บลจ.วรรณ เผย มาบตาพุดไม่กระเทือน"TDEX" เหตุพอร์ตลงทุนอิงดัชนีSET 50 ผลการดำเนินงานปรับตัวขึ้น-ลงตามทิศทางตลาดเป็นหลัก เผยกองทุนหุ้นทุกบลจ.ได้รับผลกระทบมากน้อยต่างกัน เชื่อบลจ.อาจลดสัดส่วนการลงทุนแต่ไม่ขายจนหมดพอร์ต
นายชัยพฤกษ์ กุลกาญจนาธร ผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า พอร์ตการลงทุนของกองทุนเปิด TDEX ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่ลงทุนในตลาดหุ้น โดยอ้างอิงกับดัชนี SET50 มีทั้งหุ้นที่รับผลกระทบจากการระงับโครงการ และหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบ ดังนั้น แม้หุ้นที่มีส่วนเกี่ยวของกับมาบตาพุด จะปรับตัวลดลงแต่หุ้นตัวอื่นๆในตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น จึงไม่ส่งผลกระทบต่อกองทุนเปิดTDEX และที่ผ่านมาพบว่ามูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด TDEX ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
"ถึงแม้ว่าปัญหามาบตาพุด จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นและหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่หากมองถึงภาพรวมตลาดไม่ได้ปรับตัวลดลงตามหุ้นกลุ่มนี้ เพราะตลาดหุ้นในประเทศได้รับปัจจัยภายนอกประเทศช่วยผลักดันให้ดัชนีปรับตัวตามตลาดในภูมิภาค ซึ่งส่วนใหญ่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งภาพรวมของตลาดหุ้นทั่วโลกขณะนี้ก็เป็นขาขึ้น การที่ตลาดหุ้นในประเทศจะปรับตัวลดลงสวนทางกับตลาดอื่นๆจึงมีความเป็นไปได้น้อย และหลายๆปัจจัยที่เกิดขึ้นในประเทศ ไม่สามารถทำให้ตลาดหุ้นตกลงแรงได้ แต่จะให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหมือนช่วงก่อนหน้านี้นั้นก็ยาก ดูได้จากปริมาณการซื้อขายในแต่ละวันที่ค่อนข้างจะเบาบางมากเมื่อเทียบกับช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา " นายชัยพฤกษ์กล่าว
ทั้งนี้ การลงทุนในตลาดหุ้นขณะนี้ไม่ค่อยจะหวือหวามากนัก ส่วนหนึ่งมาจากการที่นักลงทุนต่างชาติอยู่ในช่วงพักร้อน ทำให้บรรยากาศการซื้อขายหุ้นไม่คึกคักเท่าที่ควร โดยส่วนใหญ่การซื้อขายในตลาดหุ้นไทย จะเป็นในส่วนของนักลงทุนสถาบัน นักลงทุนรายย่อย และนักลงทุนที่เข้ามาซื้อกองทุนรวมในช่วงสิ้นปี จึงส่งผลให้ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นแม้จะมีปัญหาต่างๆเกิดขึ้นบ้างก็ตาม
นพอร์ตการลงทุนของกองทุนของทุกๆบลจ.อยู่แล้ว ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้น อาจจะทำให้บริษัทมีการปรับพอร์ตการลงทุน โดยการลดสัดส่วนหุ้นที่ได้รับผลกระทบลง จากนั้นหันไปลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดี อัตราการเติบโตสูง หรือหุ้นที่มีความใกล้เคียงกับหุ้นที่ได้ลดสัดส่วนลงแทน แต่คาดว่าคงไม่มีบลจ.ใดที่จะขายหุ้นที่ได้รับผลกระทบออกจนเหลือ 0 อย่างแน่นอน
สำหรับการลงทุนในปีหน้า ทิศทางและแนวโน้มเป็นอย่างไรนั้น มองว่าขึ้นอยู่กับมุมมองของนักลงทุนแต่ละคนมากกว่า โดยการลงทุนในกองทุนเปิด TDEX หรือTFTSE ยังถือว่ามีความน่าสนใจ ซึ่งที่ผ่านมานั้น กองทุนเปิด TFTSE ที่เป็นกองทุน ETF กองใหม่นั้น มีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ เพราะในช่วงที่ผ่านมานั้น ผลการดำเนินงานในกลุ่มของแบงก์ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่มพลังงานจึงส่งผลให้กองทุนเปิดTFTSE ชนะกองทุนเปิดTDEXได้
