บลจ.เดินเกมแข่งดอกเบี้ยขาขึ้น บลจ.บัวหลวง คลอด "บัวหลวงตราสารหนี้" ลุยตราสารหนี้ภาครัฐ-เอกชน ทั้งในและต่างประเทศ ชูจุดขายจัดสรรเงินสอดคล้องกับแนวโน้มดอกเบี้ย ด้านบลจ.กรุงไทย เอาใจนักลงทุนเล่นสั้นต่อ ขายกองทุน Roll Over 3 เดือน
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดขายกองทุนเพิ่มอีกหนึ่งกองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้ (BFIXED) โดยจะเริ่มเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก ระหว่างวันที่ 9 - 15 กุมภาพันธ์นี้ มูลค่าขั้นต่ำของการสั่งซื้อครั้งแรก 1,000 บาท ซึ่งนักลงทุนประเภทบุคคลธรรมดา กำไรที่ได้รับจากส่วนต่างของราคาหน่วยลงทุนของกองทุนนี้ ได้รับการยกเว้นการเสียภาษี
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวเป็นประเภทแบบไม่มีกำหนดอายุของโครงการ โดยจะเข้าไปลงทุนในตราสารหนี้ทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะปรับสัดส่วนการลงทุนตามสภาวการณ์ เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน ทั้งในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นและขาลง สำหรับเงินลงทุนต่างประเทศจะมีการประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ขณะเดียวกัน กองทุนนี้ยังเป็นกองทุนที่ผู้ลงทุนมีความคล่องตัวในการใช้เงิน โดยหลังจากเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก นักลงทุนสามารถเข้าซื้อหรือขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ
นายวศิน กล่าวต่อไปว่า กองทุน BFIXED เป็นกองทุนที่สามารถตอบโจทย์ของนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ 3 ประการ โดยประการแรก นักลงทุนที่ต้องการให้ผู้จัดการกองทุนบริหารจัดการเงินให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ของแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้เกิดโอกาสสร้างผลตอบแทน ทั้งในช่วงที่แนวโน้มดอกเบี้ยขึ้น และช่วงที่แนวโน้มดอกเบี้ยลง เพียงนักลงทุนลงทุนในกองทุนดังกล่าวเพียงกองเดียว ซึ่งนักลงทุนไม่ต้องคอยโยกเงินไปลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้นเมื่อคาดการณ์ว่าดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น หรือต้องยอมรับกับผลตอบแทนที่ลดลงในภาวะที่ดอกเบี้ยลดลง
ส่วนประการที่สอง นักลงทุนที่ต้องการแบ่งเงินลงทุนไปแสวงหาผลประโยชน์จากผลตอบแทนของตราสารหนี้ในต่างประเทศ แต่ไม่ต้องการได้รับผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน กองทุนดังกล่าวจึงเป็นกองทุนที่มีทีมผู้จัดการกองทุนของบลจ.บัวหลวง จะทำการวิเคราะห์หาจังหวะการลงทุนและจัดสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศไทย และตราสารหนี้ต่างประเทศ โดยสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ จะไม่เกินร้อยละ 40 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ที่สำคัญเงินลงทุนในต่างประเทศและผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ จะมีการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
สุดท้ายประการที่สาม กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่นักลงทุนสามารถซื้อหรือขายคืน หน่วยลงทุนทุกวันทำการ จึงเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการทั้งสภาพคล่อง ขณะเดียวกันก็ต้องการได้รับผลตอบแทนจากตราสารหนี้ระยะปานกลาง ถึงระยะยาว ทั้งนี้ กองทุนจึงแตกต่างจากกองทุนที่มีกำหนดระยะเวลาอื่นๆ ที่ลงทุนแล้ว จะไม่สามารถใช้เงินลงทุนจำนวนนั้นจนกว่าจะครบอายุกองทุน
ด้านนายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 3 เดือน 2 ( KTSIV3M2 ) ระหว่างวันที่ 7-11 กุมภาพันธ์ 2554 เป็นกองทุนประเภท Roll Over ทุก 3 เดือน ซึ่งกองทุนนี้จะลงทุนในพันธบัตรภาครัฐระยะสั้น เงินฝากสถาบันการเงินที่ได้รับความคุ้มครองโดยสถาบันประกันเงินฝาก ตราสารหนี้ธนาคาร และ/หรือตราสารหนี้เอกชนที่มีอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือที่ดี
กองทุนจะเน้นลงทุนในพันธบัตรภาครัฐในประเทศ 8% เงินฝาก/ตั๋วแลกเงิน 68% หุ้นกู้ ธนาคารดอยซ์แบงก์ เอจี 24% ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 2.00% ต่อปี โดยได้รับการยกเว้นภาษี
นายสมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยเคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ มองว่าธนาคารแห่งประเทศไทยน่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 25 bps ในเดือนมีนาคม 2554 และพร้อมที่จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องหากเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม สภาพคล่องในสถาบันการเงินที่ยังอยู่ในระดับสูง เนื่องจากความต้องการพักเงินในช่วงรอจังหวะการปรับอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นและเงินไหลกลับจากการลงทุนในเกาหลีใต้ กองทุนนี้ จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำถึงปานกลาง และ มีเป้าหมายต้องการพักเงินระยะสั้นเพื่อหาโอกาสลงทุนที่เหมาะสมต่อไปในภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น