แรงซื้อ พลังงาน-ปิโตรฯ หนุนหุ้นไทยยืนเหนือพันจุดแกร่ง สวนทางนิกเคอิ-เอเชีย

แรงซื้อ พลังงาน-ปิโตรฯ หนุนหุ้นไทยดีดบวกกว่า 10 จุด ยืนเหนือระดับ 1 พันจุด ได้อย่างแข็งแกร่ง สวนทางตลาดหุ้นเอเชีย ส่วนดัชนี “นิกเคอิ” ร่วงกว่า 6.4% หนักกว่าช่วงวิกฤต “เลห์แมนฯ” ล้มละลาย “บีโอเจ” อัดเงินเข้าระบบ 1.83 แสนล้านดอลลาร์ สร้างความเชื่อมั่น ศก.คาดนักลงทุนเริ่มผ่อนคลาย

ภาวะตลาดหุ้นไทยภาคบ่าย ดัชนียังเดินหน้าปรับขึ้นได้ต่อเนื่อง และยืนเหนือพันจุดได้อย่างแข็งแกร่ง โดยหลังเปิดตลาดช่วงบ่ายดีดขึ้นไปอีกกว่า 10 จุด สวนทางตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่ที่ร่วงตามตลาดหุ้นนิกเคอิ จากผลกระทบเหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจ โดยเมื่อเวลา 15.04 น.ดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,019.22 จุด เพิ่มขึ้น 12.16 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +1.21% มูลค่าการซื้อขาย 20,579.85 ล้านบาท

ขณะที่ตลาดหุ้นไทยยังมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี ที่คาดการณ์ว่า จะได้รับประโยชน์จากกรณีที่โรงกลั่นและโรงงานปิโตรเคมีหลายแห่งในญี่ปุ่นต้องปิดทำการ ส่วนตลาดหุ้นต่างประเทศยังมีแรงขายออกมาหนักเพื่อรับข่าวภัยพิบัติในญี่ปุ่น แต่สถานการณ์เริ่มดีขึ้น นักลงทุนเริ่มคลายความตื่นตระหนก

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นนิกเคอิของญี่ปุ่นซึ่งเปิดทำการในวันจันทร์ 14 มีนาคม 2554 ซึ่งวันแรกของเหตุภัยพิบัติญี่ปุ่น ดัชนีได้ปรับตัวร่วงหนักกว่า 6.4% สูงกว่าเมื่อเดือนกันยายน 2008 จากกรณีบริษัท เลห์แมน บราเธอร์ส ล้มละลาย

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ประกาศอัดฉีดเงินเข้าสู่ตลาดการเงินระยะสั้นมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ จำนวน 15 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 183,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทางการเงิน หลังเกิดแผ่นดินไหว 9.0 ริกเตอร์ และสึนามิถล่ม จนมีผู้เสียชีวิต และสร้างความเสียหายให้กับประเทศเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ บีโอเจยังได้สำรองเงินมูลค่า 61,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อช่วยเหลือสำหรับสินทรัพย์ที่เสี่ยง เพื่อพยายามเพิ่มความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่กำลังได้รับผลกระทบจากเหตุภัยพิบัติ

ด้านโฆษกของบีโอเจ กล่าวว่า ธนาคารจะดำเนินการทุกอย่างที่เป็นไปได้ เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน สร้างความมั่นคงในตลาดการเงินของประเทศ

มีรายงานเพิ่มเติมว่า ในอนาคต บีโอเจจะมีการอัดเม็ดเงินให้อีก 6.8 ล้านล้านเยน (ประมาณ 73,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เพื่อช่วยเหลือสถาบันการเงินในพื้นที่ประสบภัยไม่ให้ขาดทุน และมีการส่งเงิน 55,000 ล้านเยน เพื่อลดแรงกดดันไปแล้ว

ขณะที่ นายกรัฐมนตรี นาโอโตะ คัง กล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่น พร้อมที่จะดำเนินการที่เด็ดขาด เพื่อป้องกันตลาดการค้าที่ไม่แน่นอน ซึ่งเหมือนเป็นการบ่งบอกว่า จะมีการเข้าแทรกแซง เพื่อหนุนให้ค่าเงินเยนให้คงที่ด้วย

ล่าสุด ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 1,022.89 จุด เพิ่มขึ้น 15.83 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +1.57% มูลค่าการซื้อขาย 31,822.14 ล้านบาท