลง ผ่านการซื้อพันธบัตรระยะยาว และขายพันธบัตรระยะสั้น ) เป็นปัจจัยหนุนราคาพันธบัตรระยะยาว ทำให้ความต้องการดอลล่าร์สหรัฐมีเพิ่มขึ้น และกลับมาเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่สุดในช่วงนี้ แต่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำซึ่งสภาพคล่องไม่สูง ได้ถูกขายทำกำไรออกมาอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ที่มีความต้องการสภาพคล่องสูงเป็นอย่างดี ดังนั้นระยะสั้นเราแนะนำให้ชะลอการลงทุนใหม่ ถือเงินสด หรือ Money market Fund (แนะนำ PCASH ของ บลจ. ฟิลลิป) โดยจับตาพัฒนาการการแก้ปัญหาหนี้ยุโรป เพื่อประเมินจุดกลับเข้าลงทุนสำหรับการลงทุนระยะยาวต่อไป
สำหรับนักลงทุน LTF ช่วงนี้เรายังคงแนะนำให้ Wait and see ต่อไปก่อน แนวรับ 1,010 จุด ไม่สามารถต้านทานแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติได้ ทำให้ SET ได้ปรับตัวเข้าสู่แนวโน้มขาลง แม้ว่าเรายังคงมองว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง และเห็นเป็นโอกาสสำหรับการลงทุนระยะยาวไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม แต่เราอยากให้นักลงทุนใจเย็นรอดูสถานการณ์ และแนวโน้มให้ชัดเจนก่อนการลงทุนใหม่ แนวรับแรก 850 จุด ถัดไป 750 จุด เรามองเป็นจุดที่อาจทำให้ SET มีการเปลี่ยนแนวโน้มได้ ให้เฝ้าจับตามองหาก SETปรับลดลงมาใกล้แนวรับ และพิจารณาเข้าสะสมหากสถานการณ์ดีขึ้น และมีสัญญาณเปลี่ยนแนวโน้ม สำหรับนักลงทุนที่ได้สับเปลี่ยนไปยัง Defensive LTF อย่าง KSDLTF (K-Strategic Defensive LTF) ตามที่เราแนะนำก่อนหน้านี้ เราก็ยังคงแนะนำเช่นเดิม ไม่เห็นการเปลี่ยนแนวโน้มของ SETI เป็นขาขึ้น ให้ถือกองทุน KSDLTF ต่อไป
ทั้งนี้แม้ว่าระยะสั้นจะเสี่ยงเกิดภาวะวิกฤตเศรษฐกิจเช่นเดียวกับปี 2008-09 แต่ระยะยาวเรายังเชื่อว่าเอเชีย และตลาดเกิดใหม่ยังเป็นสถานที่เป้าหมายการลงทุนจากนักลงทุนทั่วโลก ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ต่างกันอย่างมาก เราจึงยังคงแนะนำให้สะสมกองทุนตลาดเกิดใหม่ ตามเดิม แต่ระยะสั้นรอดูสถานการณ์ให้ชัดเจนก่อนเข้าสะสมเพิ่ม
อย่างไรก็ตามในสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเด็นความสนใจยังคงอยู่ที่สหรัฐ และยุโรป โดยกลางสัปดาห์ที่แล้วสหรัฐออกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว แต่การประกาศมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบใหม่ หรือที่เรียกว่า Operation Twist วงเงิน 4 แสนล้านดอลล่าร์ กลับทำให้นักลงทุนผิดหวัง และคาดว่าแผนการดังกล่าวจะไม่สามารถหยุดยั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐได้ ประกอบกับสถานการณ์หนี้กรีซกลับมาเป็นประเด็นสำคัญ เมื่อหลายฝ่ายต่างยอมรับว่ากรีซมีโอกาสเกือบจะ 100% ที่จะต้องมีการผิดนัดชำระหนี้ ทำให้ตลาดเกิดความตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก ราคาสินทรัพย์เสี่ยงต่างดิ่งลงอย่างหนัก แม้ว่าตัวเลขการผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์นี้จะลดลง 9,000 ราย และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นเกินคาดก็ตาม โดยสำหรับสัปดาห์นี้คาดว่าตลาดจะยังคงจับตาพัฒนาการการแก้ปัญหาหนี้ยุโรป และความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจะสามารถจำกัดอยู่ภายในยุโรปได้หรือไม่
ส่วนบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียยังคงถูกกดดันจากปัญหาหนี้ยุโรป และเศรษฐกิจชะลอตัวในสหรัฐ ทำให้ราคาหุ้นยังดิ่งลงต่อ และถูกเร่งด้วยแผน Operation Twist ที่ทำให้เกิดการเก็งกำไรพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐ หนุนค่าเงินดอลล่าร์กลับมาแข็งค่าขึ้นเทียบกับค่าเงินในภูมิภาคเอเชีย สำหรับตลาดหุ้นไทย นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อไป สอดคล้องกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ตามกระแสเงินทุนที่ไหลกลับไปเก็งกำไรยังตลาดพันธบัตรสหรัฐ SETI ปรับตัวลดลงตามตลาดโลกซึ่งการปรับตัวของตลาดหุ้นโดยรวมยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลง และจับตาผลกระทบจากยุโรปเพื่อประเมินจุดต่ำสุดของตลาดหุ้นในเอเชีย