xs
xsm
sm
md
lg

ระยะสั้นสินทรัพย์เสี่ยงดีดตัวขึ้น คาดSETมีโอกาสแตะ1,110-1,150 จุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการายวัน-โบรกเกอร์กองทุนรวม มองระยะสั้นสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวดีขึ้น หลังปัญหาหนี้เสียของกรีซเริ่มมีความชัดเจน ขณะที่นักลงทุนเริ่มมีความหวังเชิงบวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของสหรัฐฯมากขึ้น ส่วนหุ้นไทยมีโอกาสทดสอบแนวต้านที่ 1,110-1,150 จุด

นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหาหนี้ของกรีซและความคืบหน้าเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือจากเยอรมันและฝรั่งเศส รวมถึงความหวังเชิงบวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของสหรัฐช่วยให้นักลงทุนทั่วโลกมีความมั่นใจและหันเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงมากชึ้น เห็นได้จากการดีดกลับของตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดหุ้นฝั่งตะวันตก รวมถึงราคาน้ำมัน

อย่างไรก็ดี เรามองว่าปรับขึ้นของน้ำมันมาจากการดีดกลับทางเทคนิค ,แรงหนุนจากดอลล่าร์ที่อ่อนค่าและปัจจัยทางจิตวิทยาระยะสั้นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของสหรัฐเป็นหลัก ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริงยังไม่ได้ดูแข็งแกร่งมากนัก เพราะเศรษฐกิจสหรัฐยังประสบปัญหาการว่างงานในระดับสูงและตัวเลขเศรษฐกิจที่รายงานออกมายังไม่สม่ำเสมอ ทำให้เรามองว่าราคาน้ำมันยังมีแนวโน้มที่จะอ่อนไหวและผันผวนต่อข่าวต่างๆได้ง่าย จึงยังคงแนะนำให้นักลงทุนในกองทุนน้ำมันซื้อขายอย่างระมัดระวัง

ขณะที่นักลงทุนที่เข้าเก็งกำไรน้ำมันในกรอบ 90-96 US$/bbl ตามที่เราเคยแนะนำไว้ ระยะสั้นให้จับตา หากราคาน้ำมันดิบ Nymex ไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ระดับ 96 US$/bbl ไปได้ แนะนำให้นักลงทุนขายทำกำไรไปก่อน เพราะอาจเห็นการอ่อนตัวกลับลงไปที่แนวรับแถว 90 US$/bbl ได้ ในกรณีตรงข้าม หาก Nymex สามารถผ่านแนวต้านไปได้ ก็อาจถือต่อเพื่อลุ้นขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 105 US$/bbl สำหรับทองคำ แม้เห็นการอ่อนตัวลงมาเป็นสัปดาห์ที่สอง แต่ภาพขาขึ้นในระยะกลาง-ยาวที่เราเคยมองไว้ยังคงไม่เปลี่ยน เพราะเชื่อว่าปัญหาหนี้ยุโรปจะยังคงไม่จบง่ายๆ เนื่องจากกรีซไม่ใช่ประเทศเดียวในยูโรโซนที่ประสบปัญหาหนี้ และสถาณการณ์ของประเทศอื่นๆในกลุ่ม PIIGS น่าจะสร้างความกังวลให้ตลาดโลกได้เป็นระยะ

ส่งผลทำให้ทองคำจะยังคงแกว่งตัวขึ้นต่อ เพียงแต่ระยะสั้นอ่อนตัวลงแรงคลายกังวล ในทางเทคนิค ทองคำหลุดแนวรับที่เราเคยให้ไว้ที่ 1,490-1,500 US$/oz.ลงมา อาจทำให้เห็นการอ่อนตัวลงต่อไปที่แนวรับ 1,460 US$/oz หรืออาจลงถึง 1,435-1,445 US$/oz จึงแนะนำ ชะลอการลงทุนในระยะไปก่อนเพื่อรอจังหวะเข้าสะสมบริเวณแนวรับที่เราให้ไว้ กองทุนทองคำแนะนำยังเป็น กองทุนทองคำที่มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนอย่าง K-GOLD ของ บลจ.กสิกรไทย (มีนโยบายจ่ายปันผล) และ ASP-GOLD ของบลจ..Asset Plus (ไม่มีการจ่ายปันผล)

สำหรับการลงทุนในกองทุนหุ้นต่างประเทศ เรายังคงให้น้ำหนักการลงทุนในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่มากกว่ากลุ่มประเทศพัฒนาเเล้ว เพราะระยะยาวเรามองว่า growth story ของตลาดเกิดใหม่มีความแข็งแกร่งและแน่นอนกว่า แนะนำทยอยสะสมกองทุนหุ้นตลาดเกิดใหม่ กองทุนที่แนะนำได้แก่ ABGEM และ ABAPAC สำหรับกองทุนจีนที่แนะนำยังคงเป็น ABCG ทั้งสามกองบริหารโดยบลจ.อเบอร์ดีน ซึ่งเรายังคงเชื่อมั่นในการเลือกบริษัทและประเทศที่เป็นเป้าหมายในการลงทุน ในส่วนกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ยังคงแนะนำทยอยสะสมกองทุน Thanachart Global bond ของบลจ.ธนชาต หรือ TMB Global Bond Fund ของบลจ.ทหารไทย ซึ่งมีกองทุนหลัก (Master Fund) เป็นกองเดียวกัน เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศพัฒนาแล้วบางประเทศที่มีเศรษฐกิจแข็งแกร่ง

ส่วนหุ้นไทย ดีดกลับแรงหลังผลการเลือกตั้งมีความชัดเจน ทำให้แนวโน้มทางเทคนิคในระยะสั้นดูดีขึ้นและมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,110-1,150 จุด อย่างไรก็ดี เรามองว่าการดีดกลับในช่วงนี้เป็นผลมาจากปัจจัยทางจิตวิทยาระยะสั้น และการรีบาวน์แรงเช่นนี้อาจเห็นแรงขายทำกำไรตามมา ระยะกลางถึงยาวยังต้องจับตาการจัดตั้งรัฐบาลและทิศทางการดำเนินนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ สำหรับนักลงทุน LTF เราแนะนำ Wait & See ไปก่อน เเละสำหรับนักลงทุนมีกองทุน LTF ความเสี่ยงต่ำอยู่ในพอร์ตและอยากสับเปลี่ยนเข้ากอง LTF แบบปกติ รอดูจังหวะเเถวแนวรับที่ 1,070 และ 1,055 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น