ก.ล.ต. จ่อปรับปรุงหลักเกณฑ์การลงทุนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เอื้อลูกจ้างกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ไฟเขียวลงทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และสินค้าโภคภัณฑ์ พร้อมเน้นย้ำ บลจ. ประเมินความเสี่ยงลูกจ้าง โดยเฉพาะกองทุนความเสี่ยงสูง
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า สำนักงานก.ล.ต. มีแนวคิดที่จะปรับปรุงหลักเกณฑ์การลงทุนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพื่อให้สมาชิกกองทุนสามารถกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้อย่างเหมาะสม และเป็นการรองรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่มีหลายนโยบายการลงทุน
โดยในเบื้องต้นของรายละเอียดที่จะมีการปรับปรุงนั้น คือ ประเด็นที่ 1. ให้บริษัทจัดการคำนวณอัตราส่วนการลงทุนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่มีหลายนโยบายการลงทุน (master fund) แยกตามรายนโยบายการลงทุน (sub fund) แทนการคำนวณตามรายกองทุนในทุกกรณี โดยรวมถึงกรณีลงทุนในทรัพย์สินของนายจ้างหรือบริษัทในเครือของนายจ้างด้วย
ประเด็นที่ 2. จำกัดการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมภายใต้การจัดการของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมที่เป็นนายจ้างให้ไม่เกิน 15% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และต้องไม่เกิน 15% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของแต่ละกองทุนรวมภายใต้การจัดการของนายจ้างรายเดียวกัน
ประเด็นที่ 3.แก้ไขนิยามของ “บริษัทในเครือของนายจ้างกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ” ให้หมายถึงบริษัทใหญ่และบริษัทย่อยตามมาตรฐานการบัญชีที่สภาวิชาชีพบัญชีกำหนดเกี่ยวกับการจัดทำงบการเงินรวม
ประเด็นที่ 4. อนุญาตให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพสามารถลงทุนในกลุ่มทรัพย์สินทางเลือก (alternative investment) ซึ่งได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และตราสารที่อ้างอิงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ประเภทใดประเภทหนึ่งหรือรวมกันไม่เกิน 15% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของแต่ละกองทุน
ประเด็นที่ 5. อนุญาตให้จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ลงทุนในทรัพย์สินประเภทเดียว (pure asset) ได้ โดยบริษัทจัดการต้องคุมอัตราส่วนการลงทุนตามรายสมาชิก 6.บริษัทจัดการต้องลงทุนในทรัพย์สินที่กำหนดและมีการกระจายความเสี่ยงไม่ต่ำกว่าอัตราส่วนการลงทุนที่กำหนด ไม่ว่าเป็นการลงทุนทางตรงหรือทางอ้อม และประเด็นที่ 7. บริษัทจัดการต้องประเมินความสามารถในการรับความเสี่ยงและให้คำแนะนำที่เหมาะสม (suitability) แก่สมาชิกแต่ละราย ที่มีทางเลือกในการลงทุน (employee’s choice) หากสมาชิกเลือกลงทุนในนโยบายการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำน้อยกว่า 50% ของมูลค่าเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของตนเอง (นโยบายการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำหมายถึงนโยบายที่มีการลงทุนในเงินสด หรือตราสารหนี้ที่ไม่มีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน)
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้จากเอกสารรับฟังความคิดเห็นและร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ของ ก.ล.ต. (www.sec.or.th) หรือทางโทรสารหมายเลข 0-2263-6337 หรือทาง e-mail thaipvd@sec.or.th ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 15 เมษายน 2554
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า สำนักงานก.ล.ต. มีแนวคิดที่จะปรับปรุงหลักเกณฑ์การลงทุนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพื่อให้สมาชิกกองทุนสามารถกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้อย่างเหมาะสม และเป็นการรองรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่มีหลายนโยบายการลงทุน
โดยในเบื้องต้นของรายละเอียดที่จะมีการปรับปรุงนั้น คือ ประเด็นที่ 1. ให้บริษัทจัดการคำนวณอัตราส่วนการลงทุนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่มีหลายนโยบายการลงทุน (master fund) แยกตามรายนโยบายการลงทุน (sub fund) แทนการคำนวณตามรายกองทุนในทุกกรณี โดยรวมถึงกรณีลงทุนในทรัพย์สินของนายจ้างหรือบริษัทในเครือของนายจ้างด้วย
ประเด็นที่ 2. จำกัดการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมภายใต้การจัดการของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมที่เป็นนายจ้างให้ไม่เกิน 15% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และต้องไม่เกิน 15% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของแต่ละกองทุนรวมภายใต้การจัดการของนายจ้างรายเดียวกัน
ประเด็นที่ 3.แก้ไขนิยามของ “บริษัทในเครือของนายจ้างกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ” ให้หมายถึงบริษัทใหญ่และบริษัทย่อยตามมาตรฐานการบัญชีที่สภาวิชาชีพบัญชีกำหนดเกี่ยวกับการจัดทำงบการเงินรวม
ประเด็นที่ 4. อนุญาตให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพสามารถลงทุนในกลุ่มทรัพย์สินทางเลือก (alternative investment) ซึ่งได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และตราสารที่อ้างอิงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ประเภทใดประเภทหนึ่งหรือรวมกันไม่เกิน 15% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของแต่ละกองทุน
ประเด็นที่ 5. อนุญาตให้จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ลงทุนในทรัพย์สินประเภทเดียว (pure asset) ได้ โดยบริษัทจัดการต้องคุมอัตราส่วนการลงทุนตามรายสมาชิก 6.บริษัทจัดการต้องลงทุนในทรัพย์สินที่กำหนดและมีการกระจายความเสี่ยงไม่ต่ำกว่าอัตราส่วนการลงทุนที่กำหนด ไม่ว่าเป็นการลงทุนทางตรงหรือทางอ้อม และประเด็นที่ 7. บริษัทจัดการต้องประเมินความสามารถในการรับความเสี่ยงและให้คำแนะนำที่เหมาะสม (suitability) แก่สมาชิกแต่ละราย ที่มีทางเลือกในการลงทุน (employee’s choice) หากสมาชิกเลือกลงทุนในนโยบายการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำน้อยกว่า 50% ของมูลค่าเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของตนเอง (นโยบายการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำหมายถึงนโยบายที่มีการลงทุนในเงินสด หรือตราสารหนี้ที่ไม่มีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน)
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดได้จากเอกสารรับฟังความคิดเห็นและร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ของ ก.ล.ต. (www.sec.or.th) หรือทางโทรสารหมายเลข 0-2263-6337 หรือทาง e-mail thaipvd@sec.or.th ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 15 เมษายน 2554