Thai BMA เผยแผนงานปีนี้เตรียมสานต่องานปีที่แล้ว เน้นเป็นสื่อกลางด้วยการลงทุนอย่างครบวงจร ราคายุติธรรมโปร่งใสมากขึ้น ขณะเดียวกันเตรียมขยายฐานนักลงทุนทั่วไปให้เข้ามาลงทุนมากขึ้น
นางสายชล ลิสสวัสดิ์ ฝ่ายวิจัยและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย หรือThaiBMA เปิดเผยว่า ในปีนี้ ThaiBMA ยังคงมุ่งเน้นด้านการพัฒนาตลาดตราสารหนี้อย่างต่อเนื่อง และสานต่อภารกิจหลักๆ ของการทำหน้าที่กำกับดูแลการซื้อขายให้มีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางข้อมูลตราสารหนี้ และตัวกลางในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ไทย เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนเพิ่มขึ้นอีกด้วย
โดยแผนงานหลักๆ ที่ ThaiBMA จะผลักดันในปีนี้ ประกอบไปด้วย บทบาทในการทำหน้าที่สื่อกลางตลาด เนื่องจากแนวทางการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ ไม่สามารถขับเคลื่อนไปได้จากองค์กรใดองค์กรหนึ่งเพียงองค์กรเดียว แต่จำเป็นต้องเชื่อมโยง และอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งในปีนี้ ThaiBMA ยังคงมุ่งทำหน้าที่เป็นสื่อกลางเพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาด้านตราสารหนี้อย่างต่อเนื่อง โดยการเพิ่มบทบาทสื่อกลางระหว่างผู้ร่วมตลาด ไม่ว่าจะเป็นผู้ค้าตราสารหนี้กลุ่มนักลงทุน ผู้ออกตราสารหนี้ และหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแล เพื่อวางรูปแบบแผนการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ร่วมกัน
ขณะเดียวกัน ยังสนับสนุนให้บริษัทหลักทรัพย์ทำการซื้อขายในตราสารหนี้เพิ่มขึ้น เป็นหนึ่งในวัตถุเพื่อเพิ่มจำนวนผู้เล่นในตลาด และให้มีผู้เล่นที่หลากหลายขึ้น โดยคาดหวังจะเพิ่มช่องทางการทำกำไรจากตราสารหนี้เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกรรมแบบ Outright หรือ Private Repo ก็ตาม จะช่วยพัฒนาให้ตลาดตราสารหนี้ไทยเกิดการเติบโตอย่างเข้มแข็ง และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการทำธุรกรรม Private Repo ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาตลาด Private Repo มีการขยายตัวอย่างชัดเจน ด้วยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยในปี 2553 ประมาณ 85,000 ล้านบาทต่อวัน เพิ่มขึ้นจาก 33,000 ล้านบาทต่อวันเมื่อเทียบในปี 2552 แต่อย่างไรก็ตามผู้เล่นในตลาด PrivateRepo ยังคงกระจุกอยู่ในกลุ่มผู้เล่นที่เป็นธนาคารพาณิชย์เป็นหลักเราจึงมีแนวความคิดที่จะพัฒนาตลาด Private repo เพื่อเพิ่มช่องทางในการสร้างผลกำไร และบริหารสภาพคล่องระยะสั้นของผู้ลงทุน
นางสายชล กล่าวต่อไปว่า เรายังจะสนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปลงทุนในตราสารหนี้ นอกเหนือจากนักลงทุนสถาบัน ซึ่งในส่วนของประชาชนทั่วไปก็มีส่วนสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ตลาดตราสารหนี้มีการพัฒนาไปอีกระดับหนึ่งเช่นกัน นอกจากจะเป็นการเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้ประชาชนที่แสวงหาการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ผลตอบแทนสูงกว่าฝากเงินกับธนาคาร และยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการพึ่งพาเงินลงทุนในประเทศมากขึ้น ซึ่งในปีนี้ มีแผนที่จะเน้นด้านการประชาสัมพันธ์ และให้ความรู้ด้านตราสารหนี้แก่ประชาชนทั่วไปผ่านสื่อต่างๆ และจัดสัมมนาความรู้ด้านตราสารหนี้เพื่อนำเสนอทางเลือกในการลงทุนให้ประชาชนทั่วไปได้รู้จักมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังพัฒนาระบบงานภายในให้มีประสิทธิภาพ ในด้านกระบวนการกำหนดราคายุติธรรมเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นที่ยอมรับของตลาดมากขึ้นรวมไปถึงการจัดทำเกณฑ์ในการกำหนดราคาตราสารหนี้ในกรณีที่เกิดการผิดนัดชำระให้เป็นมาตรฐาน สำหรับในด้านการทำหน้าที่กำกับดูแล ThaiBMA