3บลจ.ใหญ่ "กรุงไทย นครนหลวงไทย และบัวหลวง" เปิดขายกองทุนตราสารหนี้เกาหลีใต้ระยะสั้น หลังต้นทุนสวอปค่าเงินปรับตัวสูงขึ้นส่งผลให้ผลตอบเเทนบอนด์กิมจิขยับขึ้น
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในรอบสัปดาห์นี้ อัตราผลอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรภาครัฐเกาหลีใต้ ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อแปลงกลับเป็นสกุลเงินบาท ส่งผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น
เนื่องจากราคาสวอประหว่างเงินสกุลวอนกับดอลล่าร์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลง จากความกังวลเกี่ยวกับการขาดสภาพคล่องของเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ ในตลาดเงินเกาหลีใต้ในขณะที่ราคาสวอประหว่างสกุลเงินบาท และดอลล่าร์สหรัฐ ในตลาดไทยปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้บริษัทได้เปิดจำหน่ายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ที่ลงทุนในพันธบัตรภาครัฐประเทศเกาหลีใต้อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับกองทุนที่ครบกำหนดอายุโครงการ ในสัปดาหนี้ บริษัทจึงเปิดจำหน่ายกองทุนรวมกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 7 เดือน 4 ( KTFF7M4 ) มีอายุโครงการ 7 เดือน มูลค่า 1,500 ล้านบาท เปิดขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2553
โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ โดยกองทุนจะลงทุนในพันธบัตรภาครัฐประเทศเกาหลีใต้ทั้ง 100% พร้อมทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 1.50% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรภาครัฐในประเทศ
นอกจากนี้ บริษัทยังเปิดจำหน่ายกองทุนประเภท Rollover อย่างต่อเนื่อง โดยในรอบสัปดาห์นี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ3 เดือนคุ้มครองเงินต้น 2 ( KTFIX3M2 ) ถึงวันที่ 29 มกราคม 2553 เป็นกองทุนที่มีอายุโครงการ 3 เดือน มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรภาครัฐในประเทศ และเงินฝากธนาคารพาณิชย์
โดยกองทุนจะลงทุนในพันธบัตรภาครัฐในประเทศ 98% และลงทุนในเงินฝาก/บัตรเงินฝาก/ตั๋วแลกเงินของธนาคารสินเอเชีย 2%ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ส่งผลให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 0.75% ต่อปี ไม่เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย โดยผู้ลงทุนจะไม่เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย จึงเหมาะสำหรับลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำ
ขณะที่นายไตรพิชิต วัฒนวิจิตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บลจ. นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เปิดเสนอขาย กองทุนเปิดนครหลวงไทย ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน2/10 (NKT FFI6M2/10) อายุโครงการประมาณ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ด้วยอัตราผลตอบแทนประมาณ 1.60% ต่อปี (หลังหักค่าใช้จ่าย 0.60% ต่อปี)
ซึ่งมีนโยบายลงทุนใน Korea Monetary Stabilization Bond (MSB) และ Korea Treasury Bond (KTB) ซึ่งเป็นตราสารหนี้พันธบัตรรัฐบาลและ/หรือสถาบันการเงินประเทศเกาหลีใต้ ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารระยะสั้น F-1 จากสถาบัน Fitch Rating ลงทุนในสัดส่วนประมาณ 100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ
และกองทุนได้ทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ลูกค้าที่เป็นบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษีจากผลตอบแทนที่ได้รับ มูลค่าขั้นต่ำของการลงทุนเพียง 2,000 บาท ราคา 10 บาทต่อหน่วยลงทุน
สำหรับแนวโน้มอัตราผลตอบแทนของการลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ มีการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับสภาพคล่องสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐฯในตลาดเงินเกาหลีใต้อาจลดลง สาเหตุจากข่าวที่ทางการเกาหลีใต้มีการจำกัดการออกตราสารสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐฯของธนาคารภาครัฐให้น้อยลง
ทำให้ต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนจากดอลล่าร์สหรัฐฯต่อเงินวอนมีการปรับตัวลดลง จึงส่งผลดีต่อการลงทุนในตลาดเกาหลีใต้ของนักลงทุนต่างประเทศ และเนื่องจากต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงระหว่างสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐฯกับเงินบาทก็ยังมีการปรับตัวดีขึ้น (FX. Premium) จากสภาพคล่องเงินเหรียญสหรัฐฯ ของตลาดเงินในประเทศก็ดีขึ้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตามอัตราผลตอบแทนที่ปรับขึ้นมาอย่างรวดเร็วก็อาจมีโอกาสผันผวนเป็นระยะสั้น ๆ และอาจปรับตัวลดลงอีกครั้งตามภาวะของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (Short-term swap) ที่มีผลต่อต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งตลาดเงินในเกาหลีใต้และตลาดในประเทศ จึงถือเป็นโอกาสของนักลงทุนที่ลงทุนในตลาดพันธบัตรเกาหลีใต้ ที่ได้รับอัตราผลตอบแทนสูงขึ้นจากช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา
ส่วนรายงานข่าวจากบลจ. บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังเปิดขายกองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 2/10(BP2/10)ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีอายุประมาณ 6 เดือน และขนาดโครงการ 1,000 ล้านบาท โดยกองทุนได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งกองทุนแล้วเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2553 และได้เริ่มเปิดขายไอพีโอแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2553 อีกด้วย