ธุรกิจญีปุ่นเตรียมโยกฐานผลิตหนีเงินเยนแข็งค่า ซ้ำเติมภาวะการผลิตที่หยุดชะงักจากไฟฟ้าดับ หวั่นกระทบส่งออกที่เป็นเสาหลักของญี่ปุ่น ขณะที่บริษัทขนาดใหญ่ ได้ประกันความเสี่ยงไว้ที่ 82 เยน/ดอลลาร์
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า กลุ่มบริษัทส่งออกของญี่ปุ่น รวมถึงบริษัทผลิตรถยนต์และบริษัทผลิตอิเล็กทรอนิกส์ ได้แสดงความเป็นห่วงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากเงินเยนที่พุ่งสูงขึ้น หลังจากที่ดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 76.25 เยนต่อดอลลาร์ ในวันนี้
ทั้งนี้ เงินเยนที่แข็งค่าขึ้นอาจจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้ผลิตที่ได้รับความเสียหายอยู่แล้วจากการระงับการผลิต อันเนื่องมาจากาการขาดแคลนไฟฟ้าภายหลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เจ้าหน้าที่ของบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ป กล่าวว่า นอกจากเหนือไปจากความเสียหายทางเศรษฐกิจจากเหตุภัยพิบัติแล้ว เงินเยนที่แข็งค่ามีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นเป็นอันมาก ซึ่งทางบริษัทคาดหวังว่า รัฐบาลและธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะใช้มาตรการที่เหมาะสม
เงินเยนที่แข็งค่าทำให้กลุ่มผู้ส่งออกของญี่ปุ่นวิตกกังวลอย่างมาก เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าทำให้รายได้ของบริษัทเหล่านี้ลดลง ขณะที่อุตสาหกรรมส่งออกถือเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจญี่ปุ่น
นายฮิโรมาสะ โยนิคูระ ประธานสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น เรียกร้องให้รัฐบาลและธนาคารกลางญี่ปุ่นใช้มาตรการที่จริงจัง รวมทั้งการเข้าแทรกแซงค่าเงินเยนที่พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากเงินเยนที่พุ่งสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์นั้น สะท้อนให้เห็นว่ามีการเก็งกำไรและยังเป็นการแข็งค่ามากจนเกินไป
ประธานสมาพันธ์ฯ กล่าวต่อไปว่า เราอยากให้รัฐบาลและธนาคารกลางใช้มาตรการที่จริง รวมถึงการแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราด้วยการประสานงานกับประเทศต่างๆอย่างใกล้ชิด
ด้านนายมาสะมิตสุ ซากุราอิ ประธานสมาคมผู้บริหารบริษัทของญี่ปุ่น ก็ได้ออกแถลงการณ์เช่นกัน โดยเรียกร้องให้นักลงทุนเคลื่อนไหวอย่างสงบ เนื่องจากค่าเงินเยนนั้นไม่ได้สะท้อนปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น
ทั้งนี้ ระดับของเงินเยน ณ ปัจจุบันนั้นยังห่างไกลจากระดับที่บริษัทญี่ปุ่นรายใหญ่ อาทิ โตโยต้า มอเตอร์ ได้กำหนดไว้ โดยบริษัทเหล่านี้ได้กำหนดค่าอัตราแลกเปลี่ยนของเงินดอลลาร์ไว้ที่ 82 เยนต่อดอลลาร์ ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2554
เจ้าหน้าที่ของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์แห่งหนึ่ง กล่าวว่า ขณะที่บริษัทรถยนต์และอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ๆ กำลังย้ายฐานการผลิตไปยังต่างประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินเยนนั้น เราไม่สามารถเพิ่มการผลิตในต่างประเทศได้ในทันทีขณะนี้