ASTVผู้จัดการรายวัน - กองทุนบอดน์เกาหลีรีเทิร์น บลจ.อยุธยา ขายกองทุนลุยพันธบัตรรัฐบาลประเทศเกาหลีใต้ พ่วงเงินฝากแบงก์อาหรับ ลงทุน 9 เดือนให้ผลตอบแทนจูงใจ 3.2% ต่อปี ด้านบลจ.เอ็มเอฟซี ส่งกองทุน 6 เดือน ลุยตราสารหนี้มีคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ 2 กองทุน ซึ่งประกอบด้วย กองทุนเปิดกรุงศรีไทยโน้ท 3M25 และกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศ 9M1 โดยทั้งสองกองทุนจะเสนอขายหน่วยลงทุนพร้อมกัน ระหว่างวันที่ 7 - 13 มิ.ย. นี้
สำหรับกองทุนเปิดกรุงศรีไทยโน้ท 3M25 มีนโยบายลงทุนสั้น 3 เดือน ในตราสารหนี้ภาครัฐไทย ธุรกรรมการซื้อโดยมีสัญญาขายคืน (Reverse Repo) โดยมี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นคู่สัญญา หุ้นกู้ระยะสั้นออกโดยธนาคารดอยซ์แบงก์ หรือ หุ้นกู้ระยะสั้นออกโดยธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ตั๋วแลกเงินออกโดยธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และตั๋วแลกเงินออกโดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) โดยกองทุนคาดการณ์ผลตอบแทน 2.70% ต่อปี
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบปกติระหว่างอายุโครงการโดยบริษัทจัดการจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยทำการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทั้งจำนวนของผู้ถือหน่วยลงทุนทุกราย ณ วันทำการก่อนวันสิ้นสุดอายุโครงการไปยัง กองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงิน
ส่วนกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศ 9M1 มีอายุการลงทุน 9 เดือน มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลประเทศเกาหลีใต้ รวมทั้งเงินฝากธนาคาร Union National Bank (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) โดยกองทุนคาดการณ์ผลตอบแทนอยู่ที่ 3.20% และกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินเต็มจำนวน
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบปกติระหว่างอายุโครงการโดยบริษัทจัดการจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยทำการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทั้งจำนวนของผู้ถือหน่วยลงทุนทุกราย ณ วันทำการก่อนวันสิ้นสุดอายุโครงการ ไปยังกองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงิน เช่นกัน
นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้เอ็มเอฟซีได้เสนอขายกองทุนต่างๆ ไปแล้ว 11 กองทุน มูลค่ากว่า 6,400 ล้านบาท โดยเป็นกองทุนตราสารหนี้ 7 กองทุนรวมมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท ทั้งนี้เอ็มเอฟซีมีนโยบายในการเสนอขายกองทุนประเภทต่างๆ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้สนใจลงทุน ล่าสุดเอ็มเอฟซีได้เสนอกองทุนรวมตราสารหนี้ ได้แก่ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี กาญจนทรัพย์ 6 ซีรี่ส์ 16 หรือ MK6S16 เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร และรับความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศได้ ซึ่งใช้เวลาลงทุนประมาณ 6 เดือน โดยผู้ลงทุนไม่ต้องเสียภาษีของผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนสำหรับสำหรับบุคคลธรรมดา และเป็นการกระจายการลงทุนนอกเหนือไปจากการลงทุนในตราสารทุนในตลาดหลักทรัพย์
สำหรับกองทุนเปิด MK6S16 มีมูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท จะลงทุนในต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ และมีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินแบบเต็มจำนวน (Fully Hedge) โดยจะลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ โดยให้ผลตอบแทนเหมาะสมกับความเสี่ยง เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ หรือตราสารทางการเงินที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ หรือออกโดยสถาบันที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝงเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเต็มจำนวน
ทั้งนี้ เมื่อครบอายุกองทุน บริษัทจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนกองทุนเปิด MK6S16 และสับเปลี่ยนอัตโนมัติไปยังกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี
พันธบัตรตลาดเงิน (MM-GOV) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงินที่มีความมั่นคงสูง ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ เพื่อผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับโอกาสที่ดีจากการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยผู้สนใจลงทุนในกองทุนMK6S16 สามารถลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป ซึ่งจะเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก ตั้งแต่วันที่ 8-14 มิถุนายนนี้
