บลจ. ยูโอบี เผย กองทุนส่วนบุคคลปีที่ผ่านมา "เอยูเอ็ม" เพิ่มขึ้นเท่าตัวอยู่ที่ 5,090.00 ล้านบาท ระบุ ลูกค้ามองหาโอกาสลงทุนต่างประเทศมากขึ้น พร้อมออกโปรดักส์เป็นทางเลือกแก่ลูกค้า
นางสาวสิริพร วิทยเลิศพันธุ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวางแผนการลงทุน - ลูกค้าส่วนบุคคลและสถาบัน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี จำกัด กล่าวว่า กองทุนรวมส่วนบุคลของ บลจ.ยูโอบี ในปี 2553 ที่ผ่านมา ลูกค้าส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 34 ราย ปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 57 ราย โดย ในปีที่ผ่านมากองทุนส่วนบุคคลมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) อยู่ที่ 5,090.00 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ซึ่งอยู่ที่2,406.25 ล้านบาท
โดยลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาลงทุนกับบริษัทเป็นกลุ่มลูกค้าที่สนใจการลงทุนในค่างประเทศ เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางแบงก์ชาติให้อนุญาติให้มีการไปลงทุนในต่างประเทศได้ แต่เนื่องจากในช่วงก่อนหน้านี้ เกิดวิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐฯและยุโรป ทำให้ลูกค้ายังไม่กล้าไปลทุน แต่ในปีที่ผ่านมาสถานการณ์การลงทุนในต่างประเทศดีขึ้นนักลงทุนเริ่มกลับเข้าไปลงทุน
ทั้งนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่สนใจคือตราสารหนี้และหุ้นทั้งในสหรัฐฯและยุโรป โดยกองทุนส่วนบุคคลนั้นทาง ยูโอบี ได้เน้นการลงทุนในเชิงรับนั้นคือการให้ลูกค้าเลือการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆด้วยตนเอง ขณะที่ในเชิงรับนั้น ทางยูโอบี มีการออกโปรดักส์ประเภทสตรัคเจอร์โน้ตมูลค่า 800 ล้านบาท เพื่อเสนอให้กับลูกค้าด้วย
"ทางบลจ.ยูโอบี จะสอบถามถึงความต้องการและความเสี่ยงที่ลูกค้าจะรับได้ และเราก็ลงทุนตามที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้าส่วนใหญ่ก็ได้กำไรจากการมาลงทุนในกองทุนส่วนบุคคลของยูโอบี" นางสาวสิริพร กล่าว
นางสาวสิริพร ยังกล่าวต่อว่า การลงทุนของลูกค้ากองทุส่วนบุคคล มีแนวโน้มที่จะไปมองหาโอกาสไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นซึ่งทาง ยูโอบี ก็มีบริษัทที่ลงทุนอยู่ในหลายประเทศและมีความเชี่ยวชาญในการลงทุนในภูมิภาคต่างๆทั่วโลก ดังนั้นจึงสามารถให้คำแนะนำกับลูกค้าเพื่อตอบสนองคงามต้องการของลูกค้าได้อย่างเหมาะสม
นางสาวสิริพร วิทยเลิศพันธุ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวางแผนการลงทุน - ลูกค้าส่วนบุคคลและสถาบัน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี จำกัด กล่าวว่า กองทุนรวมส่วนบุคลของ บลจ.ยูโอบี ในปี 2553 ที่ผ่านมา ลูกค้าส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 34 ราย ปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 57 ราย โดย ในปีที่ผ่านมากองทุนส่วนบุคคลมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) อยู่ที่ 5,090.00 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ซึ่งอยู่ที่2,406.25 ล้านบาท
โดยลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาลงทุนกับบริษัทเป็นกลุ่มลูกค้าที่สนใจการลงทุนในค่างประเทศ เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางแบงก์ชาติให้อนุญาติให้มีการไปลงทุนในต่างประเทศได้ แต่เนื่องจากในช่วงก่อนหน้านี้ เกิดวิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐฯและยุโรป ทำให้ลูกค้ายังไม่กล้าไปลทุน แต่ในปีที่ผ่านมาสถานการณ์การลงทุนในต่างประเทศดีขึ้นนักลงทุนเริ่มกลับเข้าไปลงทุน
ทั้งนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่สนใจคือตราสารหนี้และหุ้นทั้งในสหรัฐฯและยุโรป โดยกองทุนส่วนบุคคลนั้นทาง ยูโอบี ได้เน้นการลงทุนในเชิงรับนั้นคือการให้ลูกค้าเลือการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆด้วยตนเอง ขณะที่ในเชิงรับนั้น ทางยูโอบี มีการออกโปรดักส์ประเภทสตรัคเจอร์โน้ตมูลค่า 800 ล้านบาท เพื่อเสนอให้กับลูกค้าด้วย
"ทางบลจ.ยูโอบี จะสอบถามถึงความต้องการและความเสี่ยงที่ลูกค้าจะรับได้ และเราก็ลงทุนตามที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้าส่วนใหญ่ก็ได้กำไรจากการมาลงทุนในกองทุนส่วนบุคคลของยูโอบี" นางสาวสิริพร กล่าว
นางสาวสิริพร ยังกล่าวต่อว่า การลงทุนของลูกค้ากองทุส่วนบุคคล มีแนวโน้มที่จะไปมองหาโอกาสไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นซึ่งทาง ยูโอบี ก็มีบริษัทที่ลงทุนอยู่ในหลายประเทศและมีความเชี่ยวชาญในการลงทุนในภูมิภาคต่างๆทั่วโลก ดังนั้นจึงสามารถให้คำแนะนำกับลูกค้าเพื่อตอบสนองคงามต้องการของลูกค้าได้อย่างเหมาะสม