ธปท.เผย ทุนนอก 1.2 แสนล้าน ไหลเข้าตลาดบอนด์ คาดเก็งกำไร ดบ.ขาขึ้น สั่งจับตาใกล้ชิด หวั่นทำค่าบาทป่วนหนัก ยอมรับ เม็ดเงินรอบนี้ไม่ค่อยสนใจตลาดหุ้น
นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ค่าเงินบาทในช่วงนี้ค่อนข้างผันผวนเร็ว แต่เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดเงินในภูมิภาคแถบนี้ โดยมีเงินทุนไหลเข้าในเอเชียแทบทุกตลาด ยกเว้นประเทศไต้หวัน ขณะที่ค่าเงินสกุลหลัก เช่น ค่าเงินยูโร และค่าเงินเยนญี่ปุ่น ยังเคลื่อนไหวผันผวนมากในช่วงนี้ เพราะประเทศเหล่านี้จะยึดการดูแลเศรษฐกิจในประเทศตัวเองเป็นหลัก มากกว่าที่จะไปดูแลอัตราแลกเปลี่ยนไม่ให้ผันผวน
สำหรับประเทศไทยนั้น ตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 21 เมษายน 2554 ยังคงมีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ ประเภทพันธบัตร(บอนด์)ประมาณ 100,000 ล้านบาท หรือสูงประมาณ 5 เท่า เมื่อเทียบกับเงินลงทุนจากต่างประเทศที่เข้ามาในตลาดหุ้นไทยประมาณ 19,000-20,000 ล้านบาท และคาดจะยังมีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพราะยังเห็นแนวโน้มเศรษฐกิจไทยไปได้ดีและอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น
“หากเทียบกับปีที่แล้ว ไตรมาสต่อไตรมาสในปี 2554 นี้ มีเงินไหลเข้ามากกว่าปีที่ผ่านมาค่อนข้างมาก เพราะปีที่แล้วมีปัญหาเรื่องการชุมนุมประท้วงทางการเมือง โดยปีนี้ไตรมาสเดียวเงินไหลเข้ามากกว่า 120,000 ล้านบาทแล้ว”
นางอัจนา กล่าวว่า ธปท.ยังคงติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท และการไหลเข้าของเงินทุนจากต่างประเทศอย่างใกล้ชิด ขณะที่ ผู้ว่าการ ธปท.ยืนยันว่า ได้เตรียมมาตรการหลายอย่างเอาไว้ เพื่อดูแลการไหลเข้าของเงินทุนต่างชาติไม่ให้ก่อให้เกิดปัญหากับเศรษฐกิจไทยรุนแรงเกินไป
นางอัจนา กล่าวเสริมว่า หากเกิดกรณีมีความจำเป็นหรือสถานการณ์เปลี่ยนไปจนน่าวิตกจะสามารถหยิบมาใช้ได้ทันที พร้อมยืนยันว่า ขณะนี้ ธปท.ยังไม่กังวลว่า เงินที่ไหลเข้ามาจะเป็นเงินร้อนที่เข้าเร็วออกเร็ว หรือเป็นเงินที่มุ่งเข้ามาเก็งกำไรระยะสั้น แต่ก็ไม่ได้ประมาทมีการเตรียมมาตรการไว้พร้อมที่จะดูแลได้ทันที หากเกิดปัญหา
