อเบอร์ดีน มั่นใจการลงทุนในอเมริกา หลังความเชื่อทางศก. ฟื้นตัว ดันตลาดหุ้นปรับตัวขึ้น ขณะที่กองทุน "อเบอร์ดีน อเมริกัน โกรท ฟันด์" ยิลด์ปรับบวกตั้งแต่ต้นปี
นายชัยเกษม วัฒนศิริพงษ์ หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด กล่าวว่า นักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ ตามที่มีการไหลเข้าของเงินทุนมายังกองทุนหุ้นและกองทุนซื้อขายเงินตราต่างประเทศในปริมาณสูงเมื่อไม่นานมานี้ โดยดัชนีค่าความผันผวนของตลาดหุ้นในดัชนี S&P กลับมาสู่ระดับเดียวกับปี 2550 ก่อนวิกฤตเศรษฐกิจจะเกิดขึ้น ขณะที่อุปสรรคต่อการฟื้นตัวอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจยังคงอยู่ แต่เราเชื่อว่ามีเหตุผลที่นักลงทุนจะเริ่มกลับมามีความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้เช่นกัน ซึ่งมองว่า ธนาคารกลางของสหรัฐฯได้สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างได้ผล
โดยการทุ่มเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ตลาดครั้งล่าสุดหรือ QE2 (Quantitative Easing II) จนถึงขณะนี้ดูเหมือนจะมีผลสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายในการเพิ่มศักยภาพของเศรษฐกิจ ส่งผลให้มีการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ความเชื่อมั่นในการจับจ่ายและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้น ดังมีข้อมูลจากผลสำรวจต่างๆและการฟื้นตัวของยอดขายปลีกที่สูงขึ้นจนถึงระดับก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ผลสำรวจยังชี้ว่าความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน หลายบริษัทได้ประกาศแผนเพิ่มการลงทุน
“เราเชื่อมั่นว่าข้อมูลเศรษฐกิจจะสนับสนุนแนวโน้มที่ดีของตลาดหุ้นสหรัฐฯในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของสหรัฐฯยังคงมีความเสี่ยง เช่น อัตราการว่างงานที่สูงอย่างต่อเนื่อง ราคาโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น ตลาดบ้านที่ยังซบเซาและเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และปัญหาการขาดดุลงบประมาณและขาดดุลการค้า ทำให้ภาพเศรษฐกิจในระยะยาวของสหรัฐฯยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่ในระดับหนึ่ง” นายชัยเกษม กล่าว
สำหรับกองทุนเปิด อเบอร์ดีน อเมริกัน โกรท ฟันด์ ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศ ชื่อ อเบอร์ดีน โกลบอล - อเมริกัน เอคควิตี้ฟันด ์(Aberdeen Global - American Equity Fund) เพียงกองทุนเดียว โดยพอร์ตการลงทุนของอเบอร์ดีนจะประกอบด้วยหุ้นที่มีพื้นฐานดี อีกทั้งเลือกหุ้นจากปัจจัยบริษัทก่อนพิจารณาปัจจัยภาพรวมทางเศรษฐกิจ ซึ่งการจัดการพอร์ตการลงทุนของเราสะท้อนมุมมองในแง่บวกที่ระมัดระวัง
ส่วนอัตราผลตอบแทนล่าสุดของ กองทุนเปิด อเบอร์ดีน อเมริกัน โกรท ฟันด์ ณ วันที่ 28 มกราคม 2554 ตั้งแต่ต้นปี อยู่ที่ 5.78% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน S&P 500 ที่ 4.43%