"มนรัฐ" ประเมินตลาดหุ้นไทยยังผันผวน หลังฤดูการจ่ายปันผลผ่านไปแล้ว แนะนักลงทุนกระจายความเสี่ยงเลือกหุ้นคอมมอนีตี้และกลุ่มอุปโภคบริโภคเข้าพอร์ตแทน ล่าสุดเตรียมส่งกองทุน Soft Commodity เพิ่มทางเลือกให้นักลงทุนอีกด้วย
นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ช่วงนี้นักลงทุนอาจจะต้องระวังความเสี่ยงมากขึ้น หลังจากผ่านฤดูการจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียนไปแล้ว ซึ่งนักลงทุนควรเลือกหุ้นเป็นรายตัวและเลือกลุ่มอุตสหกรรมที่ได้รับผลดีจากภาวะเงินเฟ้อในระยะนี้เช่น สินค้า Commodity และกลุ่มอุปโภคบริโภคแทน
อย่างไรก็ตามในช่วง 1-2 เดือนนี้เราจะมีการเปิดขายกองทุนที่กองทุนอ้างอิงดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ประภท Soft Commodity ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงศึกษาข้อมูลอยู่ ส่วนกองทุนประเภททราเก็ตฟันด์นั้นทางบลจ.เองก็ดูอยู่เช่นกันแต่จะเป็นในลักษณะลงทุนในเอเชียมากกว่าที่จะเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างกองทุนของบลจ.ที่เคยออกก่อนหน้านี้
สำหรับแผนการออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์กองใหม่นั้น ทางเรากำลังพิจาณาและศึกษากันอยู่ ซึ่งสินทรัพย์ของกองทุนอสังหาฯใหม่ของเรานั้นเป็นอสังหาที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะในส่วนของเซอร์วิสอพาสเมนท์ ประเภทฟรีโฮลด์ และอยู่ในทำเลที่ดี ในส่วนของอาคารสำนักงานให้เช่านั้นมีการแข็งขันกันค่อนข้างสูง ทำให้มีสำนักงานให้เช่าเกิดขึ้นใหม่ค่อนข้างมาก ทำให้เราไม่โฟกัสในกองทุนอสังฯหาประเภทดังกล่าว
"ในช่วงปี 2554 นี้บลจ.วรรณคงโฟกัสและพัฒนาไปที่ระบบหลังบ้านก่อน ถือว่าเป็นการลงทุนใหญ่ของเราหลังจากไม่ได้มีการปรับปรุงระบบเป็นเวลานาน ซึ่งการปรับปรุงระบบนี้อาจต้องใช้เวลาอีกซักระยะหนึ่ง ทำให้ความเคลื่อนไหวของเราอาจจะมีไม่มากเท่าปีที่ผ่านมา" นายมนรัฐกล่าว
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (8 มีนาคม) กองทุนอสังหาริมทรัพย์ตรีนิตี้ เปิดซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรก โดยราคาเปิดขายอยู่ที่ 10.10 บาท และมีราคาปิดอยู่ที่ 9.95 บาท ซึ่งกองทุนดังกล่าวลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ (Freehold) ในที่ดิน อาคาร และงานระบบสาธารณูปโภค เฟอร์นิเจอร์ วัสดุ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องของเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์โกลว์ ตรีนิตี้ สีลม พื้นที่พาณิชยกรรมโกลว์ ตรีนิตี้ สีลม และกรรมสิทธิ์ห้องชุดอาคารศูนย์การค้ามอลล์ 1 โดยมีการรับประกันรายได้ขั้นต่ำของกองทุนรวมเป็นระยะเวลา 4 ปี โดยปีที่ 1 จะรับประกันรายได้ขั้นต่ำของกองทุนรวมไม่น้อยกว่า 65.7 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 66.7 ล้านบาท 67.1 ล้านบาท และ 67.1 ล้านบาทในปีถัดไปตามลำดับ พร้อมหนังสือค้ำประกันจากธนาคารพาณิชย์ โดยผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับเงินปันผลจากกองทุนรวมอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยมีอัตราผลตอบแทนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิประจำปี