xs
xsm
sm
md
lg

"เอ็มเอฟซี"ลุยหุ้นตลาดเกิดใหม่ เพิ่มช้อยส์ลูกค้าหากำไรต่างแดน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.เอ็มเอฟซี เพิ่มทางเลือกรับผลตอบแทนต่างแดน ส่งกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล อีเมอร์จิ้ง 10 ซีรี่ส์ 2 เน้นลงทุนในประเทศตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก บริหารกองทุนแบบ Active โดยตั้งเป้าหมายผลตอบแทนเพื่อเลิกกองทุน ร้อยละ 10 ภายใน 1 ปี เปิดขายครั้งเดียวตั้งแต่วันที่ 18-28 มีนาคมนี้

นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เอ็มเอฟซีเสนอขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล อีเมอร์จิ้ง 10 ซีรี่ส์ 2 (I-Emerging 10S2) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท เป็นทาร์เก็ตฟันด์ที่ตั้งเป้าหมายผลตอบแทนเพื่อเลิกกองทุน ร้อยละ 10 ภายในเวลา 1 ปี โดยลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีสภาพคล่องสูงในประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก โดยมีการบริหารกองทุนแบบ Active เพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนเป้าหมายที่ตั้งไว้ และสามารถปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนในตราสารทุน ตราสารหนี้ และเงินฝาก ตามสภาวการณ์ตลาดได้ทันท่วงที นอกจากนี้ยังลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Hedging) อาจจะทั้งหมดหรือบางส่วน ตามแต่สภาวการณ์ในแต่ละขณะ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารกองทุน

สำหรับกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล อีเมอร์จิ้ง 10 ซีรี่ส์ 2 จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติภายในระยะเวลา 1 ปี หากมูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด I-Emerging 10S2 เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 11.30 บาทเป็นเวลา 5 วันทำการติดต่อกัน หรือ เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 11.30 บาท และทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดสกุลเงินบาททั้งหมด ณ วันทำการใด และผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนคืนไม่ต่ำกว่า 11 บาท โดยบริษัทจะมีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุน และสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนอัตโนมัติไปยังกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี พันธบัตรตลาดเงิน (MM-GOV) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงินที่มีความมั่นคง ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐในประเทศ เพื่อสนับสนุนการลงทุนอย่างต่อเนื่องของผู้ถือหน่วยลงทุนต่อไป หากเกินระยะเวลา 1 ปี กองทุนเปิด I-Emerging 10S2 จะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนซื้อหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ และขายคืนหน่วยลงทุนได้ในวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์

โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เอ็มเอฟซีสามารถปิด I-Emerging 10 โดยมอบผลตอบแทนคืนผู้ถือหน่วยร้อยละ 12.94 สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ภายในเวลาปีเศษ ซึ่งเอ็มเอฟซีมองว่าปีนี้ประเทศเกิดใหม่ยังเป็นกลไกสำคัญในการพาเศรษฐกิจโลกเติบโต โดยเฉพาะบราซิล อินเดีย จีน และประเทศอื่นในเอเชียที่มีความมั่งคั่งและการบริโภคในประเทศที่ขยายตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ตัวเลข GDP เพิ่มสูงขึ้น โดย Nominal GDP ของประเทศเกิดใหม่อยู่ในระดับที่สูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วถึง 3 เท่า และประเทศเกิดใหม่มีการควบคุมงบประมาณการเงินและการคลัง ก่อให้เกิดดุลการค้าและสถาบันการเงินที่แข็งแกร่งทำให้บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือปรับอันดับเครดิตภาครัฐในกลุ่มประเทศเกิดใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ นักลงทุนควรมีการลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ เนื่องจากแนวโน้มเงินทุนไหลเข้าประเทศเกิดใหม่ในระยะยาวยังเป็นบวก ซึ่งจะผลักดันราคาสินทรัพย์ในกลุ่มประเทศดังกล่าวเพิ่มขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น