ASTVผู้จัดการรายวัน-บริษัท"ทีซีซี แลนด์"พอร์ตอสังหาฯของเสี่ยเจริญเดินหน้าเตรียมจับโรงแรมตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ "บลจ.กรุงไทย" รับลูกพิจารณาสินทรัพย์ทำกองทุนคาดปี 2555 เปิดไอพีโอได้ พร้อมวางโครงการเพิ่มทุนกองทุน "TCIF" และ "TRIF" เพื่อซื้อสินทรัพย์เพิ่มอีกด้วย
นายปณต สิริวัฒนภักดี กรรมการบริษัท ทีซีซี แลนด์ รีเทล จำกัด กล่าวว่า กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทเรานั้นมีหลากหลายไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า สำนักงานให้เช่า โรงแรม และสนามกอฟว์ ซึ่งที่ผ่านมาเราได้ร่วมกับบลจ. กรุงไทย ทำกองทุนอสังหาริมทรัพย์มาแล้ว 2 กองทุน คือกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยคอมเมอร์เชียลอินเวสเม้นต์ ( TCIF) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยรีเทลอินเวสเม้นต์ (TRIF) ซึ่งกองทุนอสังหาฯถัดไปที่เรากำลังมองไว้คือโรงแรม แต่ทั้งนี้คงต้องรอการตัดสินใจและพิจารณาสินทรัพย์ที่จะมาจัดตั้งกองทุนก่อนว่ามีศักยภาพมากน้อยแค่ไหน
ทั้งนี้การจัดตั้งกองทุนอสังหาฯกองถัดไปที่เป็นสินทรัพย์โรงแรมนั้นเราต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนก่อนว่าจะสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอและเราเชื่อว่าน่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอีกด้วย สำหรับช่วงเวลาที่จะเสนอขายกองทุนดังกล่าวนั้นทางเรายังไม่มีตารางเวลาที่ชัดเจนซึ่งอาจจะไม่ใช่ในปีนี้ ส่วนสินทรัพย์ที่มีความน่าสนใจในช่วงระยะเวลานี้คือรีเทล
นางชวินดา หาญรัตนกูล รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงานกองทุนอสังหาริมทรัพย์และกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การจัดตั้งกองทุนอสังหาฯประเภทโรงแรมนั้นต้องใช้เวลาในการพิจารณาค่อนข้างละเอียดเนื่องจากตัวสินทรัพย์โรงแรมนั้นมีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งคาดว่าการออกกองทุนดังกล่าวอาจจะไม่ใช่ภายในปีนี้
อย่างไรก็ตามเราต้องดูโรงแรมนั้นๆสามารถทำรายได้เข้ากองทุนได้จริงและสม่ำเสมอ รวมถึงValuation หรือการประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ ซึ่งหากเราได้สินทรัพย์มาในราคาสูงแต่ต้องมาปรับปรุงเพิ่มก็อาจจะไม่เหมาะ หรือได้สินทรัพย์มาในราคาสูงแต่รายได้ที่เข้ากองทุนนั้นต่ำ เป็นต้น นอจากนี้ธุรกิจโรงแรมจะมีวัฎจักรค่อนข้างชัดเจนเช่น ไตรมาสแรกโดดเด่น ไตรมาสที่สองและไตรมาสสามจะค่อนข้างนิ่งเงียบ และในไตรมาสที่สี่จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง
ทั้งนี้ในส่วนของโลเกชั่นที่ตั้งโรงแรมนั้นก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่ออัตราการเช่า เช่นถ้าหากเป็นโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต ทาร์เก็ตของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งอัตราการเช่าพักค่อนข้างนิ่งแต่มีแนวโน้มจะเติบโตในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนที่เชียงใหม่ ก็ดีขึ้นตั้งแต่ปัญหารการเมืองในประเทศคลี่คลายลง ขณะที่หัวหินนั้นมีแนวโน้มดีขึ้นมาก โดยทาร์เก็ตนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นคนกรุงเทพ เป็นต้น ทั้งนี้อัตราการเข้าพักที่เราตั้งเป้าไว้ในต่างจังหวัดเฉลี่ย 60-70% ส่วนกรุงเทพนั้นจะอยู่ที่ 70% ขึ้นไป
นางชวินดา กล่าวต่อว่า ส่วนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยคอมเมอร์เชียลอินเวสเม้นต์ และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยรีเทลอินเวสเม้นต์ นั้นเราอาจจะมีการเพิ่มทุนเพื่อซื้อสินทรัพย์เพิ่มในไม่ช้านี้อีกด้วย
