คอลัมน์ ตลาดทุนไทยในสายตาต่างชาติ
โดยบริษัท เน็กซ์วิว (ประเทศไทย) จำกัด
โดยทั่วไปนักลงทุนที่สนใจจะเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อซื้อ-ขาย หุ้น ตราสารอนุพันธ์ หรือสินค้าทางการเงินประเภทต่างๆ หลายครั้งนักลงทุนมักเจอปัญหาในเรื่องเกี่ยวกับการตีความ สัญญาณทางเทคนิคที่เราได้เคยเรียนมา หรือ เคยอ่านผ่านๆ ตากันมาบ้าง เช่น กรณีการเกิดสัญญาณต่อเนื่องประเภทสามเหลี่ยม (รูปแบบของสามเหลี่ยม จะไม่ใช่สัญญาณกลับตัว แต่จะเป็นสัญญาณต่อเนื่อง ซึ่งนักลงทุนมักใช้ผิดบ่อยๆ) ที่นักลงทุนมักใช้ในการเก็งกำไรระยะสั้น เพื่อดูแนวโน้มการเคลื่อนไหวของกราฟราคา ว่ามีความแข็งแรง และพร้อมที่จะปรับตัวขึ้น หรือ ปรับตัวลง ตามทิศทางของสามเหลี่ยมที่เกิดขึ้นนั้นๆ ซึ่งการ ซื้อ-ขาย ตามสัญญาณของสามเหลี่ยมนั้น จะให้สัญญาณที่ครบองค์ประกอบของการ เข้าซื้อ และ เข้าขาย คือ 1. สัญญาณเข้า (Entry) ซึ่งจะเกิดขึ้นในกรณีราคาทะลุกรอบของสามเหลี่ยม ขึ้น หรือ ลง 2. สัญญาณขาย (Target) ซึ่งจะเท่ากับระยะที่วัดจากความกว้างของสามเหลี่ยม (เป็นอย่างน้อย) และสุดท้าย 3. สัญญาณตัดขาดทุน (Stop loss) ซึ่งทำได้ค่อนข้างไวมาก อันเนื่องมาจาก หากเบรกในทิศทางตรงข้าม ก็ให้ออกจากตลาดทันที
ผมมีกรณีศึกษาของสัญญาณที่มีลักษณะคล้ายสามเหลี่ยม ที่พบในกราฟราคาทองคำ (Gold spot) ในช่วงสัปดาห์ที่แล้วมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งหากใครตีความผิด ก็จะทำให้ตัดสินใจเข้าถือสัญญา Long ใน Gold Futures ซึ่ง ณ ตลาดขณะนั้น กำลังเป็นขาลง
กราฟราย 15 นาที ของทองคำในตลาดโลกปรับตัวให้เห็นคล้ายๆ กับรูปสามเหลี่ยม โดยมีกรอบกว้างๆ อยู่ที่ประมาณ 1182.5 – 1191 USD ซึ่งจะมีระยะทางหลังจากทะลุขึ้นไปเท่ากับ 8.5 USD และมีแนวโน้มจะทำ new high อีกครั้ง แต่หากจะพิจารณาการเคลื่อนไหวของกราฟก่อนหน้านี้ ซึ่งมีลักษณะของการเคลื่อนไหว Sideway ในลักษณะกึ่งปรับตัวลง และมีกราฟราคาอยู่เหนือกรอบบนสุดของสามเหลี่ยมเป็นตัวควบคุมจังหวะการเคลื่อนไหว จึงทำให้การเกิดสามเหลี่ยมที่หลายคนคาดไว้ผิดพลาดได้
จริงๆ แล้ว หากใครจะทำการ ซื้อ-ขาย โดยอาศัยรูปแบบของ Chart pattern นั้น จำเป็นที่จะต้องมีความเข้าใจ ความแกร่งของกราฟ หรือ ความอ่อนแอของกราฟ หรืออาศัยวิธีการที่ศึกษาในระดับย่อยกว่า หรือที่เราเรียกว่า Candlestick หรือกราฟแท่งเทียนเสียก่อน เพราะจะทำให้เราสามารถแยก หรือ จำแนกประเภทของ Chart pattern ว่าเป็นสัญญาณจริง หรือสัญญาหลอกกันแน่ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องสูญเสียเงินให้กับความผิดพลาดที่สามารถแก้ไขได้อีกต่อไป
ในวันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม ที่กำลังจะถึงนี้ ผมได้เปิดสอนหลักสูตร “Art of Candlestick” เป็นระยะเวลา 1 เดือนเต็ม โดยรวบรวมหลักและเทคนิคที่จำเป็น ในการเข้า- ออก ตลาด โดยอาศัย สัญญาณจากกราฟแท่งเทียนเป็นตัวบอก อันเนื่องมาจากในหลักสูตรระยะสั้นที่ผมเคยสอนนั้น มีนักเรียนของผม หลายรุ่น และหลายคน ต้องการให้เปิดหลักสูตรนี้อย่างจริงจัง ก็เลยเป็นที่มาของการเปิดสอนในครั้งนี้ หากนักลงทุนท่านใดสนใจในหลักสูตรดังกล่าว สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02 955 1700 หรือ 089 072 7776 หรือ www.technicalday.com, www.chart-master.com
