บลจ.กรุงไทย ประเมินแรงซื้อตราสารหนี้และการขึ้นดอกเบี้ยของกนง.ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุต่ำกว่า 1 ปีปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บลจ.พาเรดขายบอนด์สั้นรองรับดีมานด์นักลงทุน
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด ( มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงสัปดาที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายการเงิน ( กนง.) มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 3.00% เป็น 3.25% ในส่วนของตลาดตราสารหนี้ระยะสั้น อัตราผลตอบแทนระยะสั้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมารุ่นอายุ 1 เดือน - 1 ปี เคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ โดยอยู่ในระดับ 2.89 - 3.58% เนื่องจากได้ปรับขึ้นมาก่อนหน้านี้ตามการคาดการณ์ของตลาด และนักลงทุนต่างประเทศ มีการเข้าซื้อพันธบัตรภาครัฐระยะสั้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ผลการเลือกตั้งที่ถูกประเมินว่าจะทำให้การเมืองไทยมีเสถียรภาพมากขึ้น รวมถึงนักลงทุนได้มีการปรับพอร์ตมาถือครองพันธบัตรรุ่นอายุต่ำกว่า 1 ปี มากขึ้น จึงทำให้อัตราผลตอบแทนปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย
โดยบริษัทได้เปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 6 เดือน 4 ( KTSIV6M4 ) เสนอขายถึงวันที่ 22 กรกฎาคม 2554 อายุโครงการ 6 เดือน เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรภาครัฐในประเทศ , เงินฝาก ธนาคารทิสโก้ , ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และตั๋วแลกเงินของภาคเอกชนที่มีอันดับเครดิตตั้งแต่ BBB + ขึ้นไป ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.40% ต่อปี
ขณะที่รายงานข่าวจากบลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า บริษัทกำลังเปิดขายหน่วยลงทุนกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ตราสารหนี้ระยะสั้น พลัส 9M1 อายุลงทุนประมาณ 9 เดือน โดยกองทุนดังกล่าวจะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ หุ้นกู้ระยะสั้น เงินฝาก ตั๋วแลกเงิน ออกโดยธนาคารเกียรตินาคิน ธนาคารทิสโก้ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) และธนาคารดอยซ์แบงก์ เอจี ซึ่งจะให้ผลตอบแทนประมาณการที่ 3.45-3.50 ต่อปี โดยเสนอขายหน่วยลงทุนแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 22 กรกฎาคม 2554
ส่วนรายงานข่าวจาก บลจ. ยูโอบี เปิดเผยว่า บลจ.กำลังเปิดขายหน่วยลงทุนกองทุนตราสารหนี้ กองทุนเปิด ยูโอบี เอฟไอ พลัส พลัส 6/10 (UOBFIPP 6/10) เสนอขายครั้งแรกและครั้งเดียว ระหว่างวันที่ 19 - 25 ก.ค. 2554 อายุโครงการประมาณ 6 เดือน ลงทุนในตราสารหนี้ทั่วไปทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตัวอย่างเช่น พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วแลกเงินของธนาคารพาณิชย์ ตั๋วแลกเงินของบริษัทเอกชน และเงินฝากในธนาคารพาณิชย์ โดยจุดเด่นของกองทุนค คือ โอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก และ ผลตอบแทนไม่ต้องเสียภาษีสำหรับบุคคลธรรมดา
นอกจากนี้บลจ.ซิมิโก้ กำลังเปิดขายกองทุนเปิดซีมิโก้ตราสารหนี้โรลโอเวอร์ 4M4 ในระหว่างวันที่ 21 - 27 กรกฎาคม 2554 ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะลงทุนในตั๋วแลกเงินธนาคารทิสโก้ ตั๋วแลกเงินธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย ตั๋วแลกเงินบริษัท เอเชียเสริมกิจลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ตั๋วแลกเงินบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ตั๋วแลกเงินบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และหุ้นกู้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยกองทุนดังกล่าวมีอายุกองทุนอยู่ที่ 4 เดือน และให้ผลตอบแทนประมาณการที่ 3.30% ต่อปี
