ผู้จัดการ 360 องศารายสัปดาห์ - การเปิดตลาดหลักทรัพย์ที่คาดว่าจะเริ่มขึ้นในเดือน ธ.ค.นี้ อาจจะช่วยให้สถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชากับประเทศเพื่อนบ้านดีขึ้นมาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศไทย เนื่องจากเป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า “หุ้น” นั้นอ่อนไหวต่อสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมือง นักเศรษฐศาสตร์ที่ประจำในกรุงพนมเปญมาหลายปีให้ความเห็นกับ “ผู้จัดการ 360 องศารายสัปดาห์”
“เท่าที่เราทราบจะเริ่มซื้อขายกันในปลายปีนี้ ในประเทศที่มีความล่อแหลมอย่างมากทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจและการเงิน” นักเศรษฐศาสตร์ที่ไม่สามารถจะระบุชื่อได้กล่าว ระหว่างการสนทนากับผู้สื่อข่าวจากประเทศไทยและเวียดนามกลุ่มหนึ่งที่ จ.แก๊บ (Kep) สัปดาห์ปลายเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา
“ผมเชื่อว่าไม่มากก็น้อย ตลาดหุ้นพนมเปญจะทำให้ความสัมพันธ์กับประเทศไทยพัฒนาไปในทางบวกมากขึ้น มีอีกหลายอย่างที่กัมพูชาจะต้องเรียนจากตลาดหลักทรัพย์ไทย โดยที่อื่นไม่อาจแทนที่ได้” นักเศรษฐศาสตร์คนเดียวกันกล่าว
“ไม่เฉพาะแต่ฮุนเซนเท่านั้นที่จะต้องเงียบลง รวมทั้งคนอื่นๆ ด้วย จะพูดจากโผงผางแบบไม่ระวังเช่นทุกวันนี้คงไม่ได้ ไม่งั้นพวกเขาจะได้รู้รสชาติว่า สถานการณ์จะย่ำแย่เพียงไรหากวันข้างหน้าคำพูดคำจาทำให้ราคาหุ้นตกลงอย่างมหาศาล” นักเศรษฐศาสตร์คนเดียวกันกล่าว
ปัจจุบันมีประมาณ 10 บริษัทที่พร้อมจะนำหุ้นออกจำหน่ายแก่นักลงทุน รวมทั้งธนาคารเอซีลีดา (Acleda Bank) ธนาคารใหญ่ที่สุดในประเทศด้วย ขณะที่กลุ่มธุรกิจใหญ่ที่ใกล้ชิดกับฮุนเซน ไม่ว่าจะเป็นโสกกง (Sok Kong) กลุ่มโรงแรมสุขะ (Sokha Group) หรือ กลุ่มรอยัล (Royal Group) ล้วนแต่มีแผนจะเข้าระดมทุนทั้งสิ้น
ตามรายงานของสื่อในกรุงพนมเปญวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่ามา รัฐบาลกัมพูชาโดยกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังได้เซ็นสัญญากับนักลงทุนจากเกาหลี เพื่อก่อสร้างเขตธุรกิจการเงินขึ้นภายในอาณาบริเวณแคมโคซิตี้ (CAMKO City) ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางธุรกิจของประเทศ ลุ่มทุนจากเกาหลีได้รับสัมปทานที่ดินในย่านนี้เป็นเวลา 99 ปี กับเงินลงทุนราว 2,000 ล้านดอลลาร์ ตลาดหุ้นของประเทศจะอยู่ในบริเวณนี้
ตลาดหลักทรัพย์พนมเปญ เป็นเรื่องที่มีการพูดกันมานานกว่า 10 ปี แต่อาจจะเป็นจริงได้ในปลายปี 2553 เมื่อการก่อสร้างอาคารสถานที่แล้วเสร็จ ด้วยเงินทุนประมาณ 6 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กระทรวงเศรษฐกิจฯ กล่าวว่า เรืองนี้ล่าช้ามานานแล้ว และไม่จำเป็นจะต้องรออาคารสถานที่ แต่อาจจะเริ่มเปิดการซื้อขายหลักทรัพย์ได้ตั้งแต่เดือน ธ.ค.นี้เป็นต้นไป
แต่นักเศรษฐศาสตร์คนเดียวกันกล่าวกับ “ผู้จัดการ 360 องศารายสัปดาห์” ที่เมืองแก๊บว่า ในทางปฏิบัติอาจจะไม่ง่าย กัมพูชายังไม่มีกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฉ้อราษฎร์บังหลวง กฎหมายการธนาคารหละหลวมและขาดธรรมาภิบาลอย่างสิ้นเชิง
“กฎหมายยังไม่เท่าไร ทุกคนทราบดีว่ากฎหมายที่นี่ขึ้นอยู่กับฝ่ายการเมืองเป็นผู้ชีขาด สถานการณ์จะเลวร้ายลงไปอีกถ้าหากการเมืองไม่นิ่ง” นักเศรษฐศาสตร์คนเดียวกันกล่าว