ASTVผู้จัดการรายวัน - สมาคมตราสารหนี้ไทย เผย 4 เดือน เงินต่างชาติทะลักลงทุนบอนด์กว่า 425,000 ล้านบาท ชี้ไตรมาส 2 ต่อจากนี้ ต่างชาติจะทยอยเข้ามาอีกเพียบ หลังไทยมีผลิตภัณฑ์เพียงพอต่อการลงทุน โดยเฉพาะบอนด์ระยะสั้นได้รับความสนใจต่อเนื่องหลังดอกเบี้ยปรับขึ้น
นางสาวอริยา ติรณะประกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย หรือ ThaiBMA เปิดเผยว่า ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาการลงทุนในตราสารหนี้มีเงินลงทุนจากต่างชาติไหลเข้ามาประมาณ 425,000 ล้านบาท โดยเม็ดเงินลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดทั่วภูมิภาคที่มีเม็ดเงินทะลักเข้ามาเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้เงินลงทุนของต่างชาติที่ไหลเข้ามาในตลาดตราสารหนี้นั้นส่วนใหญ่เข้ามาลงทุนตราสารระยะสั้น ซึ่งสาเหตุน่าจะเป็นเพราะนักลงทุนต่างชาติมองว่าเศรษฐกิจไทยมีศักยภาพในการเติบโตที่ดีอยู่ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยเป็นทิศทางขาขึ้น ซึ่งยอดถือครองตราสารหนี้ระยะสั้นอายุต่ำกว่า 1 ปี ของนักลงทุนต่างชาติมีประมาณ 80% และเม็ดเงินลงทุนที่ไหลเข้ามาตั้งแต่ต้นปีกว่า 90% เข้ามาลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติเพราะดอกเบี้ยในประเทศกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น
“ถึงแม้ว่าจะมีเงินต่างชาติเข้ามาลงทุนในตราสารหนี้เพิ่มมากขึ้น แต่เราเองยังไม่พบการเก็งกำไรในตลาดตราสารหนี้แต่ประการใดเป็นเพียงการลงทุนตามกลไกตลาดปกติเท่านั้นและคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. คงจะไม่มีความจำเป็นต้องออกมาตรการอะไรเพิ่มเติมเพื่อดูแลตลาดตราสารหนี้” นางสาวอริยา กล่าว
นางสาวอริยา กล่าวต่อไปว่า ในช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไป เงินลงทุนต่างชาติจะทยอยเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้ในไทยอย่างต่อเนื่อง สาเหตุเนื่องมาจากผลิตภัณฑ์ในประเทศไทยเองมีจำนวนที่เพียงพอต่อความต้องการของนักลงทุน อีกทั้งจะเห็นได้ว่านักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในพันธบัตรไทยคิดเป็น 6.2% สูงกว่าปีก่อนที่ 4.2% ซึ่งถือว่ายังไม่มาก จึงเป็นโอกาสที่ต่างชาติจะเข้ามาลงทุนเพิ่มได้อีก ซึ่งถ้าเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านแล้วมีการลงทุนของต่างชาติในพันธบัตรที่ 10%
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้ไทยน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากที่ผ่านมาตลาดตราสารหนี้ของไทยมีขนาดค่อนข้างเล็ก เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน อย่างอินโดนีเซีย หรือประเทศอื่น ๆ ซึ่งอาจมีความน่าสนใจกว่า เพราะประเทศเขามีความเจริญมากในด้านเศรษฐกิจอีกทั้งยังสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าบ้านเรา และมีผลิตภัณฑ์ที่พอต่อความต้องการด้วย
นางสาวอริยา ติรณะประกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย หรือ ThaiBMA เปิดเผยว่า ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาการลงทุนในตราสารหนี้มีเงินลงทุนจากต่างชาติไหลเข้ามาประมาณ 425,000 ล้านบาท โดยเม็ดเงินลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดทั่วภูมิภาคที่มีเม็ดเงินทะลักเข้ามาเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้เงินลงทุนของต่างชาติที่ไหลเข้ามาในตลาดตราสารหนี้นั้นส่วนใหญ่เข้ามาลงทุนตราสารระยะสั้น ซึ่งสาเหตุน่าจะเป็นเพราะนักลงทุนต่างชาติมองว่าเศรษฐกิจไทยมีศักยภาพในการเติบโตที่ดีอยู่ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยเป็นทิศทางขาขึ้น ซึ่งยอดถือครองตราสารหนี้ระยะสั้นอายุต่ำกว่า 1 ปี ของนักลงทุนต่างชาติมีประมาณ 80% และเม็ดเงินลงทุนที่ไหลเข้ามาตั้งแต่ต้นปีกว่า 90% เข้ามาลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติเพราะดอกเบี้ยในประเทศกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น
“ถึงแม้ว่าจะมีเงินต่างชาติเข้ามาลงทุนในตราสารหนี้เพิ่มมากขึ้น แต่เราเองยังไม่พบการเก็งกำไรในตลาดตราสารหนี้แต่ประการใดเป็นเพียงการลงทุนตามกลไกตลาดปกติเท่านั้นและคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. คงจะไม่มีความจำเป็นต้องออกมาตรการอะไรเพิ่มเติมเพื่อดูแลตลาดตราสารหนี้” นางสาวอริยา กล่าว
นางสาวอริยา กล่าวต่อไปว่า ในช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไป เงินลงทุนต่างชาติจะทยอยเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้ในไทยอย่างต่อเนื่อง สาเหตุเนื่องมาจากผลิตภัณฑ์ในประเทศไทยเองมีจำนวนที่เพียงพอต่อความต้องการของนักลงทุน อีกทั้งจะเห็นได้ว่านักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในพันธบัตรไทยคิดเป็น 6.2% สูงกว่าปีก่อนที่ 4.2% ซึ่งถือว่ายังไม่มาก จึงเป็นโอกาสที่ต่างชาติจะเข้ามาลงทุนเพิ่มได้อีก ซึ่งถ้าเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านแล้วมีการลงทุนของต่างชาติในพันธบัตรที่ 10%
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้ไทยน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากที่ผ่านมาตลาดตราสารหนี้ของไทยมีขนาดค่อนข้างเล็ก เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน อย่างอินโดนีเซีย หรือประเทศอื่น ๆ ซึ่งอาจมีความน่าสนใจกว่า เพราะประเทศเขามีความเจริญมากในด้านเศรษฐกิจอีกทั้งยังสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าบ้านเรา และมีผลิตภัณฑ์ที่พอต่อความต้องการด้วย
