xs
xsm
sm
md
lg

ดีมานด์ตราสารหนี้ระยะสั้นล้น บลจ.ตบเท้ารับเงินเก่าครบอายุ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ดีมานด์กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นล้น บลจ.ตบเท้าขายกองทุนใหม่ รองรับเงินลงทุนใหม่และกองเก่าครบอายุ ชูพอร์ตลงทุนกระจายทั้งตั๋วเงินคลังและสถาบันการเงินระยะสั้น และเงินฝากแบงก์นอก

นางสาวยุพาวดี ตู้จินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า หลังจากกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน เค (KFI3MK) ซึ่งบริษัทเสนอขายไปเมื่อวันที่ 8-14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี โดยมีเม็ดเงินลงทุนเข้ามากว่า 7,200 ล้านบาท บลจ. กสิกรไทย จึงเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการต่อเนื่องอีก 1 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน แอล (KFI3ML) ขนาดกองทุน 10,000 ล้านบาท ระยะเวลาลงทุนประมาณ 3 เดือน โดยจะเสนอขายในวันที่ 15-21 กุมภาพันธ์ 2554 เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการทางเลือกในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากประจำและตราสารหนี้ในประเทศที่มีอายุใกล้เคียงกัน ประมาณการอัตราผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนแล้วที่ 2.00% ต่อปี โดยผลตอบแทนดังกล่าวไม่ต้องนำไปคำนวณภาษี

ทั้งนี้ กองทุน KFI3ML เน้นการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยหรือพันธบัตรของธนาคารแห่งประเทศไทย และเพื่อให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐเพียงอย่างเดียว บลจ. กสิกรไทย จึงเพิ่มการลงทุนในเงินฝากอายุ 3 เดือนในสถาบันการเงินในปะเทศอย่างธนาคารออมสินหรือธนาคารกสิกรไทย พร้อมทั้งเงินฝากประจำ 3 เดือนของธนาคาร Union National Bank หรือธนาคาร Emirates NBD ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

ในส่วนของธนาคาร Union National Bank เป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่อันดับ 7 ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีรัฐบาลอาบูดาบีเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ประมาณ 50% และรัฐบาลดูไบถือหุ้นอยู่ 10% ด้านธนาคาร Emirates NBD เป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง ซึ่งประกอบธุรกิจอย่างกว้างขวางในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย และกาตาร์ ทั้งยังมีสาขาในต่างประเทศมากมาย อาทิ อินเดีย อิหร่าน และสิงคโปร์

“บลจ. กสิกรไทยมองว่า อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารใน UAE ในขณะนี้ยังอยู่ในอัตราที่น่าสนใจ ไม่เพียงเท่านั้น ทั้ง 2 ธนาคารยังได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก FITCH ที่ระดับ A+ จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝากหรือตราสารหนี้ในประเทศที่มีอายุใกล้เคียงกัน และดีกว่าการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเพียงอย่างเดียว” นางสาวยุพาวดีกล่าว

สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจ สามารถจองซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน แอล (KFI3ML) ได้ที่สาขาธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท ทั้งนี้ เมื่อกองทุนครบอายุ บลจ. กสิกรไทยจะนำเงินลงทุนเริ่มต้นพร้อมผลตอบแทนจากกองทุน KFI3ML ไปซื้อกองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) ให้แก่ผู้ลงทุนโดยอัตโนมัติ เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนเพิ่มเติมภายใต้ความเสี่ยงต่ำ ในระหว่างพักเงินรอจังหวะลงทุนในกองทุนอื่นๆ ต่อไป

ด้านบลจ. ทหารไทย จำกัด เสนอขายกองทุนตราสารหนี้เพิ่มอีก 3 กองทุน ซึ่งประกอบด้วย กองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตร อายุ 3 เดือน (รุ่นที่ 2) มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท อายุ 6 เดือน (รุ่นที่ 2) มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท และอายุ 1 ปี (รุ่นที่ 2) มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 20,000 ล้านบาท โดยจะเสนอขายระหว่างวันที่ 14-21 กุมภาพันธ์ 2554

ทั้งนี้ ในส่วนของกองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตร 3 เดือน (รุ่นที่ 2) จะลงทุนในตั๋วเงินคลัง หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 3 เดือน (รุ่นที่ 2) เงินฝากหรือตราสารที่ออกโดยสถาบันการเงินหรือธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น (ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน) โดยคาดการณ์ผลตอบแทนประมาณ 1.90% ต่อปี

ส่วนกองทุนเปิดทหารไทยพันธบัต 6 เดือน (รุ่นที่ 2) จะลงทุนในตั๋วเงินคลัง หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 6 เดือน (รุ่นที่ 2) เงินฝากหรือตราสารที่ออกโดยสถาบันการเงินหรือธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น (ระยะเวลาประมาณ 6 เดือน) คาดการณ์ผลตอบแทนประมาณ 2.05% ต่อปี และกองทุนเปิดทหารไทยพันธบัตร 1 ปี (รุ่นที่ 2) จะลงทุนในตั๋วเงินคลัง หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 1 ปี (รุ่นที่ 2) เงินฝากหรือตราสารที่ออกโดยสถาบันการเงินหรือธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น (ระยะเวลาประมาณ 1 ปี) โดยกองทุนคาดการณ์ผลตอบแทนประมาณ 2.30% ต่อปี

ขณะเดียวกัน บลจ.อยุธยา ก็เปิดโอกาสการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีกับ กองทุนเปิดกรุงศรีไทยโน้ท 3M12 กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นอายุ 3 เดือน ซึ่งจะลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐไทย ธุรกรรมการซื้อโดยมีสัญญาขายคืน (Reverse Repo) โดยมีธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นคู่สัญญา ตั๋วแลกเงินออกโดยธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ตั๋วแลกเงินออกโดยธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) หุ้นกู้ระยะสั้นออกโดยธนาคารดอยซ์แบงก์ โดยกองทุนกำหนดอัตรารับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ 2.00% โดยเฉลี่ยต่อปีของเงินลงทุนเริ่มแรก และจะเสนอขายหน่วยลงทุนระหว่างวันที่ 15 - 21 ก.พ. นี้ ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบปกติระหว่างอายุโครงการโดยบริษัทจัดการจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยทำการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทั้งจำนวนของผู้ถือหน่วยลงทุนทุกราย ณ วันทำการก่อนวันสิ้นสุดอายุโครงการไปยัง กองทุนเปิดอยุธยาตราสารเงินพลัส

ส่วนบลจ.บัวหลวง อยู่ระหว่างการเสนอขายกองทุนรวมบัวหลวงธนสิน 1/11 ในระหว่างวันที่ 16 - 22 ก.พ. 54 นี้ โดยกองทุนดังกล่าวมีขนาดโครงการ 2,500 ล้านบาท เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ สถาบันการเงิน และภาคเอกชนในประเทศ อายุประมาณ 6 เดือน ประมาณการผลตอบแทน 2.10% ต่อปี
กำลังโหลดความคิดเห็น