xs
xsm
sm
md
lg

ธนชาตตั้งเป้าAUMปีหน้าโต20% รุกกองทุนสำรอง-ส่วนบุคคลเต็มสูบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.ธนชาต ตั้งเป้าปี 53 AUMโต 20% เตรียมหาตราสารหนี้ทั้งในประเทศ เเละต่างประเทศ ทดเเทนบอนด์เกาหลีใต้ พร้อมลุยกองทุนส่วนบุคคล เเละกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเต็มรูปเเบบ
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลข.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า สิ้นปี2552 นี้สินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) ของบริษัทคงจะปิดที่ระดับ 92,000 – 93,000 ล้านบาท โดยในปีหน้าตั้งเป้าการเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 20% โดยการเติบโตยังจะมาจากธุรกิจกองทุนรวมเป็นหลักโดยเฉพาะถ้าต้องการเพิ่มขนาดสินทรัพย์สุทธิคงเลี่ยงกองทุนตราสารหนี้ไม่ได้ แต่ประเด็นสำคัญคือในปีหน้า กองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ที่ออกกันประมาณ 4 แสนล้านบาท ที่จะเริ่มทยอยครบกำหนดเข้ามาต่อเนื่อง ดังนั้น ตลอดทั้งปีหน้าจะเป็นโจทย์ใหญ่สำหรับบลจ.ในการหากองทุนใหม่ออกมารองรับเพื่อรักษาฐานเงินลงทุนในส่วนนี้เอาไว้

ทั้งนี้ หากปี2553 ประเทศเกาหลีใต้ไม่ต้องการเงินทุนเพิ่ม จะทำให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรเกาหลีใต้ก็จะปรับลงอีก ดังนั้น ผลตอบแทนของพันธบัตรเกาหลีใต้ในปี 2553 คงจะไม่หวือหวาเหมือนในปี 2552 นี้ ถึงตรงนั้นบริษัทคงต้องดูอีกครั้งว่า โอกาสการลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ยังน่าสนใจที่จะทำต่ออยู่หรือไม่ ตรงนั้นคงต้องดูทิศทางของดอกเบี้ยในประเทศและในต่างประเทศควบคู่กันไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ในส่วนกองทุนตราสารหนี้ในประเทศ ในส่วนของพันธบัตรรัฐบาลเองผลตอบแทนคงไม่สูงมากนัก และส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลกับดอกเบี้ยเงินฝากมีแนวโน้มจะแคบลงด้วย ตรงนี้ถ้าจะทำกองทุนออกมาคงต้องพิจารณาดูด้วยว่าคุ้มค่าที่จะทำ เพราะหากผลตอบแทนไม่สูงเพียงพอที่จะทำให้นักลงทุนสนใจจะมาลงทุนในกองทุนของเราก็ไม่มีประโยชน์ที่จะทำออกมา ดังนั้น คงต้องขึ้นกับจังหวะของทิศทางดอกเบี้ยในตลาดขณะนั้นๆ ด้วย ส่วนหุ้นกู้เองแม้จะมีความน่าสนใจในแง่ของผลตอบแทนแต่ซัพพลายของหุ้นกู้ก็ไม่ง่ายที่จะหาเพราะส่วนใหญ่ได้ออกกันไปหมดแล้ว แต่โดยภาพรวมการเติบโตยังจะมาจากกองทุนตราสารหนี้เป้นหลักเพียงแต่จะเป็นลักษณะไหนเท่านั้น ขึ้นกับภาวะตลาดด้วย

นายบุญชัย ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ทางกลุ่มผู้ถือหุ้นต่างชาติในธนาคารธนชาตเขามองว่าธุรกิจทั้ง 2 ธุรกิจนี้ ยังมีศักยภาพและโอกาสที่จะเติบโตอีกมาก เพราะในต่างประเทศเองสัดส่วนของธุรกิจกองทุนรวม ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล และธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะมีขนาดที่ใกล้เคียงกัน แต่ในประเทศไทยธุรกิจที่มีขนาดใหญ่จะเป็นธุรกิจกองทุนรวม ตรงนี้เขามองว่าเป็นโอกาสและศักยภาพที่จะเติบโตได้ แต่ทางบริษัทก็ได้บอกถึงโครงสร้างธุรกิจกองทุนในไทยกับต่างประเทศที่อาจจะแตกต่างกัน ซึ่งอาจจะไม่ง่ายนักที่จะขยายธุรกิจในส่วนของกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้ได้เหมือนในต่างประเทศ ตรงประเด็นเหล่านี้ก็คงต้องพูดคุยกันเพื่อปรับความเข้าใจให้ตรงกันแต่ในแง่ของการดำเนินธุรกิจบริษัทยังคงเดินหน้าไปตามเป้าหมายที่ได้ตั้งเอาไว้

“โดยธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลบริษัทจะโฟกัสไปที่การพาลูกค้าไปหาโอกาสการลงทุนในต่างประเทศเป็นหลัก เพราะมองว่าโอกาสการลงทุนมีมากกว่าในต่างประเทศ และลูกค้ากลุ่มนี้มีความรู้ความเข้าใจที่เพียงพอที่จะออกไปลงทุนได้ โดยจะใช้จุดแข็งจากการที่บริษัทมีพันธมิตรทางธุรกิจต่างประเทศให้เป็นประโยชน์”

สำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้น บริษัทจะไม่ลงไปแข่งขันในเรื่องค่าธรรมเนียมกับใคร แต่จะเน้นการทำธุรกิจที่มีกำไรโดยให้บริการที่ดีและมีคุณภาพกับลูกค้าเป็นสำคัญ ซึ่งฐานลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทขนาดกลางถึงเล็ก โดยบริษัทได้ตั้งกองทุนธนชาต Master Fund ขึ้นมาเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2552 ที่ผ่านมา ในลักษณะกองทุนหน่วยลงทุน (Fund of Funds) ซึ่งมี 4 นโยบายการลงทุนตั้งแต่เสี่ยงต่ำไปถึงเสี่ยงสูง โดยจะไปลงทุนผ่านกองทุนรวมของบริษัทอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเริ่มมีลูกค้าบางส่วนเข้ามาใช้ Master Fund แล้วทั้งในส่วนที่เป็นลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ ตรงนี้น่าจะช่วยต่อยอดธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้บริษัทได้ไม่มากก็น้อย
กำลังโหลดความคิดเห็น