ASTVผู้จัดการรายวัน - สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย มองตลาดบอนด์ปีหน้าคึกคัก ระบุปริมาณหุ้นกู้เอกชนลดลง ตามแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น และพันธบัตรรัฐบาลแย่งชิงดีมานด์ พร้อมยอมรับกรณีระงับโครงการมาบตาพุด ชะลอเอกชนระดมทุน
นายณัฐพล ชวลิตชีวิน กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) เปิดเผยว่า ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยในปี 2552 ภาครัฐและภาคเอกชนมีการระดมทุนด้วยการออกตราสารหนี้กันอย่างท่วมท้น โดยพันธบัตรรัฐบาลที่ออกใหม่ในปีนี้เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปี 2551 ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ทำสถิติใหม่ด้วยมูลค่าหุ้นกู้ออกใหม่ในปีนี้เกือบ 400,000 ล้านบาท
สำหรับการซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดรองไม่น้อยหน้าเช่นกัน นักลงทุนหันมาซื้อขายตราสารหนี้อย่างคึกคัก โดยมูลค่าการซื้อขายตราสารหนี้หากตัดมูลค่าการซื้อขายในพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกจะพบว่ามูลค่าการซื้อขายในตลาดรองมีมูลค่าสูงขึ้นจากปี 2551 กว่าร้อยละ 60 ทั้งนี้ นักลงทุนหันมาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และหุ้นกู้ภาคเอกชนเพิ่มขึ้น หลังจากคลายความกังลงเรื่องภาวะเศรษฐกิจลง และเริ่มแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น
ส่วนแนวโน้มของตลาดตราสารหนี้ในปี 2553 จากการสำรวจเก็บข้อมูลเบื้องต้น พบว่าการซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดรองน่าจะมีการซื้อขายที่คึกคักขึ้นกว่าปี 2552 ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณพันธบัตรรัฐบาลที่มีออกมาใหม่เป็นจำนวนมากในปี 2553 แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงเน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นถึงระยะกลางเท่านั้น เนื่องจากความไม่แน่นอนของทิศทางเศรษฐกิจ ทำให้นักลงทุนยังไม่กล้าลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาวมากนัก
สำหรับในส่วนของตลาดหุ้นกู้เอกชน (Corporate Bonds) จะมีปริมาณการออกที่ลดลงมากพอสมควร โดยมีปัจจัยที่เป็นตัวกระทบ 2 ประการหลักๆ คือ เรื่องของทิศทางดอกเบี้ยที่คาดว่าจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในปีหน้า กับเรื่องของการออกพันธบัตรรัฐบาลจำนวนมากของภาครัฐ
นายณัฐพล กล่าวว่า ในปี 2552 ที่กำลังจะสิ้นสุดลงนี้ บริษัทต่างๆมีการออกหุ้นกู้เอกชนเป็นจำนวนมากถึงเกือบ 400,000 ล้านบาท แต่สำหรับในปีหน้า ประเมินสถานการณ์แล้วน่าที่จะมีปริมาณการออกประมาณ 220,000 - 250,000 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งในบางองค์กรหรือในบางหน่วยงานมองไปถึงระดับประมาณแค่ 200,000 ล้านบาทก็มี
“ปัจจัยหลักๆ ก็คือเรื่องของดอกเบี้ย กับเรื่องของการที่รัฐบาลมีการออกพันธบัตรจำนวนมาก ซึ่งก็จะมากระทบในแง่ของดีมานด์ ประกอบกับในปีนี้บริษัทเอกชนใหญ่ส่วนมากก็ได้มีการชิงกันออกหุ้นกู้กันอย่างมากแล้ว เพราะรู้ว่าถ้าออกในปี 53 ก็ต้องชนกับการออกพันธบัตรของรัฐบาล เลยทำให้ตัวเลขการออกหุ้นกู้ในปีนี้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของตลาดตราสารหนี้ของไทย” กรรมการผู้จัดการ ThaiBMA กล่าว
ส่วนกรณีคำสั่งระงับ 65 โครงการที่มาบตาพุดชั่วคราวนั้น ยอมรับว่าอาจจะมีผลกระทบกับการออกหุ้นกู้เอกชนบ้างเหมือนกัน หากเป็นรายที่ถูกระงับโครงการ ก็ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องระดมเงินในช่วงนี้ เพราะโครงการยังไม่สามารถจะลงทุนหรือดำเนินการอะไรได้ คงต้องรอให้ทางรัฐบาลแก้ไขปัญหาให้เสร็จสิ้นชัดเจนลงไปเสียก่อน จึงจะรู้ว่ามีโครงการใดบ้างที่จะต้องระดมเงินผ่านตลาดตราสารหนี้