โดยบริษัท เน็กซ์วิว (ประเทศไทย) จำกัด
โดยทั่วไปนักลงทุนที่สนใจจะเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อซื้อ-ขาย หุ้น ตราสารอนุพันธ์ หรือสินค้าทางการเงินประเภทต่างๆ หลายครั้งนักลงทุนมักเจอปัญหาในเรื่องเกี่ยวกับการตีความ สัญญาณทางเทคนิคที่เราได้เคยเรียนมา หรือ เคยอ่านผ่านๆ ตากันมาบ้าง เช่น กรณีการเกิดสัญญาณต่อเนื่องประเภทสามเหลี่ยม (รูปแบบของสามเหลี่ยม จะไม่ใช่สัญญาณกลับตัว แต่จะเป็นสัญญาณต่อเนื่อง ซึ่งนักลงทุนมักใช้ผิดบ่อยๆ) ที่นักลงทุนมักใช้ในการเก็งกำไรระยะสั้น เพื่อดูแนวโน้มการเคลื่อนไหวของกราฟราคา ว่ามีความแข็งแรง และพร้อมที่จะปรับตัวขึ้น หรือ ปรับตัวลง ตามทิศทางของสามเหลี่ยมที่เกิดขึ้นนั้นๆ ซึ่งการ ซื้อ-ขาย ตามสัญญาณของสามเหลี่ยมนั้น จะให้สัญญาณที่ครบองค์ประกอบของการ เข้าซื้อ และ เข้าขาย คือ 1. สัญญาณเข้า (Entry) ซึ่งจะเกิดขึ้นในกรณีราคาทะลุกรอบของสามเหลี่ยม ขึ้น หรือ ลง 2. สัญญาณขาย (Target) ซึ่งจะเท่ากับระยะที่วัดจากความกว้างของสามเหลี่ยม (เป็นอย่างน้อย) และสุดท้าย 3. สัญญาณตัดขาดทุน (Stop loss) ซึ่งทำได้ค่อนข้างไวมาก อันเนื่องมาจาก หากเบรกในทิศทางตรงข้าม ก็ให้ออกจากตลาดทันที
ผมมีกรณีศึกษาของสัญญาณที่มีลักษณะคล้ายสามเหลี่ยม ที่พบในกราฟราคาทองคำ (Gold spot) ในช่วงสัปดาห์ที่แล้วมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งหากใครตีความผิด ก็จะทำให้ตัดสินใจเข้าถือสัญญา Long ใน Gold Futures ซึ่ง ณ ตลาดขณะนั้น กำลังเป็นขาลง
กราฟราย 15 นาที ของทองคำในตลาดโลกปรับตัวให้เห็นคล้ายๆ กับรูปสามเหลี่ยม โดยมีกรอบกว้างๆ อยู่ที่ประมาณ 1182.5 – 1191 USD ซึ่งจะมีระยะทางหลังจากทะลุขึ้นไปเท่ากับ 8.5 USD และมีแนวโน้มจะทำ new high อีกครั้ง แต่หากจะพิจารณาการเคลื่อนไหวของกราฟก่อนหน้านี้ ซึ่งมีลักษณะของการเคลื่อนไหว Sideway ในลักษณะกึ่งปรับตัวลง และมีกราฟราคาอยู่เหนือกรอบบนสุดของสามเหลี่ยมเป็นตัวควบคุมจังหวะการเคลื่อนไหว จึงทำให้การเกิดสามเหลี่ยมที่หลายคนคาดไว้ผิดพลาดได้
จริงๆ แล้ว หากใครจะทำการ ซื้อ-ขาย โดยอาศัยรูปแบบของ Chart pattern นั้น จำเป็นที่จะต้องมีความเข้าใจ ความแกร่งของกราฟ หรือ ความอ่อนแอของกราฟ หรืออาศัยวิธีการที่ศึกษาในระดับย่อยกว่า หรือที่เราเรียกว่า Candlestick หรือกราฟแท่งเทียนเสียก่อน เพราะจะทำให้เราสามารถแยก หรือ จำแนกประเภทของ Chart pattern ว่าเป็นสัญญาณจริง หรือสัญญาหลอกกันแน่ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องสูญเสียเงินให้กับความผิดพลาดที่สามารถแก้ไขได้อีกต่อไป
ในวันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม ที่กำลังจะถึงนี้ ผมได้เปิดสอนหลักสูตร “Art of Candlestick” เป็นระยะเวลา 1 เดือนเต็ม โดยรวบรวมหลักและเทคนิคที่จำเป็น ในการเข้า- ออก ตลาด โดยอาศัย สัญญาณจากกราฟแท่งเทียนเป็นตัวบอก อันเนื่องมาจากในหลักสูตรระยะสั้นที่ผมเคยสอนนั้น มีนักเรียนของผม หลายรุ่น และหลายคน ต้องการให้เปิดหลักสูตรนี้อย่างจริงจัง ก็เลยเป็นที่มาของการเปิดสอนในครั้งนี้ หากนักลงทุนท่านใดสนใจในหลักสูตรดังกล่าว สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02 955 1700 หรือ 089 072 7776 หรือ www.technicalday.com, www.chart-master.com