xs
xsm
sm
md
lg

หนี้ยุโรปดันราคาทองพุ่งอีก คาดเห็นแนวต้านถัดไปที่1,650US$/Oz

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-โบรกเกอร์กองทุนรวม คาดราคาทองคำรอบใหม่อยู่ที่ 1,650 ดอลลาร์สหรัฐฯต่ออนซ์ หลังหนี้เสียในยุโรปเริ่มขยายวงกว้าง ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯยังมีปัญหา ส่วนตลาดหุ้นเอเชียยังไร้ปัจจัยใหม่ในประเทศช่วยหนุน ล่าสุดแนะนักลงทุนทยอยเก็บกองทุนทองคำเข้าพอร์ต

นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัญหาหนี้ยุโรปและสหรัฐยังคงสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการลงทุนในสัปดาห์นี้ ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกยังคงมีโอกาสผันผวนสูงต่อไป อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบต่างๆ ณ ปัจจุบันกลับส่งผลดีต่อราคาทองคำเห็นได้จากการที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง โดยราคาทองคำล่าสุดสามารถผ่านเเนวต้านที่ระดับ 1,600 US$/oz. ได้เเล้ว ซึ่งอาจเห็นเเรงทำกำไรได้บ้าง

อย่างไรก็ดี เชื่อว่าปัญหาในประเทศทางฝั่งตะวันตกที่ยังไม่จบลงง่ายๆจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำต่อไป เรามองเเนวต้านถัดไปไว้ที่ราว 1,650 US$/oz แนะนำให้สะสมกองทุนทองคำเมื่อราคาอ่อนตัวใกล้เเนวรับที่ 1,600 US$/oz. หรือใกล้ๆ 1,580 US$/oz. กองทุนทองคำที่แนะนำยังคงเป็นกองทุนที่มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนอย่าง K-GOLD ของ บลจ.กสิกรไทย (มีนโยบายจ่ายปันผล) และ ASP-GOLD ของบลจ.Asset Plus (ไม่มีการจ่ายปันผล)

สำหรับกองทุนน้ำมัน เราแนะนำเก็งกำไร ขึ้นขาย-ลงซื้อ ด้วยความระมัดระวัง มองแนวรับไว้ที่ 95 US$/bbl. และ 91 US$/bbl. และแนวต้านที่ 100-105 US$/bbl. กองทุนแนะนำยังคงเป็นกองทุน K-OIL ของบลจ.กสิกรไทย ตามเดิมเรายังคงมุมมองต่อภาพการลงทุนในกองทุนหุ้นทั้งในและต่างประเทศ

โดยระยะสั้นตลาดหุ้นทั่วโลกมีโอกาสผันผวนสูงต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว แต่ระยะยาวเรายังเชื่อมั่นการลงทุนในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ที่ประเทศในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะมีปริมาณหนี้น้อย และการเติบโตทางเศรษฐกิจแข็งแกร่งกว่าทางฝั่งประเทศพัฒนาแล้ว แนะนำทยอยสะสมกองทุนหุ้นตลาดเกิดใหม่ กองทุนที่แนะนำได้แก่ ABGEM และ ABAPAC สำหรับกองทุนจีนที่แนะนำยังคงเป็น ABCG ทั้งสามกองบริหารโดยบลจ.Aberdeen ซึ่งเรายังคงเชื่อมั่นในการเลือกบริษัทและประเทศที่เป็นเป้าหมายในการลงทุน ในส่วนกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ยังคงแนะนำสะสมกองทุน Thanachart Global bond ของบลจ.ธนชาต หรือ TMB Global Bond Fund ของบลจ.ทหารไทย ซึ่งมีกองทุนหลัก (Master Fund) เป็นกองเดียวกัน เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศพัฒนาแล้วบางประเทศที่มีเศรษฐกิจแข็งแกร่ง

ส่วนแนวโน้ม SETI เราคาดว่า SETI จะแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,110-1,150 จุดได้ สำหรับนักลงทุน LTF เราคงคำแนะนำ Wait & See ไปก่อน เเละสำหรับนักลงทุนที่ได้สับเปลี่ยนออกจากกองทุน LTF ความผันผวนต่ำแล้ว แนะนำ Let Profit Run และสับเปลี่ยนกลับเข้ากองทุน LTF ความผันผวนต่ำ หาก SETI ปรับตัวเข้าใกล้แนวต้านที่กล่าวไว้ข้างต้น

นายสานุพงศ์ กล่าวต่อว่า ตลาดโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาผันผวนในเชิงลบ สาเหตุหลักยังคงเป็นเรื่องเดิมๆ เริ่มจากประเด็นเกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ ขณะที่ Moody’s ออกมาเตือนว่าสหรัฐมีแนวโน้มถูกปรับลด credit rating ลงจาก AAA หากไม่สามารถปรับเพิ่มเพดานหนี้ได้ ในส่วนของภาพเศรษฐกิจ แถลงการณ์ของ Ben Bernanke ที่ว่า FED พร้อมจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหากการฟื้นตัวยังคงย่ำแย่ ไม่ได้ช่วยเรียกความมั่นใจของตลาดให้กลับมาได้มากนัก

ในส่วนของยุโรป ปัญหาหนี้กรีซยังคงกดดันและเริ่มมีความกังวลถึงสถานะของประเทศขนาดใหญ่ในกลุ่ม PIIGS อย่างอิตาลีและสเปน ขณะที่ไอร์แลนด์เป็นประเทศล่าสุดที่ถูก Moody’s ปรับลด credit rating สู่ระดับขยะ และความเห็นจาก รมต.คลังบางประเทศในกลุ่มยูโรโซนที่ว่าอาจต้องยอมให้กรีซผิดนัดชำระหนี้บางส่วน ยิ่งบั่นทอนความมั่นใจของนักลงทุน

ทั้งนี้ ภายหลังตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการในวันศุกร์ มีการเปิดเผยผลทดสอบภาวะวิกฤติของธนาคาร 90 แห่งในยุโรป ซึ่งพบว่ามีธนาคารเพียง 8 แห่งเท่านั้นที่ไม่ผ่านการทดสอบ ถึงแม้จะน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะมีธนาคาร 15 แห่งที่ไม่ผ่านการทดสอบ แต่รายงานดังกล่าวอาจช่วยหนุนตลาดเพียงระยะสั้นๆเท่านั้น เนื่องจากยังมีประเด็นของสหรัฐคอยกดดันตลาดโลกอยู่
กำลังโหลดความคิดเห็น