บลจ.นครหลวงไทย ส่งกองทุน "นครหลวงไทย ตราสารหนี้ 3เดือน4/11" ลงทุน 3 เดือนให้ผลตอบแทน 2.15% ต่อปี ขณะที่บลจ.ไอเอ็นจี ส่ง"ไอเอ็นจี ไทย ตราสารหนี้ระยะสั้น 3M5" เอาใจนักลงทุนชอบเสี่ยงน้อย เปิดขายไอพีโอพร้อมกันแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 29 มีนาคม 2554
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.กำลังอยู่ในช่วงเสนอขายหน่วยลงทุนกองทุนเปิดนครหลวงไทย ตราสารหนี้ 3เดือน4/11 ซึ่งมีมูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท และมีอายุโครงการประมาณ 3 เดือน โดยกองทุนดังกล่าวจะให้ผลตอบแทนประมาณ 2.15% ต่อปี ซึ่งเปิดขายหน่วยลงทุนแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 29 มีนาคม 2554
โดยกองทุนเปิดนครหลวงไทย ตราสารหนี้ 3เดือน4/11 จะลงทุนในตั๋วเงินคลัง, พันธบัตรรัฐบาลไทย หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย สัดส่วนการลงทุนโดยประมาณ 60% ตั๋วแลกเงิน ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ประมาณ 20% และตั๋วแลกเงิน ธนาคาร ทหารไทย จำกัด (มหาชน) อีก 20%
นอกจากนี้บลจ.นครหลวงไทย จะทำการจ่ายเงินปันกองทุนเปิดแมกซ์ปันผลหุ้นระยะยาว ( MAX DIV LTF) ครั้งที่ 5 ในอัตราหน่วยละ 0.35 บาท โดยบลจ.จะทำการจ่ายเงินปันในวันที่ 1 เมษายน 2554 นี้อีกด้วย
ขณะที่รายงานข่าวจากบลจ. ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า บริษัทกำลังเปิดขายหน่วยลงทุน กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ตราสารหนี้ระยะสั้น 3M5 ตั้งแต่วันนี้ถึง 28 มีนาคม 2554 โดยกองทุนดังกล่าวมีอายุโครงการประมาณ 3 เดือน ซึ่งกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ตราสารหนี้ระยะสั้น 3M5 เป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายในประเทศ ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และ/หรือภาคเอกชน
โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) จากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ตราสารหนี้ที่ออก รับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกันการจ่ายเงินโดยสถาบันการเงิน หรือธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น รวมทั้งเงินฝาก อย่างไรก็ตาม ในกรณีตราสารดังกล่าวเป็น Subordinated Debt จะต้องได้รับอันดับความน่าเชื่อถือของตราสาร (Issue rating) อยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment grade) เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กองทุนรวมจากบล.ฟิลลิป กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้คาดว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจะปรับตัวในกรอบจำกัด แต่แนวโน้มโดยรวมอัตราผลตอบแทนระยะสั้นยังคงปรับตัวสูงขึ้นตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยังคงมีแนวโน้มปรับตัวลดระดับความชันลงตามเดิม โดยพันธบัตรระยะสั้นอายุ 3-6 เดือน ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย +3b.p. ขณะที่พันธบัตรอายุ 1 ปี อัตราผลตอบแทนคงที่แทบไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนพันธบัตรรัฐบาลระยะกลาง-ยาวปรับตัวลดลงจากความต้องการลงทุน โดยพันธบัตรอายุ 5 ปี อัตราผลตอบแทนปรับตัวลดลง -11 b.p. และพันธบัตรอายุ 10 ปี อัตราผลตอบแทนปรับตัวลดลง -7 b.p
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.กำลังอยู่ในช่วงเสนอขายหน่วยลงทุนกองทุนเปิดนครหลวงไทย ตราสารหนี้ 3เดือน4/11 ซึ่งมีมูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท และมีอายุโครงการประมาณ 3 เดือน โดยกองทุนดังกล่าวจะให้ผลตอบแทนประมาณ 2.15% ต่อปี ซึ่งเปิดขายหน่วยลงทุนแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 29 มีนาคม 2554
โดยกองทุนเปิดนครหลวงไทย ตราสารหนี้ 3เดือน4/11 จะลงทุนในตั๋วเงินคลัง, พันธบัตรรัฐบาลไทย หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย สัดส่วนการลงทุนโดยประมาณ 60% ตั๋วแลกเงิน ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ประมาณ 20% และตั๋วแลกเงิน ธนาคาร ทหารไทย จำกัด (มหาชน) อีก 20%
นอกจากนี้บลจ.นครหลวงไทย จะทำการจ่ายเงินปันกองทุนเปิดแมกซ์ปันผลหุ้นระยะยาว ( MAX DIV LTF) ครั้งที่ 5 ในอัตราหน่วยละ 0.35 บาท โดยบลจ.จะทำการจ่ายเงินปันในวันที่ 1 เมษายน 2554 นี้อีกด้วย
ขณะที่รายงานข่าวจากบลจ. ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า บริษัทกำลังเปิดขายหน่วยลงทุน กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ตราสารหนี้ระยะสั้น 3M5 ตั้งแต่วันนี้ถึง 28 มีนาคม 2554 โดยกองทุนดังกล่าวมีอายุโครงการประมาณ 3 เดือน ซึ่งกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ตราสารหนี้ระยะสั้น 3M5 เป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่เสนอขายในประเทศ ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และ/หรือภาคเอกชน
โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) จากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ตราสารหนี้ที่ออก รับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกันการจ่ายเงินโดยสถาบันการเงิน หรือธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น รวมทั้งเงินฝาก อย่างไรก็ตาม ในกรณีตราสารดังกล่าวเป็น Subordinated Debt จะต้องได้รับอันดับความน่าเชื่อถือของตราสาร (Issue rating) อยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment grade) เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กองทุนรวมจากบล.ฟิลลิป กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้คาดว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจะปรับตัวในกรอบจำกัด แต่แนวโน้มโดยรวมอัตราผลตอบแทนระยะสั้นยังคงปรับตัวสูงขึ้นตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยังคงมีแนวโน้มปรับตัวลดระดับความชันลงตามเดิม โดยพันธบัตรระยะสั้นอายุ 3-6 เดือน ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย +3b.p. ขณะที่พันธบัตรอายุ 1 ปี อัตราผลตอบแทนคงที่แทบไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนพันธบัตรรัฐบาลระยะกลาง-ยาวปรับตัวลดลงจากความต้องการลงทุน โดยพันธบัตรอายุ 5 ปี อัตราผลตอบแทนปรับตัวลดลง -11 b.p. และพันธบัตรอายุ 10 ปี อัตราผลตอบแทนปรับตัวลดลง -7 b.p