มีแผนปรับปรุงระบบการตรวจสอบการซื้อขายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นางสายชล ลิสสวัสดิ์ ฝ่ายวิจัยและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย หรือThaiBMA เปิดเผยว่า ในปีนี้ ThaiBMA ยังคงมุ่งเน้นด้านการพัฒนาตลาดตราสารหนี้อย่างต่อเนื่อง และสานต่อภารกิจหลักๆ ของการทำหน้าที่กำกับดูแลการซื้อขายให้มีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางข้อมูลตราสารหนี้ และตัวกลางในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ไทย เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนเพิ่มขึ้นอีกด้วย
โดยแผนงานหลักๆ ที่ ThaiBMA จะผลักดันในปีนี้ ประกอบไปด้วย บทบาทในการทำหน้าที่สื่อกลางตลาด เนื่องจากแนวทางการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ ไม่สามารถขับเคลื่อนไปได้จากองค์กรใดองค์กรหนึ่งเพียงองค์กรเดียว แต่จำเป็นต้องเชื่อมโยง และอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งในปีนี้ ThaiBMA ยังคงมุ่งทำหน้าที่เป็นสื่อกลางเพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาด้านตราสารหนี้อย่างต่อเนื่อง โดยการเพิ่มบทบาทสื่อกลางระหว่างผู้ร่วมตลาด ไม่ว่าจะเป็นผู้ค้าตราสารหนี้กลุ่มนักลงทุน ผู้ออกตราสารหนี้ และหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแล เพื่อวางรูปแบบแผนการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ร่วมกัน
ขณะเดียวกัน ยังสนับสนุนให้บริษัทหลักทรัพย์ทำการซื้อขายในตราสารหนี้เพิ่มขึ้น เป็นหนึ่งในวัตถุเพื่อเพิ่มจำนวนผู้เล่นในตลาด และให้มีผู้เล่นที่หลากหลายขึ้น โดยคาดหวังจะเพิ่มช่องทางการทำกำไรจากตราสารหนี้เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกรรมแบบ Outright หรือ Private Repo ก็ตาม จะช่วยพัฒนาให้ตลาดตราสารหนี้ไทยเกิดการเติบโตอย่างเข้มแข็ง และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการทำธุรกรรม Private Repo ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาตลาด Private Repo มีการขยายตัวอย่างชัดเจน ด้วยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยในปี 2553 ประมาณ 85,000 ล้านบาทต่อวัน เพิ่มขึ้นจาก 33,000 ล้านบาทต่อวันเมื่อเทียบในปี 2552 แต่อย่างไรก็ตามผู้เล่นในตลาด PrivateRepo ยังคงกระจุกอยู่ในกลุ่มผู้เล่นที่เป็นธนาคารพาณิชย์เป็นหลักเราจึงมีแนวความคิดที่จะพัฒนาตลาด Private repo เพื่อเพิ่มช่องทางในการสร้างผลกำไร และบริหารสภาพคล่องระยะสั้นของผู้ลงทุน
นางสายชล กล่าวต่อไปว่า เรายังจะสนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปลงทุนในตราสารหนี้ นอกเหนือจากนักลงทุนสถาบัน ซึ่งในส่วนของประชาชนทั่วไปก็มีส่วนสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ตลาดตราสารหนี้มีการพัฒนาไปอีกระดับหนึ่งเช่นกัน นอกจากจะเป็นการเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้ประชาชนที่แสวงหาการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ผลตอบแทนสูงกว่าฝากเงินกับธนาคาร และยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการพึ่งพาเงินลงทุนในประเทศมากขึ้น ซึ่งในปีนี้ มีแผนที่จะเน้นด้านการประชาสัมพันธ์ และให้ความรู้ด้านตราสารหนี้แก่ประชาชนทั่วไปผ่านสื่อต่างๆ และจัดสัมมนาความรู้ด้านตราสารหนี้เพื่อนำเสนอทางเลือกในการลงทุนให้ประชาชนทั่วไปได้รู้จักมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังพัฒนาระบบงานภายในให้มีประสิทธิภาพ ในด้านกระบวนการกำหนดราคายุติธรรมเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นที่ยอมรับของตลาดมากขึ้นรวมไปถึงการจัดทำเกณฑ์ในการกำหนดราคาตราสารหนี้ในกรณีที่เกิดการผิดนัดชำระให้เป็นมาตรฐาน สำหรับในด้านการทำหน้าที่กำกับดูแล ThaiBMA มีแผนปรับปรุงระบบการตรวจสอบการซื้อขายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
