ก.ล.ต.หนุนตั้ง “employee’s choice” หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพิ่มทางเลือกในการลงทุน หลังสิ้นปี 53 จำนวนนายจ้างกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมี 9,975 ราย หรือเพิ่มขึ้น 6.4% จากปีก่อนหน้า ส่วนจำนวนสมาชิกกองทุนมีจำนวน 2.1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.3%
วันนี้ (23 มี.ค.) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต.สนับสนุนบริษัทและหน่วยงานต่างๆ ให้จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ให้สมาชิกมีทางเลือกในการลงทุน (employee’s choice) เพื่อสามารถเลือกนโยบายการลงทุนที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดยเมื่อสิ้นปี 2553 มีนายจ้างที่จัดให้มี employee’s choice จำนวน 1,765 ราย คิดเป็น 17.7% ของนายจ้างทั้งหมด เพิ่มขึ้น 34.5% จากปีก่อนหน้า โดยกองทุนหลายนโยบายการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 75 กองทุน หรือคิดเป็น 16% ของกองทุนทั้งหมด เทียบกับปีก่อนหน้าที่มีจำนวน 41 กองทุน หรือคิดเป็นเพียง 8% ของกองทุนทั้งหมด
ขณะที่ ภาพรวมของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพขยายตัวขึ้นอย่างชัดเจน โดย ณ สิ้นปี 2553 จำนวนนายจ้างที่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มี 9,975 ราย เพิ่มขึ้น 6.4% จากปีก่อนหน้า และจำนวนสมาชิกกองทุนมีจำนวน 2.1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.3% ส่วนเงินสะสมและเงินสมทบที่นำส่งเข้ากองทุนปรับเพิ่มขึ้น 2.4% เทียบกับที่เคยปรับลดลง 27.1% ในปีที่ผ่านมา ในขณะที่จำนวนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเมื่อสิ้นปี 2553 ลดลง 34 กองทุน เหลือจำนวน 469 กองทุน เนื่องจากมีการยุบกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนเดียวและเข้าร่วมกองทุนที่มี หลายนโยบายการลงทุน (master fund)
“บริษัทและหน่วยงานประกอบด้วยพนักงานหลากหลายวัยที่มีความต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนและความสามารถในการรับความเสี่ยงแตกต่างกัน ดังนั้น การมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ให้ทางเลือกในการลงทุนย่อมจะตอบโจทย์ให้แก่สมาชิกได้ตรงกว่าการมีกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนเดียว เพื่อให้สามารถบริหารเงินออมที่จะไว้ใช้ในยามเกษียณอายุได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด” นายธีระชัย กล่าว