บลจ.กรุงไทย ส่ง "กรุงไทยธนทรัพย์ บี 8" ลงทุน 6 เดือน ชูผลตอบแทน 3.10% ต่อปี และกองทุน "กรุงไทยสมาร์ทอินเวส 3เดือน 3" ลงทุน 3 เดือนให้ผลตอบแทน 2.70% ต่อปี ส่วนบลจ.อยุธยาส่ง"กรุงศรีไทยโน้ท 3M26" และ"กรุงศรีตราสารหนี้6M3 " เอาใจนักลงทุนเปิดขายพร้อมกันแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 21 มิถุนายน 2554
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศมีความผันผวน โดยเป็นผลจากการอัตราแลกเปลี่ยนที่แกว่งตัว โดยเฉพาะค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงตามตัวชี้วัดเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอจึงส่งผลให้ค่าเงินสกุลอื่นแกว่งตัวตาม ในขณะที่ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าจากกระแสการโอนเงินออกของนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งในช่วงเดือนที่ผ่านมาปรากฎแรงขายทั้งในตลาดตราสารทุนและตราสารหนี้ โดยสวนทางกับกระแสเงินลงทุนของกองทุนเกาหลีใต้ที่ทยอยครบกำหนดไถ่ถอน ดังนั้นจึงคาดการณ์ว่าค่าเงินบาทจะมีความผันผวนในช่วงนี้ ทั้งนี้ การแกว่งตัวของค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ และค่าเงินบาทมีอิทธิพลค่อนข้างสูงต่อค่าดอลล่าร์พรีเมี่ยม และอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศเมื่อแปลงกลับเป็นสกุลบาท
โดยบริษัทเตรียมเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 8 (KTSUPB8) ในวันที่ 15 - 21 มิถุนายน 2554 อายุโครงการ 6 เดือน โดยกองทุนจะลงทุนในเงินฝากหรือตราสารการเงินธนาคารต่างประเทศทั้งสกุล CNY และสกุล USD ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ A - ขึ้นไป เช่น Bank of China ( A1/P1/Stable โดย Moody) Wing Lung Bank ( A2/P1/Stable โดย Moody ) Industrial and Commercial Bank of China (A1/P1/Stable โดย Moody) ประมาณ 70 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารการเงินระยะสั้นของสถาบันการเงินและบริษัทเอกชนในประเทศ อันดับเครดิตตั้งแต่ BBB ขึ้นไป ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.10% ต่อปี
ทั้งนี้ กองทุนนี้เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น และต้องการผลตอบแทนเพิ่มขึ้น ซึ่งตราสารเป้าหมายจะให้ส่วนต่างผลตอบแทนที่ค่อนข้างจูงใจเมื่อเทียบกับการลงทุนเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือเงินฝากระยะเดียวกัน ทั้งนี้ กองทุนจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเมื่อครบกำหนดอายุกองทุน โดยจะสับเปลี่ยนไปยังกองทุนตลาดเงิน และสำหรับเงินลงทุนในต่างประเทศจะมีการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 3เดือน 3 ( KTSIV3M3 ) เสนอขายในวันที่ 13-17 มิถุนายน 2554 อายูโครงการ 3 เดือน เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน เงินฝาก และตราสารหนี้สถาบันการเงิน กองทุนจะเน้นลงทุนใน พันธบัตรภาครัฐในประเทศ 10% เงินฝากธนาคารทิสโก้และไอซีบีซี 36 % หุ้นกู้ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด 24% และ ตั๋วแลกเงินของภาคเอกชนที่มีอันดับเครดิตตั้งแต่ BBB+ ขึ้นไป 30% ของมูล่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.70% ต่อปี
รายงานข่าวจากบลจ.อยุธยา จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.ได้เปิดขายกองทุนเปิดกรุงศรีไทยโน้ท 3M26 ระหว่างวันที่ 14 - 20 มิ.ย. 2554 โดยกองทุนจะลงทุนตราสารหนี้ภาครัฐไทย ธุรกรรมการซื้อโดยมีสัญญาขายคืน (Reverse Repo) โดยมี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นคู่สัญญา หุ้นกู้ระยะสั้นออกโดยธนาคารดอยซ์แบงก์ หรือ หุ้นกู้ระยะสั้นออกโดยธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ตั๋วแลกเงินออกโดยธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ตั๋วแลกเงินออกโดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) โดยจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.70% ต่อปี
นอกจากนี้ยังเปิดขาย กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M3 เสนอขายระหว่างวันที่ 14 - 20 มิ.ย. 2554 ซึ่งกองทุนดังกล่าวจะลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐไทย เงินฝากธนาคาร Union National Bank (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) บัตรเงินฝากออกโดยธนาคาร Wing Lung กองทุนดังกล่าวไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบปกติระหว่างอายุโครงการโดยบริษัทจัดการจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยทำการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทั้งจำนวนของผู้ถือหน่วยลงทุนทุกราย ณ วันทำการก่อนวันสิ้นสุดอายุโครงการ ไปยังกองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงิน ซึ่งกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินเต็มจำนวน โดยกองทุนดังกล่าวจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 3.10% ต่อปี