xs
xsm
sm
md
lg

แนะเก็บหุ้นได้อานิสงค์เงินเฟ้อ เพิ่มด้วยบอนด์สั้น-กองอสังหาฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอ็มดีบลจ.วรรณ แนะนักลงทุนเลือกหุ้นรับที่ได้ผลดีจากเงินเฟ้อ พร้อมเพิ่มสัดส่วนกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น และกองทุนอสังหาฯเข้าพอร์ตสู้ภาวะเงินเฟ้อเร่งตัว-ดอกเบี้ยขาขึ้น

นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด กล่าวว่า เรามองว่าช่วงกลางปี 2554 นี้น่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของไทยอาจจะมีการปรับตัวรับปัจจัยบวกที่จะเกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเรามองว่าหลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาลเกิดขึ้นแล้วดัชนีฯก็อาจจะทรงตัว เนื่องจากคงต้องรอความชัดเจนของรัฐบาลชุดใหม่และนโยบายต่างๆรวมถึงนโยบายเศรษฐกิจที่จะขับเคลื่อนประเทศอีกด้วย อย่างไรก็ตามการลงทุนหุ้นอาจจะต้องระวังความเสี่ยงมากขึ้น หลังจากผ่านฤดูการจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนไปแล้ว ซึ่งนักลงทุนควรเลือกหุ้นเป็นรายตัวและเลือกลุ่มอุตสหกรรมที่ได้รับผลดีจากภาวะเงินเฟ้อในระยะนี้เช่น สินค้าโภคภัณฑ์ สินค้าทางการเกษตร และกลุ่มอุปโภคบริโภค เป็นต้น

ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้นเช่นนี้ การลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งโดยเฉพาะกองทุนตราสารหนี้ประเภท 3-6 เดือน อย่างไรก็ตามหากนักลงทุนที่พอรับความเสี่ยงได้อยากแนะนำให้แบ่งเงินไปลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ เนื่องจากผลตอบแทนค่อนข้างน่าสนใจเมื่อเทียบกับการลงทุนในประเทศ ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาวนั้น หากนักลงทุนรู้ว่าอัตราเงินเฟ้อสูงที่สุด ณ ขณะใดขณะหนึ่ง ก็สามารถลงทุนได้เลย

สำหรับการจัดพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนในช่วงนี้เราอยากแนะนำให้ลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นลงพร้อมกับเลือกหุ้นที่ได้รับอานิสงค์จากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและภาวะเงินเฟ้อ ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้นั้นอาจจะมีการปรับพอร์ตเพิ่มกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นเข้ามา และควรมีการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์อยู่ในพอร์ตด้วย เนื่องจากผลตอบแทนของกองทุนดังกล่าวค่อนข้างดี มีการปันผลที่ค่อนข้างสูงและเป็นการลงทุนที่เหมาะสำหรับภาวะเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นอีกด้วย

ขณะที่รายงานข่าวจากบลจ.วรรณ เปิดเผยว่า ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PFFUND) กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ตรีนิตี้ (TNPF) กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยอินดัสเตรียล 1(TIF1) กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มิลเลียนแนร์ (MIPF) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก (BKKCP) บริษัทมีหนังสือแจ้งผู้ถือหน่วยลงทุนเพื่อขอมติโดยเสียงข้างมากของผู้ถือหน่วยลงทุนเพื่อกำหนดแนวทางดำเนินการกับเงินปันผลในส่วนที่ถือหน่วยลงทุนเกินกว่าอัตราที่ประกาศกำหนดโดยการยกเงินปันผลส่วนที่ไม่อาจจ่ายแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนให้เป็นรายได้แผ่นดิน รวมถึงให้แก้ไขเพิ่มเติมรายละเอียดโครงการและข้อผูกพันระหว่างผู้ถือหน่วยลงทุนและบริษัทเพื่อให้มีข้อกำหนดในเรื่องดังกล่าวข้างต้น ในวันที่ 28 มีนาคม 2554

โดยกำหนดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนลงมติเวียนและส่งกลับมายังบริษัท ภายในวันที่ 11 เมษายน 2554 และบริษัทจะรวบรวมผลของมติเพื่อแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบภายในวันที่ 12 เมษายน 2554โดยเมื่อได้รับมติเสียงข้างมากจากผู้ถือหน่วยลงทุนให้ดำเนินการดังกล่าวแล้วบริษัทจัดการจะยื่นขอความเห็นชอบในการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการต่อสำนักงาน ก.ล.ต.และแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป ซึ่งบลจ.จะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนทั้ง 5 กองทุนเพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือหน่วยลงทุนในการลงมติในวันที่ 24 มีนาคม 2554 นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น