ทางด้านนายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย กล่าวว่า สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยรีเทลอินเวสเม้นต์ ที่เข้าเทรดในตลาดหุ้นเมื่อวานนี้ (27 กค) เป็นวันแรกนั้นกองทุนดังกล่าวลงทุนซื้อกรรมสิทธิ์ในที่ดินและอาคารโครงการพันธุ์ทิพย์พลาซ่างามวงศ์วาน และนับเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในประเภทศูนย์การค้ากองแรกที่ลงทุนแบบมีกรรมสิทธิ์ (Freehold) ซึ่งมีทำเลที่ตั้งใกล้ชุมชนและมีการคมนาคมที่สะดวกอีกทั้งอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวจะมีผู้บริหารทรัพย์สินและผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ คือ บริษัท ทีซีซี แลนด์ รีเทล จำกัด และบริษัท ทิพย์พัฒน อาร์เขต จำกัด ซึ่งมีประสบการณ์ในการบริหารศูนย์การค้าไอทีมานานกว่า 20 ปี จึงมั่นใจว่าการเข้าจดทะเบียนของ TRIF ในครั้งนี้ จะเพิ่มทางเลือกการลงทุนที่ดีให้กับผู้ลงทุน
สำหรับTRIF เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประเภทไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุน ไม่กำหนดอายุโครงการ และมีลักษณะโครงการแบบระบุเฉพาะเจาะจง มีนโยบายจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง อัตราไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิที่ไม่รวมกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการประเมินค่าหรือการสอบทานการประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์หรือสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ประจำรอบระยะเวลาบัญชีนั้น โดยTRIF มีผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO คือบริษัท ทีซีซี แลนด์ อาร์ ไอ จำกัด ถือหน่วยลงทุนในอัตรา 30.03% UOB KAY HIAN PRIVATE LIMITED ถือหน่วยลงทุนในอัตรา 22.50% และบริษัท รัตนสูตร จำกัด ถือหน่วยลงทุนในอัตรา 20.96%
นายปณต สิริวัฒนภักดี กรรมการบริษัท ทีซีซี แลนด์ รีเทล จำกัด กล่าวว่า กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทเรานั้นมีหลากหลายไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า สำนักงานให้เช่า โรงแรม และสนามกอฟว์ ซึ่งที่ผ่านมาเราได้ร่วมกับบลจ. กรุงไทย ทำกองทุนอสังหาริมทรัพย์มาแล้ว 2 กองทุน คือกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยคอมเมอร์เชียลอินเวสเม้นต์ ( TCIF) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยรีเทลอินเวสเม้นต์ (TRIF) ซึ่งกองทุนอสังหาฯถัดไปที่เรากำลังมองไว้คือโรงแรม แต่ทั้งนี้คงต้องรอการตัดสินใจและพิจารณาสินทรัพย์ที่จะมาจัดตั้งกองทุนก่อนว่ามีศักยภาพมากน้อยแค่ไหน
ทั้งนี้การจัดตั้งกองทุนอสังหาฯกองถัดไปที่เป็นสินทรัพย์โรงแรมนั้นเราต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนก่อนว่าจะสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอและเราเชื่อว่าน่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอีกด้วย สำหรับช่วงเวลาที่จะเสนอขายกองทุนดังกล่าวนั้นทางเรายังไม่มีตารางเวลาที่ชัดเจนซึ่งอาจจะไม่ใช่ในปีนี้ ส่วนสินทรัพย์ที่มีความน่าสนใจในช่วงระยะเวลานี้คือรีเทล
นางชวินดา หาญรัตนกูล รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงานกองทุนอสังหาริมทรัพย์และกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การจัดตั้งกองทุนอสังหาฯประเภทโรงแรมนั้นต้องใช้เวลาในการพิจารณาค่อนข้างละเอียดเนื่องจากตัวสินทรัพย์โรงแรมนั้นมีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งคาดว่าการออกกองทุนดังกล่าวอาจจะไม่ใช่ภายในปีนี้