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด ( มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงสัปดาที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายการเงิน ( กนง.) มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 3.00% เป็น 3.25% ในส่วนของตลาดตราสารหนี้ระยะสั้น อัตราผลตอบแทนระยะสั้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมารุ่นอายุ 1 เดือน - 1 ปี เคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ โดยอยู่ในระดับ 2.89 - 3.58% เนื่องจากได้ปรับขึ้นมาก่อนหน้านี้ตามการคาดการณ์ของตลาด และนักลงทุนต่างประเทศ มีการเข้าซื้อพันธบัตรภาครัฐระยะสั้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ผลการเลือกตั้งที่ถูกประเมินว่าจะทำให้การเมืองไทยมีเสถียรภาพมากขึ้น รวมถึงนักลงทุนได้มีการปรับพอร์ตมาถือครองพันธบัตรรุ่นอายุต่ำกว่า 1 ปี มากขึ้น จึงทำให้อัตราผลตอบแทนปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย
โดยบริษัทได้เปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 6 เดือน 4 ( KTSIV6M4 ) เสนอขายถึงวันที่ 22 กรกฎาคม 2554 อายุโครงการ 6 เดือน เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรภาครัฐในประเทศ , เงินฝาก ธนาคารทิสโก้ , ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และตั๋วแลกเงินของภาคเอกชนที่มีอันดับเครดิตตั้งแต่ BBB + ขึ้นไป ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.40% ต่อปี
ขณะที่รายงานข่าวจากบลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า บริษัทกำลังเปิดขายหน่วยลงทุนกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ตราสารหนี้ระยะสั้น พลัส 9M1 อายุลงทุนประมาณ 9 เดือน โดยกองทุนดังกล่าวจะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ หุ้นกู้ระยะสั้น เงินฝาก ตั๋วแลกเงิน ออกโดยธนาคารเกียรตินาคิน ธนาคารทิสโก้ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) และธนาคารดอยซ์แบงก์ เอจี ซึ่งจะให้ผลตอบแทนประมาณการที่ 3.45-3.50 ต่อปี โดยเสนอขายหน่วยลงทุนแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 22 กรกฎาคม 2554
ส่วนรายงานข่าวจาก บลจ. ยูโอบี เปิดเผยว่า บลจ.กำลังเปิดขายหน่วยลงทุนกองทุนตราสารหนี้ กองทุนเปิด ยูโอบี เอฟไอ พลัส พลัส 6/10 (UOBFIPP 6/10) เสนอขายครั้งแรกและครั้งเดียว ระหว่างวันที่ 19 - 25 ก.ค. 2554 อายุโครงการประมาณ 6 เดือน ลงทุนในตราสารหนี้ทั่วไปทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตัวอย่างเช่น พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วแลกเงินของธนาคารพาณิชย์ ตั๋วแลกเงินของบริษัทเอกชน และเงินฝากในธนาคารพาณิชย์ โดยจุดเด่นของกองทุนค คือ โอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก และ ผลตอบแทนไม่ต้องเสียภาษีสำหรับบุคคลธรรมดา
นอกจากนี้บลจ.ซิมิโก้ กำลังเปิดขายกองทุนเปิดซีมิโก้ตราสารหนี้โรลโอเวอร์ 4M4 ในระหว่างวันที่ 21 - 27 กรกฎาคม 2554 ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะลงทุนในตั๋วแลกเงินธนาคารทิสโก้ ตั๋วแลกเงินธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย ตั๋วแลกเงินบริษัท เอเชียเสริมกิจลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ตั๋วแลกเงินบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ตั๋วแลกเงินบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และหุ้นกู้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยกองทุนดังกล่าวมีอายุกองทุนอยู่ที่ 4 เดือน และให้ผลตอบแทนประมาณการที่ 3.30% ต่อปี
