xs
xsm
sm
md
lg

หนี้ยุโรปดันราคาทองคำพุ่ง โบรกเกอร์กองทุนแนะสะสม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล
นักวิเคราะห์กองทุนรวมมอง ปัญหาหนี้เสียของกรีซทำราคาทองคำพุ่งอีกครั้ง เหตุนักลงทุนไม่มั่นใจหลัง Fitch ประกาศปรับลดเรทติ้ง 3 ขั้น พร้อมประเมินราคาทองเคลื่อนไหว1,526 US$/oz แนะนักลงทุนเก็บ NAVกองทุนทองคำเข้าพอร์ตเมื่อเห็นราคาอ่อนตัว

นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความกังวลต่อทั้งเศรษฐกิจสหรัฐที่ตัวเลขเศรษฐกิจยังบ่งชี้ว่าการเติบโตของสหรัฐอยู่ในภาวะที่อ่อนแอและปัญหาหนี้ยุโรปกดดันให้สินทรัพย์เสี่ยงยังคงมีแนวโน้มผันผวนต่อ ความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมีเเนวโน้มทำให้ค่าเงินดอลล่าร์มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น เช่นเดียวกับทองคำที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น สัปดาห์ที่เเล้วราคาทองคำสามารถปิดเหนือระดับ 1,500 US$/oz ได้ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มระยะสั้นยังคงปรับตัวไร้ทิศทางที่ชัดเจน ทั้งนี้ เรามองแนวรับของทองคำที่ 1,476 US$/oz และแนวต้าน ที่1,526 US$/oz สำหรับระยะกลาง-ยาว เชื่อว่าราคาทองคำยังคงเป็นขาขึ้น เรายังคงคำแนะนำสะสมเมื่อราคาทองอ่อนตัว

อย่างไรก็ตามกองทุนแนะนำยังคงเป็นกองทุนทองคำที่มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนอย่าง K-GOLD ของ บลจ.กสิกรไทย (มีนโยบายจ่ายปันผล) และ ASP-GOLD ของบลจ.Asset Plus (ไม่มีการจ่ายปันผล) ส่วนราคาน้ำมันเรายังคงมุมมองจากสัปดาห์ก่อนหน้า กล่าวคือ คาดว่าราคาน้ำมันจะยังแกว่งตัวในกรอบ 96-106 US$/bbl และเนื่องจากกองทุนหลัก PowerShares DB Oil Fund (DBO) ใกล้จะเริ่มทำการ Rollover สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมัน อาจทำให้ผลตอบแทนที่ได้ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนผ่านกองทุนน้ำมันไปก่อน

สำหรับตลาดหุ้นทั่วโลก ในระยะสั้นคาดว่าจะยังคงเห็นความผันผวน ด้วยปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ทำให้เรามองว่าระยะยาว การเติบโตของประเทศในกลุ่ม Emerging Market ยังดูดีกว่ากลุ่ม G3 (สหรัฐ, ยุโรป และญี่ปุ่น) ดังนั้น ช่วงที่เกิดความผันผวนจึงเป็นจังหวะดีในการเข้าสะสมกองทุนกลุ่ม Emerging Market เพิ่มเพื่อการลงทุนระยะยาว โดยเฉพาะกองทุนจีนที่เราคาดว่าจะเห็นการเติบโตอย่างยั่งยืนในช่วงต่อจากนี้ไป เราจึงยังคงแนะนำกองทุนหุ้นจีนเป็นหลัก

โดยระยะสั้นยังคงต้องเผชิญกับความผันผวนเนื่องจากนโยบายการเงินที่เข้มงวด และมาตรการควบคุมเพื่อจัดการกับปัญหาเงินเฟ้อ แต่มองเป็นโอกาสดีในการสะสม โดยกองทุนแนะนำยังคงเป็น ABCG ของ บลจ. อเบอร์ดีน นอกจากนี้ กองทุนตลาดเกิดใหม่ที่เราเคยแนะนำก็ยังคงแนะนำต่อเนื่องได้แก่ ABGEM และ ABAPAC ซึ่งเรายังคงเชื่อมั่นในการเลือกบริษัท และประเทศที่เป็นเป้าหมายการลงทุน รวมถึงกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศที่ยังคงแนะนำTMB Global Bond Fund ของ บลจ.ทหารไทย ซึ่งกองทุนหลัก (Master Fund) เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศพัฒนาแล้วบางประเทศที่มีเศรษฐกิจ แข็งแกร่ง แต่ระยะสั้นมีโอกาสเห็นความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยน เราแนะนำให้สะสมเมื่อ NAV กองทุนปรับตัวลง

ส่วนนักลงทุนที่ลงทุนใน LTF ระยะสั้นเรายังมองตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวลงต่อ และเรามองว่า SETI ยังคงต้องเผชิญความผันผวนตลาดทั้งปี 2011 ดังนั้นเรายังคงแนะนำกองทุน LTF ความผันผวนต่ำอย่างเช่นกองทุน 1SMART-LTF ของบลจ.วรรณ และกองทุน KSDLTF ของบลจ.กสิกรไทย เป็นเป้าหมายในการสับเปลี่ยนกองทุน LTF และแนะนำ “Wait and See” สำหรับการลงทุน LTF ในรอบปีนี้

นายสานุพงศ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของตลาดหุ้นสำหรัฐอ่อนตัวลงต่อ แม้ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะลดลง 29,000 ราย มาอยู่ที่ 409,000 ราย ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 18,000 ราย แต่ตัวเลขในตลาดบ้านยังคงไม่น่าประทับใจ โดยยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) ลดลง 0.8% ในเดือนเมย. มาอยู่ที่ 5.05 ล้านยูนิต ตรงข้ามกับที่ตลาดคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.25 ล้านยูนิต ประกอบกับแรงกังวลเกี่ยวกับกรีซที่เพิ่มมากขึ้นในวันศุกร์กดดัน DJIA ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะที่ตลาดหุ้นในยุโรปยังคงถูกกดดันด้วยภาพความไม่แน่นอนของปัญหาหนี้กรีซ หลัง Fitch ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลง 3 ขั้นสู่ B+ พร้อมแนวโน้มเชิงลบ ขณะที่การเลือกตั้งของสเปนที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ก็เป็นที่จับตาเช่นกัน

นอกจากนี้ค่าเงินดอลล่าร์ที่พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นในสองสัปดาห์ก่อน เเต่กลับอ่อนตัวลงเล็กน้อยในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย Dollar Index อ่อนค่าลง 0.23% แม้เป็นปัจจัยหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ แต่ราคาน้ำมันยังคงปรับตัวลดลงจากความกังวลด้านอุปสงค์เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจในบางภาคส่วนของสหรัฐยังน่าผิดหวัง อีกทั้งยังเผชิญแรงกดดันด้านอุปทานหลัง IEA ระบุว่ามีความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้นที่จะน้ำมันในคลังสำรองฉุกเฉินออกมาใช้เพื่อกดราคาน้ำมันในตลาดโลกให้ร่วงลง ถ้าหากประเทศผู้ผลิตน้ำมันยังคงไม่ปรับเพิ่มปริมาณการผลิต ส่วนทองคำดีดตัวแรงในท้ายสัปดาห์ หลัง Fitch ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซ ขณะที่ประเทศสมาชิก Euro Zone ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการแก้ปัญหาหนี้กรีซได้
กำลังโหลดความคิดเห็น