บลจ.ธนชาต ประเมินตลาดตราสารหนี้ปีกระต่าย ขึ้นอยู่กับ 4 ปัจจัยหลัก ทั้ง ดอกเบี้ย ฟันด์โฟลว์ สภาพคล่อง และอุปทาน ด้าน บลจ.พร้อมใจขายกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น รับสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยถึงแนวโน้มตลาดตราสารหนี้ในปี 2554 ว่า จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก 4 ปัจจัย ได้แก่ 1. ทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ยังเป็นขาขึ้น เพื่อบรรเทาแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่จะสูงขึ้นในอนาคต 2. เม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติที่อาจชะลอลง ส่วนหนึ่งมาจากเงินบาทที่ไม่ได้มีแนวโน้มแข็งค่ามากและเร็วเหมือนช่วงที่ผ่านมา 3. สภาพคล่องในระบบการเงินที่ยังมีอยู่สูง ส่วนหนึ่งจากการที่กองทุนพันธบัตรเกาหลีที่จะครบอายุกลับเข้ามาในประเทศอีกเป็นจำนวนมาก และ 4. อุปทานพันธบัตรไทยที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากจากรายได้ภาษีที่คาดว่าจะจัดเก็บได้เกินประมาณการ
ล่าสุด บริษัทจะเสนอขายกองทุนเปิดธนชาตตราสารภาครัฐ 15 (TG15) อายุโครงการประมาณ 11 เดือน มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท ลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท เสนอขายเพียงครั้งเดียว (IPO) ระหว่างวันที่ 11 - 18 มกราคม 2554
ทั้งนี้กองทุน TG15 เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหรือมีไว้ตราสารแห่งหนี้ที่เป็นตราสารภาครัฐไทย เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาลหรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตร ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน หุ้นกู้ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ ที่กระทรวงการคลังหรือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้สั่งจ่าย ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน และหรือเงินฝาก หรือตราสารที่เทียบเท่าเงินสด หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้ กองทุนดังกล่าวเป็นทางเลือกในการลงทุนให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้นในกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารความเสี่ยงต่ำภาครัฐ
ด้าน รายงานจากบลจ.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการเปิดขายกองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้โรลอัพ 3 ถึงวันที่ 17 มกราคมนี้ โดยกองทุนนี้มีอายุโครงการเพียง 6 เดือน เหมาะในการลงทุนช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เพื่อรับผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากธนาคาร
ทั้งนี้ กองทุนจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพทั้งในและต่างประเทศ เงินฝาก และหรือตราสารทางการเงินหรือตราสารแห่งหนี้อื่นๆ ตลอดจนหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ตามที่คณะกรรมการก.ล.ต. หรือคณะกรรมการก.ล.ต.ประกาสกำหนดหรือให้ความเห็นชอบ
ขณะที่บลจ.อยุธยา อยู่ระหว่างเสนอขายกองทุน กองทุนเปิดกรุงศรีไทยโน้ท 3M7 ระหว่างวันที่ 10 - 17 ม.ค. 2554 นี้ โดยกองทุนดังกล่าว เน้นลงทุนในตราสารแห่งหนี้ เงินฝาก ทั้งของภาครัฐบาล ภาครัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ซึ่งตราสารที่ลงทุนประกอบด้วย ตราสารหนี้ภาครัฐไทยอายุ 3 เดือน ตั๋วแลกเงินออกโดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) อายุ 3 เดือน ตั๋วแลกเงินออกโดยธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) อายุ 3 เดือน และหุ้นกู้ระยะสั้นออกโดยธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ หุ้นกู้ระยะสั้นออกโดยธนาคารดอยซ์แบงก์ อายุ 3 เดือน โดยกองทุนกำหนดอัตรารับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ 1.65% โดยเฉลี่ยต่อปีของเงินลงทุนเริ่มแรก
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยถึงแนวโน้มตลาดตราสารหนี้ในปี 2554 ว่า จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก 4 ปัจจัย ได้แก่ 1. ทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ยังเป็นขาขึ้น เพื่อบรรเทาแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่จะสูงขึ้นในอนาคต 2. เม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติที่อาจชะลอลง ส่วนหนึ่งมาจากเงินบาทที่ไม่ได้มีแนวโน้มแข็งค่ามากและเร็วเหมือนช่วงที่ผ่านมา 3. สภาพคล่องในระบบการเงินที่ยังมีอยู่สูง ส่วนหนึ่งจากการที่กองทุนพันธบัตรเกาหลีที่จะครบอายุกลับเข้ามาในประเทศอีกเป็นจำนวนมาก และ 4. อุปทานพันธบัตรไทยที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากจากรายได้ภาษีที่คาดว่าจะจัดเก็บได้เกินประมาณการ
ล่าสุด บริษัทจะเสนอขายกองทุนเปิดธนชาตตราสารภาครัฐ 15 (TG15) อายุโครงการประมาณ 11 เดือน มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท ลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท เสนอขายเพียงครั้งเดียว (IPO) ระหว่างวันที่ 11 - 18 มกราคม 2554
ทั้งนี้กองทุน TG15 เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหรือมีไว้ตราสารแห่งหนี้ที่เป็นตราสารภาครัฐไทย เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาลหรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตร ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน หุ้นกู้ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ ที่กระทรวงการคลังหรือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้สั่งจ่าย ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน และหรือเงินฝาก หรือตราสารที่เทียบเท่าเงินสด หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้ กองทุนดังกล่าวเป็นทางเลือกในการลงทุนให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้นในกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารความเสี่ยงต่ำภาครัฐ
ด้าน รายงานจากบลจ.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการเปิดขายกองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้โรลอัพ 3 ถึงวันที่ 17 มกราคมนี้ โดยกองทุนนี้มีอายุโครงการเพียง 6 เดือน เหมาะในการลงทุนช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เพื่อรับผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากธนาคาร
ทั้งนี้ กองทุนจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพทั้งในและต่างประเทศ เงินฝาก และหรือตราสารทางการเงินหรือตราสารแห่งหนี้อื่นๆ ตลอดจนหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ตามที่คณะกรรมการก.ล.ต. หรือคณะกรรมการก.ล.ต.ประกาสกำหนดหรือให้ความเห็นชอบ
ขณะที่บลจ.อยุธยา อยู่ระหว่างเสนอขายกองทุน กองทุนเปิดกรุงศรีไทยโน้ท 3M7 ระหว่างวันที่ 10 - 17 ม.ค. 2554 นี้ โดยกองทุนดังกล่าว เน้นลงทุนในตราสารแห่งหนี้ เงินฝาก ทั้งของภาครัฐบาล ภาครัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ซึ่งตราสารที่ลงทุนประกอบด้วย ตราสารหนี้ภาครัฐไทยอายุ 3 เดือน ตั๋วแลกเงินออกโดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) อายุ 3 เดือน ตั๋วแลกเงินออกโดยธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) อายุ 3 เดือน และหุ้นกู้ระยะสั้นออกโดยธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ หุ้นกู้ระยะสั้นออกโดยธนาคารดอยซ์แบงก์ อายุ 3 เดือน โดยกองทุนกำหนดอัตรารับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ 1.65% โดยเฉลี่ยต่อปีของเงินลงทุนเริ่มแรก