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ 2 กองทุน ซึ่งประกอบด้วย กองทุนเปิดกรุงศรีไทยโน้ท 3M25 และกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศ 9M1 โดยทั้งสองกองทุนจะเสนอขายหน่วยลงทุนพร้อมกัน ระหว่างวันที่ 7 - 13 มิ.ย. นี้
สำหรับกองทุนเปิดกรุงศรีไทยโน้ท 3M25 มีนโยบายลงทุนสั้น 3 เดือน ในตราสารหนี้ภาครัฐไทย ธุรกรรมการซื้อโดยมีสัญญาขายคืน (Reverse Repo) โดยมี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นคู่สัญญา หุ้นกู้ระยะสั้นออกโดยธนาคารดอยซ์แบงก์ หรือ หุ้นกู้ระยะสั้นออกโดยธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ตั๋วแลกเงินออกโดยธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และตั๋วแลกเงินออกโดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) โดยกองทุนคาดการณ์ผลตอบแทน 2.70% ต่อปี
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบปกติระหว่างอายุโครงการโดยบริษัทจัดการจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยทำการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทั้งจำนวนของผู้ถือหน่วยลงทุนทุกราย ณ วันทำการก่อนวันสิ้นสุดอายุโครงการไปยัง กองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงิน
ส่วนกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศ 9M1 มีอายุการลงทุน 9 เดือน มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลประเทศเกาหลีใต้ รวมทั้งเงินฝากธนาคาร Union National Bank (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) โดยกองทุนคาดการณ์ผลตอบแทนอยู่ที่ 3.20% และกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินเต็มจำนวน
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบปกติระหว่างอายุโครงการโดยบริษัทจัดการจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยทำการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทั้งจำนวนของผู้ถือหน่วยลงทุนทุกราย ณ วันทำการก่อนวันสิ้นสุดอายุโครงการ ไปยังกองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงิน เช่นกัน
นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้เอ็มเอฟซีได้เสนอขายกองทุนต่างๆ ไปแล้ว 11 กองทุน มูลค่ากว่า 6,400 ล้านบาท โดยเป็นกองทุนตราสารหนี้ 7 กองทุนรวมมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท ทั้งนี้เอ็มเอฟซีมีนโยบายในการเสนอขายกองทุนประเภทต่างๆ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้สนใจลงทุน ล่าสุดเอ็มเอฟซีได้เสนอกองทุนรวมตราสารหนี้ ได้แก่ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี กาญจนทรัพย์ 6 ซีรี่ส์ 16 หรือ MK6S16 เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร และรับความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศได้ ซึ่งใช้เวลาลงทุนประมาณ 6 เดือน โดยผู้ลงทุนไม่ต้องเสียภาษีของผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนสำหรับสำหรับบุคคลธรรมดา และเป็นการกระจายการลงทุนนอกเหนือไปจากการลงทุนในตราสารทุนในตลาดหลักทรัพย์
สำหรับกองทุนเปิด MK6S16 มีมูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท จะลงทุนในต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ และมีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินแบบเต็มจำนวน (Fully Hedge) โดยจะลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ โดยให้ผลตอบแทนเหมาะสมกับความเสี่ยง เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ หรือตราสารทางการเงินที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ หรือออกโดยสถาบันที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝงเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเต็มจำนวน
ทั้งนี้ เมื่อครบอายุกองทุน บริษัทจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนกองทุนเปิด MK6S16 และสับเปลี่ยนอัตโนมัติไปยังกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี
พันธบัตรตลาดเงิน (MM-GOV) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงินที่มีความมั่นคงสูง ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ เพื่อผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับโอกาสที่ดีจากการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยผู้สนใจลงทุนในกองทุนMK6S16 สามารถลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป ซึ่งจะเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก ตั้งแต่วันที่ 8-14 มิถุนายนนี้