มรภ.บ้านสมเด็จเจ้าพระยา ฟ้องศาลปกครอง คุ้มครองฉุกเฉินหลักสูตรเทคนิคการแพทย์ หลังสภาวิชาชีพไม่รับรอง ชี้ ข้อบังคับไม่เป็นธรรม มีการปรับเปลี่ยนเกณฑ์ภายหลัง ยันมีความพร้อมทุกด้าน พร้อมเรียกค่าเสียหาย 200 ล.ด้าน “ชินวรณ์” จี้ สกอ.เร่งช่วยเหลือ นศ.หลังเกิดปัญหาซ้ำซ้อน
วันนี้ (14 ก.พ.) ที่ศาลปกครอง ผศ.สมชาย รัศมี รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (มบส.) เปิดเผยว่า ผู้บริหาร มบส.พร้อมด้วย รศ.อนันต์ สกุลกิม อาจารย์ประจำภาควิชาเทคนิคการแพทย์ และทีมฝ่ายกฎหมายของมหาวิทยาลัย เดินทางเข้ายื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉิน เพื่อให้ มบส.จัดการเรียนการสอนสาขาเทคนิคการแพทย์ต่อไปได้ เนื่องจากมติของสภาเทคนิคการแพทย์ไม่เป็นธรรม นอกจากนี้ มบส.ยังได้ยื่นฟ้องสภาเทคนิคการแพทย์เพื่อขอความเป็นธรรมต่อศาลปกครองดังนี้ 1.ขอให้มีการเพิกถอนคำสั่งที่สภาเทคนิคการแพทย์ไม่รับรองปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต (เทคนิคการแพทย์) มบส.เนื่องจากเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย 2.ขอให้เพิกถอนข้อบังคับการรับรองปริญญาของสภาเทคนิคการแพทย์ในหลักสูตรของสถาบันต่างๆ เพื่อใช้ในการสมัครเป็นสมาชิก พ.ศ.2553 3. ขอให้เพิกถอนหลักเกณฑ์ในการพิจารณา เพื่อรับรองหลักสูตรของสถาบันต่างๆ เพื่อใช้เป็นสมาชิก และ 4.ขอเรียกร้องค่าเสียหายในส่วนของ มบส.ที่ได้จัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ในการจัดการเรียนการสอน ค่าจ้างอาจารย์ และค่าเสียหายที่ มบส.ได้รับผลกระทบเสียชื่อเสียง รวมเป็นจำนวนเงิน 200 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ศาลปกครองได้รับคำร้องของ มบส.และจะดำเนินการไต่สวนต่อไป
“เรื่องนี้ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด และการที่สภาเทคนิคการแพทย์ไม่รับรองหลักสูตรของ มบส.นั้น เนื่องจากสภาเทคนิคการแพทย์ปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ภายหลัง ซึ่งไม่เป็นธรรมกับมหาวิทยาลัย ที่สำคัญ การที่ มบส.เปิดหลักสูตรเทคนิคการแพทย์ก็มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน พร้อมทั้งปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ทุกอย่าง โดยหลักสูตรดังกล่าวได้ผ่านการรับรองจากสภามหาวิทยาลัยเมื่อปี 2551 จากนั้นทางมหาวิทยาลัยได้ยื่นเรื่องให้ สกอ.และสภาเทคนิคการแพทย์พิจารณาเมื่อเดือน มี.ค.และ เม.ย.2551 แต่ได้รับหนังสือตอบกลับจาก สกอ.เมื่อต้นปี 2553 และสภาเทคนิคการแพทย์มาตรวจประเมิน 2 ครั้ง ในเดือน เม.ย. และ พ.ย.2553 โดยใช้เกณฑ์พิจาณาคนละฉบับ ซึ่งไม่เป็นธรรมและส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยเป็นอย่างมาก” รองอธิการบดี มบส.กล่าว
ด้าน นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า เรื่องนี้สภามหาวิทยาลัยจะต้องมีส่วนรับผิดชอบ ซึ่งตนได้มอบหมายให้ สกอ.ไปหามาตรการช่วยเหลือนักศึกษาเหล่านี้อย่างเร่งด่วนแล้ว และที่ผ่านมา ตนได้รับทราบถึงปัญหาการร้องเรียนเกี่ยวกับหลักสูตรประเภทนี้มาตลอด ซึ่งตามหลักเกณฑ์ของ ศธ.แล้วการที่จะอนุมัติให้เปิดสาขาวิชาดังกล่าวต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาวิชาชีพ แต่ที่ผ่านมาสภามหาวิทยาลัยได้ไปดำเนินการอนุมัติเปิดสาขาก่อนเพื่อเตรียมความพร้อมในการขออนุมัติจากสภาวิชาชีพ จึงส่งผลกระทบต่อนักศึกษาที่เข้าเรียนไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนจะติดตามเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก โดยเบื้องตนมอบ สกอ.ไปศึกษารายละเอียดว่า กระบวนการเปิดสาขาวิชาของมหาวิทยาลัยที่ต้องได้รับการอนุมัติจากสภาวิชาชีพจะดำเนินการไปพร้อมกันได้อย่างไร เพราะตนไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบกับนักศึกษา และ สกอ.ต้องทำให้ปัญหาเหล่านี้ไม่เกิดขึ้นอีก
“ต่อไปนี้จะต้องมาทบทวน ว่า ถึงจุดทบทวนการปฎิรูปสภามหาวิทยาลัยตลอดจนถึงกฎหมายการศึกษาอุดมศึกษา เพื่อทำให้การศึกษาชาติในระดับอุดมศึกษาเป็นหัวรถจักร เพื่อนำไปสู่การปฎิรูปการศึกษาอย่างแท้จริง เนื่องจากทุกวันนี้มีผู้ประกอบการร้องเรียนถึงคุณภาพบัณฑิตยุคใหม่เข้ามาอย่างมาก” รมว.ศธ.กล่าว