บลจ.ไอเอ็นจี ปลื้มกลยุทธ์บริหารกองทุนหุ้นแบบ Active และการคัดกรองหุ้นอย่างมืออาชีพ ดันผลตอบแทนกองทุนปรับเพิ่มขึ้น ให้คำมั่น ปั้นผลตอบแทนดีให้ลูกค้าต่อเนื่อง ล่าสุดเตรียมจ่ายปันผลกองทุนหุ้น 4 กองได้แก่"ไอเอ็นจี ไทย Big Cap ปันผล หุ้นระยะยาว"- "ไอเอ็นจี ไทย 70/30 ปันผล หุ้นระยะยาว" -"ไอเอ็นจี ไทย แวลูพลัส ปันผล หุ้นระยะยาว" และ"ไอเอ็นจี ไทย แวลูพลัส ปันผล หุ้นระยะยาว" นักลงทุนเฮรับปันผลพร้อมกัน13 มิ.ย.นี้
นายต่อ อินทวิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายธุรกิจกองทุนและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลตอบแทนของกองทุนตราสารทุนภายใต้การบริหารของ บลจ.ไอเอ็นจี อยู่ในระดับที่น่าพอใจนั้น มาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ไทยในช่วงที่ผ่านมา จากการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ ที่เห็นโอกาสการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ซึ่งส่งผลต่อการขยายตัวของผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในปี 2554 ที่คาดว่าจะดีขึ้น
ขณะเดียวกันการบริหารการลงทุนแบบ Active ซึ่งเป็นการบริหารจัดการด้วยผู้จัดการกองทุนมืออาชีพในลักษณะการวิเคราะห์และคาดการณ์ภาวะตลาดในอนาคต รวมถึงการจับจังหวะการลงทุนที่ถูกต้องเหมาะสม ตลอดจนการคัดกรองหุ้นที่เข้าลงทุน ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตของผลตอบแทนของกองทุน ซึ่งเราคงยืนยันที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับลูกค้าของเราอย่างต่อเนื่อง
โดยเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา บลจ.ไอเอ็นจีในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนเปิดจำนวน 4 กองทุน ได้ทำการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุน เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล ซึ่งมีกำหนดจ่ายพร้อมกันในวันที่ 13 มิถุนายน 2554
สำหรับกองทุนเปิดทั้ง 4 กองทุนนั้น ประกอบด้วย กลุ่มกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) จำนวน 3 กองทุน สำหรับผลการดำเนินงานรอบ 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2553 ถึง 31 มีนาคม 2554 ได้แก่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย Big Cap ปันผล หุ้นระยะยาว จ่ายเงินปันผลเป็นครั้งที่ 3 ในอัตรา 1.20 บาทต่อหน่วยลงทุน (จ่าย 3 ครั้งรวม 2.635 บาทต่อหน่วย) กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย 70/30 ปันผล หุ้นระยะยาว จ่ายเงินปันผลเป็นครั้งที่ 3 ในอัตรา 0.70 บาทต่อหน่วยลงทุน (จ่าย 3 ครั้งรวม 1.497 บาทต่อหน่วย) และ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แวลูพลัส ปันผล หุ้นระยะยาว จ่ายเงินปันผลเป็นครั้งที่ 2 ในอัตรา 1.10 บาทต่อหน่วยลงทุน (จ่าย 2 ครั้งรวม 1.576 บาทต่อหน่วย)
ขณะที่กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ฟันด์-ปันผล ซึ่งเป็นกองทุนรวมหุ้น ดำเนินการจ่ายเงินปันผลสำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนดังกล่าวสำหรับผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 ถึง 30 เมษายน 2554 ซึ่งเป็นการจ่ายเงินปันผลเป็นครั้งที่ 8 ในอัตรา 1.20 บาทต่อหน่วยลงทุน (จ่าย 8 ครั้งรวม 8.8638 บาทต่อหน่วย)
ทั้งนี้ รวมเงินปันผลจ่ายทั้งหมดในรอบนี้กว่า 93 ล้านบาท นอกจากทั้ง 4 กองทุนมีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังมีผลการดำเนินงานที่ดี สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วย หากพิจารณาผลตอบแทน 3 เดือนย้อนหลัง นับจากวันที่ 27 พฤษภาคม 2554 กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย Big Cap ปันผล หุ้นระยะยาว ได้ผลตอบแทน 14.09% กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย 70/30 ปันผล หุ้นระยะยาว ผลตอบแทน 9.83% กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แวลูพลัส ปันผล หุ้นระยะยาว ผลตอบแทน 9.80% และกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ฟันด์ ปันผล ได้ผลตอบแทน 8.76% โดยสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ 8.22% และ SET50 อยู่ที่ 8.69%
นอกจากนี้รายงานข่าวจากบลจ.ไอเอ็นจี ระบุต่อว่า ในส่วนของความคืบหน้าการก่อสร้างในส่วนพลาซ่าและเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ของกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียล คอมเพล็กซ์ (TU-PF)นั้น บลจ.ได้ส่งมอบ อาคาร 1 และ 2 แก่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ตามเงื่อนไขเดียวกับการส่งมอบอาคาร 3 และ 4 คือพร้อมส่งมอบให้ผู้เช่ารายย่อยเข้าตกแต่งพื้นที่ได้) เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2554 เนื่องจากวันที่ 15 พฤษภาคมเป็นวันอาทิตย์ ประกอบกับวันที่ 16-17 พฤษภาคม เป็นวันหยุดราชการ โดยในขณะนี้ ยังคงรอเอกสารการรับมอบ (พร้อมอาคาร 3 และ 4) อย่างเป็นทางการจาก มธ รวมทั้งรอเอกสารการขยายเวลาส่งมอบงานอันเนื่องจากความล่าช้าของการรับอนุญาตจากกรมทางหลวง
ขณะเดียวกันบลจ.ไอเอ็นจีกำลังดำเนินการประสานงานกับ มธ เพื่อให้ได้เอกสารการรับมอบอาคารพร้อมทั้งความยินยอมในการให้เช่าช่วง เพื่อจะได้ส่งมอบพื้นที่ให้ ผู้ลงทุนเพื่อจะได้ให้ผู้เช่ารายย่อยเข้าตกแต่งพื้นที่โดยเร็ว ซึ่งอาคาร 1: ผู้ลงทุนกำลังดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมสะพาน เช่นงานด้านหน้าอาคาร และ อื่นๆ ส่วนอาคาร 2: แล้วเสร็จและได้ส่งมอบให้ มธ พร้อมกับอาคาร 1
