xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.โรลอัพตราสารหนี้รับดบ.ขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ. ทิสโก้ ส่ง“กองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้โรลอัพ 6” รับนักลงทุนรอจังหวะดอกเบี้ยขาขึ้น เน้นลงทุนตราสารหนี้คุณภาพในประเทศระยะสั้น 6 เดือน ไอพีโอ 21-28 ก.พ. 2554 นี้ ด้านซีมิโก้ จัดพอร์ตลุยเงินฝากแบงก์พร้อมหุ้นกู้เอกชน

นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยของไทยในปีนี้ยังมีโอกาสขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การลงทุนระยะสั้นได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี โดยจะเห็นได้จากต้นปีที่ผ่านมา บลจ.ทิสโก้ ได้ทำการเสนอขายกองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้โรลอัพ 3-4-5 ออกมาตอบสนองความต้องการให้กับผู้ที่สนใจลงทุนระยะสั้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความสนใจเป็นอย่างดี

ล่าสุด บลจ.ทิสโก้ ส่ง “กองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้โรลอัพ 6” (TISCO Roll Up Bond Fund #6: TISCOUP6) ออกมารองรับความต้องการนักลงทุนอีกรอบ ซึ่งจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพในประเทศโดยไม่กำหนดอายุโครงการ มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท โดยจะทำการเสนอขายทุกๆ 6 เดือน เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 21-28 ก.พ.54 ผู้ที่สนใจสามารถจองซื้อขั้นต่ำ 20,000 บาท ได้ที่ธนาคารทิสโก้ ทุกสาขา

“กองทุนเปิดทิสโก้ ตราสารหนี้โรลอัพ 6 จะเน้นการลงทุนในระยะสั้น โดยจะลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพในประเทศระยะสั้น อาทิ ตั๋วแลกเงินและหุ้นกู้ภาคเอกชน ที่ให้ผลตอบแทนสูงในสภาวะทิศทางดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจภายในประเทศมีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเมื่อครบ 6 เดือน หากผู้ลงทุนไม่ต้องการขายคืน กองทุนจะนำเงินลงทุนไปลงทุนต่อในตราสารหนี้และเงินฝากทำให้ไม่ต้องมีภาระในการโยกย้ายเงินไปรอซื้อกองทุนอื่นๆ อีก” นายธีรนาถ กล่าว

รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ซีมิโก้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทกำลังเปิดขายกองทุนเปิดซีมิโก้ตราสารหนี้โรลโอเวอร์ 4M3 หรือ Seamico Fixed Income Rollover Fund 4M3 ซึ่งได้เริ่มเปิดขายไอพีโอแล้วตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2554 นี้ โดยกองทุนดังกล่าวจะมีมูลค่าโครงการอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ส่วนอายุโครงการไม่มีกำหนด ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวจะให้ผลตอบแทนประมาณการอยู่ที่ 2.10%

ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวเหมาะสำหรับนักลงทุนประเภทสถาบันและประชาชนทั่วไปที่ต้องการการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ รวมถึงนักลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ โดยเป็นการลงทุนที่ให้โอกาสผู้ลงทุนได้ตัดสินใจลงทุนต่อ หรือไถ่ถอนได้ทุกๆ ระยะเวลาประมาณ 4 เดือน

โดยกองทุน จะเข้าไปลงทุนในตั๋วแลกเงินของบริษัท เอเชียเสริมกิจลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ในอันดับ BBB+ ในสัดส่วนการลงทุนโดยประมาณการที่ 24.37% , ธนาคารดอยซ์ แบงก์ สาขากรุงเทพฯ ในอันดับ AA- ในสัดส่วนการลงทุนโดยประมาณการที่ 22.22% , บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในอันดับ BBB+ 22.22% , บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ในอันดับ BBB+ ในสัดส่วนการลงทุนโดยประมาณการ 11.07% , บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) ในอันดับ A- ในสัดส่วนการลงทุนโดยประมาณการ 11.02% , บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ในอันดับ BBB+ ในสัดส่วนการลงทุนโดยประมาณการ 4.44% , และอื่น ๆ ในอันดับ AAA- และ BBB+ ในสัดส่วนการลงทุนโดยประมาณการ 4.65%
กำลังโหลดความคิดเห็น