“เรื่องมาบตาพุดถ้ากระทบก็คือคงกระทบนิดหน่อย ตรงที่ตอนนี้บริษัทที่ลงทุนยังไม่รู้ว่าจะระดมทุนไปทำอะไร เพราะทุกอย่างยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน” นายณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย
นายณัฐพล ชวลิตชีวิน กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) เปิดเผยว่า ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยในปี 2552 ภาครัฐและภาคเอกชนมีการระดมทุนด้วยการออกตราสารหนี้กันอย่างท่วมท้น โดยพันธบัตรรัฐบาลที่ออกใหม่ในปีนี้เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปี 2551 ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ทำสถิติใหม่ด้วยมูลค่าหุ้นกู้ออกใหม่ในปีนี้เกือบ 400,000 ล้านบาท
สำหรับการซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดรองไม่น้อยหน้าเช่นกัน นักลงทุนหันมาซื้อขายตราสารหนี้อย่างคึกคัก โดยมูลค่าการซื้อขายตราสารหนี้หากตัดมูลค่าการซื้อขายในพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกจะพบว่ามูลค่าการซื้อขายในตลาดรองมีมูลค่าสูงขึ้นจากปี 2551 กว่าร้อยละ 60 ทั้งนี้ นักลงทุนหันมาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และหุ้นกู้ภาคเอกชนเพิ่มขึ้น หลังจากคลายความกังลงเรื่องภาวะเศรษฐกิจลง และเริ่มแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น
ส่วนแนวโน้มของตลาดตราสารหนี้ในปี 2553 จากการสำรวจเก็บข้อมูลเบื้องต้น พบว่าการซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดรองน่าจะมีการซื้อขายที่คึกคักขึ้นกว่าปี 2552 ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณพันธบัตรรัฐบาลที่มีออกมาใหม่เป็นจำนวนมากในปี 2553 แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงเน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นถึงระยะกลางเท่านั้น เนื่องจากความไม่แน่นอนของทิศทางเศรษฐกิจ ทำให้นักลงทุนยังไม่กล้าลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาวมากนัก
สำหรับในส่วนของตลาดหุ้นกู้เอกชน (Corporate Bonds) จะมีปริมาณการออกที่ลดลงมากพอสมควร โดยมีปัจจัยที่เป็นตัวกระทบ 2 ประการหลักๆ คือ เรื่องของทิศทางดอกเบี้ยที่คาดว่าจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในปีหน้า กับเรื่องของการออกพันธบัตรรัฐบาลจำนวนมากของภาครัฐ
นายณัฐพล กล่าวว่า ในปี 2552 ที่กำลังจะสิ้นสุดลงนี้ บริษัทต่างๆมีการออกหุ้นกู้เอกชนเป็นจำนวนมากถึงเกือบ 400,000 ล้านบาท แต่สำหรับในปีหน้า ประเมินสถานการณ์แล้วน่าที่จะมีปริมาณการออกประมาณ 220,000 - 250,000 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งในบางองค์กรหรือในบางหน่วยงานมองไปถึงระดับประมาณแค่ 200,000 ล้านบาทก็มี
“ปัจจัยหลักๆ ก็คือเรื่องของดอกเบี้ย กับเรื่องของการที่รัฐบาลมีการออกพันธบัตรจำนวนมาก ซึ่งก็จะมากระทบในแง่ของดีมานด์ ประกอบกับในปีนี้บริษัทเอกชนใหญ่ส่วนมากก็ได้มีการชิงกันออกหุ้นกู้กันอย่างมากแล้ว เพราะรู้ว่าถ้าออกในปี 53 ก็ต้องชนกับการออกพันธบัตรของรัฐบาล เลยทำให้ตัวเลขการออกหุ้นกู้ในปีนี้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของตลาดตราสารหนี้ของไทย” กรรมการผู้จัดการ ThaiBMA กล่าว
ส่วนกรณีคำสั่งระงับ 65 โครงการที่มาบตาพุดชั่วคราวนั้น ยอมรับว่าอาจจะมีผลกระทบกับการออกหุ้นกู้เอกชนบ้างเหมือนกัน หากเป็นรายที่ถูกระงับโครงการ ก็ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องระดมเงินในช่วงนี้ เพราะโครงการยังไม่สามารถจะลงทุนหรือดำเนินการอะไรได้ คงต้องรอให้ทางรัฐบาลแก้ไขปัญหาให้เสร็จสิ้นชัดเจนลงไปเสียก่อน จึงจะรู้ว่ามีโครงการใดบ้างที่จะต้องระดมเงินผ่านตลาดตราสารหนี้
“เรื่องมาบตาพุดถ้ากระทบก็คือคงกระทบนิดหน่อย ตรงที่ตอนนี้บริษัทที่ลงทุนยังไม่รู้ว่าจะระดมทุนไปทำอะไร เพราะทุกอย่างยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน” นายณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย