xs
xsm
sm
md
lg

2บลจ.ขายกองทุนตรสารสารหนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นขายดี รับสัญญาณดอกเบี้ยขาขึ้น บลจ.ทิสโก้และบลจ.แอสเซทพลัส ส่งกองใหม่แชร์ส่วนแบ่ง ลงทุนบอนด์สั้นๆ 6 เดือนและ 3 เดือนตามลำดับ

นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.ทิสโก้ เตรียมเปิดเสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้โรลอัพ 12 ” (TISCO Roll Up Bond Fund #12 ) โดย “กองทุนเปิดทิสโก้ ตราสารหนี้โรลอัพ 12 ” เป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในระยะสั้น ที่ให้ผลตอบแทนสูงในภาวะทิศทางดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยจะนำเงินไปลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายทั้งในประเทศและ/หรือต่างประเทศบางส่วน เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนจากการลงทุนระยะสั้นในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดยังเป็นขาขึ้น โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ที่ไม่กำหนดอายุโครงการ มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท โดยจะทำการเสนอขายทุกๆ 6 เดือน เสนอขายครั้งเดียววันที่ 28 มิถุนายน - 4 กรกฎาคม2554 ผู้ที่สนใจสามารถจองซื้อขั้นต่ำ 20,000 บาท ได้ที่ธนาคารทิสโก้ ทุกสาขา

โดยที่ผ่านมา บลจ.ทิสโก้ ได้ออกกองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้โรลอัพ ออกมาอย่างต่อเนื่องถึง 12 กองทุน ซึ่งการเปิดขายในกองที่ผ่านมาถือว่าได้รับการตอบรับจากนักลงทุนค่อนข้างดี เนื่องจากมองว่ากองทุนดังกล่าวจะสามารถช่วยสร้างโอกาสในการเพิ่มผลตอบแทนให้กับนักลงทุนในช่วงที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในขาขึ้น และไม่ต้องล็อคเงินลงทุนไว้ยาวจนเกินไป

ทั้งนี้ บลจ.ทิสโก้ ยังประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยนั้นยังมีโอกาสจะปรับเพิ่มขึ้นได้อีก และมีโอกาสแตะระดับที่ 3.50% ในช่วงปลายปีนี้ ด้วยปัจจัยด้านเงินเฟ้อที่ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการลงทุนที่เหมาะในช่วงนี้ เรายังคงคำแนะนำที่จะให้ลงทุนในระยะสั้น คือไม่เกิน 6 เดือน ซึ่งกองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้โรลอัพ นี้ก็เป็นอีกทางเลือกที่สามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้ ทั้งนี้คาดว่ากองทุนดังกล่าวจะลงทุนในเงินฝากธนาคารจีนที่ปิดความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน , ตั๋วแลกเงินบริษัทเอกชนในประเทศไทยเป็นหลัก คาดว่าจะได้ผลตอบแทนประมาณ 3.10% ต่อปี หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว

นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการขาย และการตลาด กล่าวว่า จากการที่ช่วงนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวขึ้นในภาพรวม โดยเฉพาะกลุ่มพันธบัตรระยะกลาง และระยะยาว ที่สะท้อนทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ขณะที่ผลตอบแทนของพันธบัตรระยะสั้นปรับขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ความน่าสนใจของการลงทุนในตราสารหนี้ไทยยังอยู่ที่ตราสารช่วงอายุ 3-6 เดือน ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะสั้นๆ ที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นในช่วงนี้

สำหรับวันที่ 29 มิถุนายนนี้ บลจ.แอสเซท พลัส จะเปิดขายและรับซื้อคืนรอบใหม่ (Rollover) กองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 4 (ASP-ACFIXED4) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ในประเทศ ที่เปิดเสนอขายเป็นรอบระยะเวลา โดยในรอบการลงทุนแรกนี้ กองทุนจึงลงทุนในลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ระยะสั้น และตั๋วแลกเงินธนาคารในประเทศไทย อายุประมาณ 3 เดือน เช่น หุ้นกู้ระยะสั้นของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ (SCBT) และธนาคารดอยช์แบงก์ (DB) ตั๋วแลกเงินของธนาคารทิสโก้ (TISCO) และธนาคารนครหลวงไทย (SCIB) โดยคาดว่าสามารถให้ผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายได้อยู่ที่ 3.00% ต่อปี*

สำหรับกองทุน ASP-ACIFIXED4 จะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ของสถาบันการเงินในประเทศ ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit rating) ระดับสูง ในสัดส่วน ประมาณ 95% ของพอร์ตการลงทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย กองทุนจึงมีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ และสามารถสร้างโอกาสผลตอบแทนในระดับที่จูงใจนักลงทุน โดยเฉพาะผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้นๆ ตามช่วงการปรับตัวของดอกเบี้ยขาขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น