อย่างไรก็ตามเราต้องดูโรงแรมนั้นๆสามารถทำรายได้เข้ากองทุนได้จริงและสม่ำเสมอ รวมถึงValuation หรือการประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ ซึ่งหากเราได้สินทรัพย์มาในราคาสูงแต่ต้องมาปรับปรุงเพิ่มก็อาจจะไม่เหมาะ หรือได้สินทรัพย์มาในราคาสูงแต่รายได้ที่เข้ากองทุนนั้นต่ำ เป็นต้น นอจากนี้ธุรกิจโรงแรมจะมีวัฎจักรค่อนข้างชัดเจนเช่น ไตรมาสแรกโดดเด่น ไตรมาสที่สองและไตรมาสสามจะค่อนข้างนิ่งเงียบ และในไตรมาสที่สี่จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง
ทั้งนี้ในส่วนของโลเกชั่นที่ตั้งโรงแรมนั้นก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่ออัตราการเช่า เช่นถ้าหากเป็นโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต ทาร์เก็ตของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งอัตราการเช่าพักค่อนข้างนิ่งแต่มีแนวโน้มจะเติบโตในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนที่เชียงใหม่ ก็ดีขึ้นตั้งแต่ปัญหารการเมืองในประเทศคลี่คลายลง ขณะที่หัวหินนั้นมีแนวโน้มดีขึ้นมาก โดยทาร์เก็ตนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นคนกรุงเทพ เป็นต้น ทั้งนี้อัตราการเข้าพักที่เราตั้งเป้าไว้ในต่างจังหวัดเฉลี่ย 60-70% ส่วนกรุงเทพนั้นจะอยู่ที่ 70% ขึ้นไป
นางชวินดา กล่าวต่อว่า ส่วนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยคอมเมอร์เชียลอินเวสเม้นต์ และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยรีเทลอินเวสเม้นต์ นั้นเราอาจจะมีการเพิ่มทุนเพื่อซื้อสินทรัพย์เพิ่มในไม่ช้านี้อีกด้วย
ทางด้านนายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย กล่าวว่า สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยรีเทลอินเวสเม้นต์ ที่เข้าเทรดในตลาดหุ้นเมื่อวานนี้ (27 กค) เป็นวันแรกนั้นกองทุนดังกล่าวลงทุนซื้อกรรมสิทธิ์ในที่ดินและอาคารโครงการพันธุ์ทิพย์พลาซ่างามวงศ์วาน และนับเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในประเภทศูนย์การค้ากองแรกที่ลงทุนแบบมีกรรมสิทธิ์ (Freehold) ซึ่งมีทำเลที่ตั้งใกล้ชุมชนและมีการคมนาคมที่สะดวกอีกทั้งอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวจะมีผู้บริหารทรัพย์สินและผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ คือ บริษัท ทีซีซี แลนด์ รีเทล จำกัด และบริษัท ทิพย์พัฒน อาร์เขต จำกัด ซึ่งมีประสบการณ์ในการบริหารศูนย์การค้าไอทีมานานกว่า 20 ปี จึงมั่นใจว่าการเข้าจดทะเบียนของ TRIF ในครั้งนี้ จะเพิ่มทางเลือกการลงทุนที่ดีให้กับผู้ลงทุน
สำหรับTRIF เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประเภทไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุน ไม่กำหนดอายุโครงการ และมีลักษณะโครงการแบบระบุเฉพาะเจาะจง มีนโยบายจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง อัตราไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิที่ไม่รวมกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการประเมินค่าหรือการสอบทานการประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์หรือสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ประจำรอบระยะเวลาบัญชีนั้น โดยTRIF มีผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO คือบริษัท ทีซีซี แลนด์ อาร์ ไอ จำกัด ถือหน่วยลงทุนในอัตรา 30.03% UOB KAY HIAN PRIVATE LIMITED ถือหน่วยลงทุนในอัตรา 22.50% และบริษัท รัตนสูตร จำกัด ถือหน่วยลงทุนในอัตรา 20.96%