นายชัยพฤกษ์ กุลกาญจนาธร ผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า พอร์ตการลงทุนของกองทุนเปิด TDEX ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่ลงทุนในตลาดหุ้น โดยอ้างอิงกับดัชนี SET50 มีทั้งหุ้นที่รับผลกระทบจากการระงับโครงการ และหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบ ดังนั้น แม้หุ้นที่มีส่วนเกี่ยวของกับมาบตาพุด จะปรับตัวลดลงแต่หุ้นตัวอื่นๆในตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น จึงไม่ส่งผลกระทบต่อกองทุนเปิดTDEX และที่ผ่านมาพบว่ามูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด TDEX ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
"ถึงแม้ว่าปัญหามาบตาพุด จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นและหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่หากมองถึงภาพรวมตลาดไม่ได้ปรับตัวลดลงตามหุ้นกลุ่มนี้ เพราะตลาดหุ้นในประเทศได้รับปัจจัยภายนอกประเทศช่วยผลักดันให้ดัชนีปรับตัวตามตลาดในภูมิภาค ซึ่งส่วนใหญ่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งภาพรวมของตลาดหุ้นทั่วโลกขณะนี้ก็เป็นขาขึ้น การที่ตลาดหุ้นในประเทศจะปรับตัวลดลงสวนทางกับตลาดอื่นๆจึงมีความเป็นไปได้น้อย และหลายๆปัจจัยที่เกิดขึ้นในประเทศ ไม่สามารถทำให้ตลาดหุ้นตกลงแรงได้ แต่จะให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหมือนช่วงก่อนหน้านี้นั้นก็ยาก ดูได้จากปริมาณการซื้อขายในแต่ละวันที่ค่อนข้างจะเบาบางมากเมื่อเทียบกับช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา " นายชัยพฤกษ์กล่าว
ทั้งนี้ การลงทุนในตลาดหุ้นขณะนี้ไม่ค่อยจะหวือหวามากนัก ส่วนหนึ่งมาจากการที่นักลงทุนต่างชาติอยู่ในช่วงพักร้อน ทำให้บรรยากาศการซื้อขายหุ้นไม่คึกคักเท่าที่ควร โดยส่วนใหญ่การซื้อขายในตลาดหุ้นไทย จะเป็นในส่วนของนักลงทุนสถาบัน นักลงทุนรายย่อย และนักลงทุนที่เข้ามาซื้อกองทุนรวมในช่วงสิ้นปี จึงส่งผลให้ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นแม้จะมีปัญหาต่างๆเกิดขึ้นบ้างก็ตาม
นพอร์ตการลงทุนของกองทุนของทุกๆบลจ.อยู่แล้ว ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้น อาจจะทำให้บริษัทมีการปรับพอร์ตการลงทุน โดยการลดสัดส่วนหุ้นที่ได้รับผลกระทบลง จากนั้นหันไปลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดี อัตราการเติบโตสูง หรือหุ้นที่มีความใกล้เคียงกับหุ้นที่ได้ลดสัดส่วนลงแทน แต่คาดว่าคงไม่มีบลจ.ใดที่จะขายหุ้นที่ได้รับผลกระทบออกจนเหลือ 0 อย่างแน่นอน
สำหรับการลงทุนในปีหน้า ทิศทางและแนวโน้มเป็นอย่างไรนั้น มองว่าขึ้นอยู่กับมุมมองของนักลงทุนแต่ละคนมากกว่า โดยการลงทุนในกองทุนเปิด TDEX หรือTFTSE ยังถือว่ามีความน่าสนใจ ซึ่งที่ผ่านมานั้น กองทุนเปิด TFTSE ที่เป็นกองทุน ETF กองใหม่นั้น มีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ เพราะในช่วงที่ผ่านมานั้น ผลการดำเนินงานในกลุ่มของแบงก์ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่มพลังงานจึงส่งผลให้กองทุนเปิดTFTSE ชนะกองทุนเปิดTDEXได้
